เศร้าทั้งจังหวัด ! "รอง ผวจ. ประจวบฯ" สิ้นใจอย่างสงบ ด้วยวัย 58 ปี
28 ก.ย. 2564, 06:58
วันที่ 27 กันยายน 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 15.30 น. นายชาตรี จันทร์วีระชัย อายุ 58 ปี รองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เสียชีวิตอย่างสงบ ที่ห้อง 310 ตึกอายุรกรรมชาย โรงพยาบาลประจวบคีรีขันธ์ ภายหลังเข้ารับการรักษาตัวนานกว่า 1 สัปดาห์
ขณะที่ก่อนหน้านี้เข้ารับการผ่าตัดอาการไส้ติ่งอักเสบที่ รพ.แห่งหนึ่งใน กทม. แต่แพทย์แจ้งญาติว่าพบก้อนเนื้อร้ายในช่องท้อง จึงทำการรักษาอย่างต่อเนื่องทำให้อาการทุเลา จากนั้นได้ย้ายกลับมารักษาที่ รพ.ประจวบคีรีขันธ์ จนกระทั่งเสียชีวิต โดยกำหนดบำเพ็ญกุศลที่คริสตจักรพระกิตติคุณสมบูรณ์ ภายในโรงเรียนกิตติคุณ ถนนประจวบศิริ เขตเทศบาลเมือวงประจวบคีรีขันธ์
ด้านนางแก้วตา จันทร์วีระชัย อดีตรองนายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองประจวบฯ พี่สาวนายชาตรี กล่าวว่า ส่วนตัวรู้สึกช๊อกเนื่องจากระหว่างพักรักษาอาการที่ รพ.ประจวบฯ ยังมีอาการเป็นปกติ หลังจากแพทย์ให้ยาตามอาการ และช่วงบ่ายน้องชายได้นอนหลับพักผ่อนตามปกติ แต่พบว่าเสียชีวิตในเวลาต่อมา ส่วนอาการเริ่มต้นที่ทำให้ใช้เวลารักษานานหลายเดือน เนื่องจากต้องเข้าผ่าตัดด่วนจากสาเหตุไส้ติ่งแตก ทำให้มีปัญหาการรับประทานอาหารและการขับถ่ายไม่ปกติ
สำหรับนายชาตรี จันทร์วีระชัย เกิดเมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2505 จบการศึกษาระดับมัธยมที่โรงเรียนอรุณวิทยา อ.ทับสะแก จ.ประจวบคีรีขันธ์ จบการศึกษาปริญญาตรี คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ขณะรับราชการในกระทรวงมหาดไทย ได้ทำหน้าที่เลขานุการหน้าห้องคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธ์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข สำหรับตำแหน่งสำคัญได้รับคำสั่งแต่งตั้งเป็นนายอำเภอใน จ.ราชบุรี ต่อมาเป็นนายอำเภอกุยบุรี 3 ปี จากนั้นเลื่อนตำแหน่งเป็นปลัดจังหวัดระนอง 1 ปี เลื่อนเป็นรองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนมเดือนกุมภาพันธ์ 2563 จากนั้นเดินมารับตำแหน่งรองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2563
สำหรับผลงานอันโดดเด่นของนายชาตรี จันทร์วีระชัย คือการร่วมอนุรักษ์ปกป้องทรัพยากรธรรมชาติช้างและสัตว์ป่าในพื้นที่อุทยานแห่งชาติกุยบุรี ทำให้ภาพนักอนุรักษ์โดดเด่น การส่งเสริมการท่องเที่ยวในกุยบุรี ในจังหวัดประจวบฯ การรักษาสิ่งแวดล้อม และเป็นคนที่ทำงานอย่างตรงไปตรงมา เมื่อชาวบ้านร้องศูนย์ดำรงธรรม จะเดินทางไปตรวจสอบข้อเท็จจริงด้วยตัวเอง หากวันหยุดว่าง จะชอบเดินทางไปพบประชาชนในชนบทแบบไม่ถือตัว ทำให้เป็นที่รักเคารพของชาวบ้านประจวบคีรีขันธ์