ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 28 กันยายน เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองระยอง รับแจ้ง จากนายชัยสิน อายุ 41 ปี ว่าพบเจอรถยนต์ มิตซูบิชิ ปาเจโร่ สีเทา ที่ได้แจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานที่ สภ.บ้านค่าย จ.ระยอง ว่ารถคันดังกล่าวได้หายไป  จึงขอให้มาระงับการทะเลาะวิวาทกับผู้ซื้อดาวน์รถไปที่หน้าปากทางเข้าตลาดบุญส่ง ริมถนนบายพาส3 6 ระยอง - ชลบุรี เขตเทศบาลตำบลเชิงเนิน อ.เมือง จ.ระยอง 

นายชัยสิน พนักงานขายรถยนต์ใหม่ป้ายแดงยี่ห้อดัง เล่าว่า เดิมทีรถมิตซูบิชิ ปาเจโร่ ทางเจ้าของรถได้นำมาตีเทิร์นออกรถใหม่ป้ายแดงไป ตนเองจึงได้ทำสัญญาซื้อขายกับเจ้าของรถพร้อมกับแจ้งว่า รถมิตซูบิชิ ปาเจโร่คันดังกล่าวยังคงมียอดคงเหลือกับ บริษัทไฟแนนซ์ผู้เป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ของรถยนต์คันดังกล่าว ในจำนวนที่สูงซึ่งจะหาคนมารับซื้อยาก จึงได้ติดต่อขายดาวน์รถให้กับ นายพงษ์พันธ์ อายุ 40 ปี ซึ่งเป็นเพื่อนกันนำไปตั้งขายที่เต๊นท์รถยนต์มือ 2 ของเขาในอำเภอบ้านค่าย เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ.2563 ต่อมานายพงษ์พันธ์ ได้เกิดปัญหาจ่ายชำระค่างวดล่าช้ากับบริษัทไฟแนนซ์ ผู้ถือกรรมสิทธิ์ จนทำให้บริษัทไฟแนนซ์ โทรศัพท์ติดตามทวงหนี้ กับนางประยูร อายุ 69 ปี ผู้เป็นเจ้าของรถ จนได้รับความเดือดร้อน ถึงขนาดที่ต้องจูงมือ น.ส.ฐิตารีย์ อายุ 44 ปี ผู้เป็นลูกสาวไปถือศีลภาวนาขอให้พบเจอรถเพื่อนำกลับมา 

ด้านนายพงษ์พันธ์ ฯ เจ้าของเต็นท์รถยนต์มือสองแห่งหนึ่ง ยอมรับว่า เป็นผู้ซื้อรถยนต์คันดังกล่าวจากนายชัยสิน ฯจริง ซึ่งที่ผ่านมา ตนเองก็ชำระค่างวดมาโดยตลอดเป็นระยะเวลาจำนวน ร่วม 1 ปี คิดเป็นเงินสดที่จ่ายไป รวมกับค่าซ่อมและค่าตบแต่งต่างๆ รวมแล้วเป็นจำนวนเงินสด ถึง2 แสนกว่าบาท และยอมรับว่า ค่างวดที่ค้าง ก็ไม่ได้ค้างเกินกำหนดไฟแนนซ์ถึง 3 งวด ที่เป็นระเบียบของไฟแนนซ์ก่อนจะบอกเลิกสัญญากับผู้เช่าซื้อ ซึ่งในส่วนนี้หากเจ้าของรถต้องการนำรถคืนกลับไป ตนเองก็อยากขอความเป็นธรรมด้วยว่า เงินจำนวน 2 แสนกว่า บาทที่ลงทุนไป ในการจ่ายค่างวดกับรถคันนี้และตกแต่งรถคันนี้ ก็อยากจะให้ทางเจ้าของรถคืนเงินกลับมาด้วย 

ด้านนางประยูร และ น.ส.ฐิตารีย์ 2 แม่ลูก ยอมรับกับทีมข่าวว่า พวกเราได้รับความเดือดร้อนจริงถึงขนาดที่ เราทั้งสอง ต้องไปภาวนาถือศีลสวดมนต์นุ่งห่มชุดขาว ตามวัดและที่บ้าน ขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ช่วยดลใจให้พบเจอรถยนต์คันนี้และแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นให้ได้ ซึ่งในส่วนนี้ตนเองก็อยากให้ทางผู้ซื้อดาวน์รถไป ทำการเปลี่ยนชื่อเปลี่ยนสัญญารถกับบริษัทไฟแนนซ์หรือปิดบัญชี รถยนต์ไปเลย เหตุที่เกิดขึ้นครั้งนี้จึงอยากนำเสนอเป็นอุทาหรณ์ให้กับหลายคนด้วยในการซื้อขายดาวน์รถนั้นมีความเสี่ยงสูงที่รถที่ขายไปอาจจะหายและติดต่อผู้ซื้อไม่ได้จนต้องมานั่งรับผิดชอบหนี้คงค้างของรถยนต์ที่เช่าซื้ออยู่ ซึ่งในครั้งนี้ถือเป็นความโชคดี จากการสวดมนต์ภาวนาจนทำให้ได้พบเจอรถและทำให้พบเจอพนักงานขายที่รับผิดชอบในการขายที่ดีจนทำให้เกิดความสบายใจกันขึ้นทุกฝ่าย