วันนี้ ( 29 ก.ย.64 ) เวลา 08:45 น. ที่ห้องประชุม 402 - 403 ชั้น 4 อาคารรัฐสภา (ฝั่งวุฒิสภา) พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ปาฐกถาพิเศษ เรื่อง “ความร่วมมือในการทำงานอย่างบูรณาการระหว่างฝ่ายบริหารและฝ่ายนิติบัญญัติเพื่อประชาชน” เนื่องในพิธีเปิดการสัมมนาการดำเนินโครงการสมาชิกวุฒิสภาพบประชาชน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564  ภายใต้หัวข้อ “ครบรอบ 2 ปี สว. พบประชาชน ประชาชนได้อะไร” โดยมี ศาสตราจารย์พิเศษ พรเพชร พิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา พลเอก สิงห์ศึก สิงห์ไพร รองประธานวุฒิสภา คนที่ 1 นายศุภชัย สมเจริญ รองประธานวุฒิสภา คนที่ 2 สมาชิกวุฒิสภา ข้าราชการรัฐสภา และประชาชน ร่วมรับฟังกว่า 200 คน โดยเป็นการถ่ายทอดสดผ่านระบบออนไลน์ โดยมี ผู้ว่าราชการจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการ และผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ร่วมรับฟัง 

พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา กล่าวว่า ประเทศไทยปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข มีอำนาจอธิปไตยเป็นของปวงชนชาวไทย พระมหากษัตริย์ทรงใช้อำนาจนิติบัญญัติผ่านรัฐสภา อำนาจบริหารผ่านคณะรัฐมนตรี และอำนาจตุลาการผ่านศาล เพื่อผลประโยชน์ของประเทศชาติและความผาสุกของพี่น้องประชาชน ซึ่งที่ผ่านมาการดำเนินงานของฝ่ายนิติบัญญัติ ผ่านกลไกรัฐสภา โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การทำหน้าที่ของสมาชิกวุฒิสภา มีการทำงานในลักษณะการบูรณาการการทำงานกับคณะรัฐมนตรีอย่างใกล้ชิด  ทั้งการตั้งกระทู้ถาม  การให้ความเห็นชอบกฎหมาย การลงพื้นที่พบปะประชาชนและส่วนราชการของคณะกรรมาธิการ ถือเป็นการปฏิบัติหน้าที่เพื่อประโยชน์ของพี่น้องประชาชน รวมถึงการดำเนินโครงการสมาชิกวุฒิสภาพบประชาชนที่ได้ดำเนินการต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 ทำให้เกิดการสร้างกระบวนการมีส่วนร่วมของภาคประชาชนในระดับพื้นที่ เพื่อสะท้อนสภาพปัญหาและข้อเสนอแนะ ข้อคิดเห็นของประชาชน ผ่านวุฒิสภาไปยังฝ่ายบริหารได้อีกด้วย

พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา เน้นย้ำว่า ถ้าสมาชิกวุฒิสภาสามารถบูรณาการทำงานร่วมกับฝ่ายบริหารอย่างสร้างสรรค์ เต็มที่ รวดเร็ว ตอบสนอง และโปร่งใส ผ่านกระบวนการรัฐสภา ทั้งการติเพื่อก่อ การแสดงความเห็นอย่างมีเหตุผล และการรับฟังข้อมูลปัญหาที่แท้จริง เพื่อมาช่วยกันแก้ปัญหาของประชาชน วุฒิสภาก็จะทำหน้าที่เพื่อประชาชนได้อย่างสมบูรณ์ และผลประโยชน์จะเป็นของประเทศชาติเกิดความผาสุกกับประชาชนอย่างแท้จริง