วันที่ 29 ก.ย.64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ร.ต.อ.ขวัญชัย พันละบาล  พนักงานสอบสวน สภ.เมืองสระบุรี  ได้รับแจ้ง ร.ต.อ.พิชิต สีดาทอง เป็นตำรวจอยู่ที่ สภ.เมืองสระบุรี  (พึ่งปลดเกษียณหมาดๆไม่กี่วัน) ว่ามีกลุ่มควันไฟไหม้อยู่บนดาดฟ้าตึกร้าง 4 ชั้น คาดว่าน่าจะมีคนจุดไฟเผาสายไฟ  หน้าตึกเขียนว่า ให้เช่า  อยู่หน้าปากซอย 7 ถ.พหลโยธิน ต.ปากเพรียว อ.เมือง จ.สระบุรี  จึงได้ให้ตำรวจสายตรวจ รถจยย. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่าง ไปตรวจสอบในที่เกิดเหตุ  
พบ ประตูหน้าตึกปิดอยู่แต่ไม่ได้ใส่กลอน จึงได้ทำการดันประตูเข้าไป และได้ขึ้นไปตรวจบนชั้นดาดฟ้า พบมีร่องรอยการเผาสายไฟทองแดง แต่ไม่พบผู้กระทำความผิด คาดว่าคนร้ายน่าจะปีนกำแพงข้ามไปอีกตึกหนึ่ง ซึ่งเป็นตึกติดกันกับตึกที่เกิดเหตุ และเจ้าของคนเดียวกัน  เป็นตึกแถว 6 ห้อง 2 ชั้น ตึกทั้งหมดไม่มีผู้อยู่อาศัย  ขณะนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ใช้บันไดปีนข้ามกำแพงไปอีกตึกหนึ่ง ส่วนเจ้าของตึกและลูกน้อง ไปทำการเปิดประตูเหล็ก ตึกแถว 6 ห้อง เพื่อจะตัดกุญแจเข้าไปตรวจ และดักคนร้ายเอาไว้หน้าประตู แต่ตัดไม่ได้เนื่องจากครีมตัดใหญ่เกินไป นำเข้าไปตัดแล้วแต่ไม่มีแรงที่จะกด เพราะว่าเป็นที่แคบ  ขณะนั้นได้มีฝนตกลงมา ทำให้การค้นหาบนดาดฟ้าและอีกตึกหนึ่ง เป็นไปด้วยความลำบาก แต่ความพยายามของเจ้าหน้าที่ตำรวจและกู้ภัยสว่างได้ทำการค้นหาทั้งหมดที่สงสัย ที่คาดว่าคนร้ายน่าจะหลบซ่อนอยู่ แต่ไม่พบวี่แววของคนร้าย  จึงได้ลงมาทำการตรวจสอบภายในตึก 4 ชั้น  ตั้งแต่ชั้น 1 พบว่ามี การตัดสายไฟ และตัดเหล็กราวบันไดหมดทั้งหมด 4 ชั้น  แล้วนำมามัดกองไว้เพื่อจะนำไปขาย และยังพบ  โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง แว่นตา 1 อัน วางอยู่ พร้อมรถจยย.ยี่ห้อ ฮอนด้าคลิก สีขาวแดง จอดอยู่ ซึ่งมีสายไฟที่เผาแล้วอยู่ใต้เบาะจำนวนหนึ่ง ถัดไป พบอุปกรณ์เสพยา 1 อัน  และเครื่องมืออีกจำนวนหนึ่งเพื่อเอาไว้ก่อเหตุ   คาดว่าคนร้ายน่าจะอยู่มาเป็นเดือนแล้ว มีทั้งถังน้ำ และแฟ๊บที่เปิดใช้ใหม่ๆ  เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้บันทึกภาพทั้งหมดไว้เป็น หลักฐาน

จากการสันนิษฐานคาดว่า คนร้ายน่าจะมีแค่คนเดียว และชำนาญการซะเดาะกลอนหน้าประตูกระจก  ได้ใช้เชือกพันประตูด้านในเอาไว้ ลักลอบเข้ามาอาศัยอยู่พร้อมรถจยย.และเครื่องมืออุปกรณ์ต่างๆ เพื่อนำมาตัดสายไฟและเหล็กราวบันไดทั้งหมดภายในตึกนี้ทั้ง 4 ชั้น และจะนำไปขาย ซึ่งคาดว่าคนร้ายน่าจะมาทำการลักตัดเหล็กและสายไฟไปขายหลายครั้งแล้ว พอได้เงินมาน่าจะนำไปซื้อยาเสพติด มาเสพก็เป็นได้ จนในตึกแทบไม่มีอะไรเหลือ  สภาพในตึกรกรุงรัง มีแต่รอยงัดแงะตัดสายไฟเกลื่อนไปหมด  เป็นตึกที่ปล่อยร้างมานาน 1 ปีแล้ว    ส่วนรถจยย.ของคนร้าย เจ้าหน้าที่ตำรวจจะขยายผลตรวจสอบว่าใครเป็นเจ้าของรถ เพื่อจะหาตัวคนร้ายมาดำเนินคดี ส่วนค่าเสียหายทางเจ้าของตึกต้องรอให้ช่างมาประเมินราคาทั้งหมดตั้งแต่ชั้น 1-4   จึงได้แจ้งความลงบันทึกประจำวันที่ สภ.เมืองสระบุรี ไว้แล้ว

ทางด้าน ร.ต.อ.พิชิต สีดาทอง เล่าว่า ลูกสาวของตนได้ขับรถผ่านเห็นควันไฟอยู่บนชั้นดาดฟ้า และได้รีบมาบอกกับตน ตนจึงได้ไปยัง สภ.เมืองสระบุรี ให้มาตรวจ  เพราะมีคนเห็นเยอะ แต่ไม่รู้ว่าเผาอะไร เพราะควันโขมงขึ้น ไม่ทราบว่าเป็นคนสติไม่ดีจริงหรือไม่ แต่ยังมีรถจยย.จอดอยู่  เห็นลูกเจ้าของ บอกว่า มันตัดสายไฟไปหมดแล้ว

นายชัย (ขอสงวนนาม) อายุ 50 ปี เจ้าของตึก เล่าว่า มีคนร้ายมาซุกซ่อนอยู่ในตึก และได้ลักตัดพวกราวบันได พวกออโต้ลีสแอร์  และสายไฟ ตนคิดว่าน่าจะเป็นคนเดียวกันกับเจ้าของรถคันนี้  และคิดว่าเป็นคนปกติน่าจะเป็นช่างเก่า เพราะอุปกรณ์ช่างเต็มบ้านเลย  เคยแจ้งความไปแล้วเมื่อ 2 อาทิตย์ก่อน ว่ามีคนเข้ามาอยู่  และได้มีตำรวจสายตรวจมาตรวจไปแล้วรอบนึง  แต่ไม่เจอ ส่วนสาเหตุที่เข้าไปได้น่าจะงัดประตูเข้าไป แล้วปิดด้านในเอาไว้ มีของสูญหายเยอะ ส่วนรถจยย.เป็นของคนร้าย ซึ่งตนก็ไม่เคยรู้จักคนร้ายมาก่อน