เปิด ปิด การใช้งานคุกกี้ของ ทรูฮิต (Truehits Cookies)



นครศรีฯ พบผู้ป่วยโควิด-19 พุ่งไม่หลุด ส่อล็อกดาวน์ทั้งจังหวัดตัดวงจรแพร่เชื้อ


30 ก.ย. 2564, 16:41



นครศรีฯ พบผู้ป่วยโควิด-19 พุ่งไม่หลุด ส่อล็อกดาวน์ทั้งจังหวัดตัดวงจรแพร่เชื้อ




วันที่ 30 ก.ย.64  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จังหวัดนครศรีธรรมราช พบผู้ป่วยโควิด -19 เพิ่ม 393 ราย (ในจังหวัด 378 ราย,ทัณฑสถานวัยหนุ่ม 15) ยอดผู้ป่วยสะสม 16,707 ราย รักษาตัวในโรงพยาบาล 3,951 ราย (จากต่างจังหวัด 1,548 ราย รักษาหายแล้ว 1,358 ราย) รักษาหายแล้วสะสม 11,920 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 2 เสียชีวิตสะสม 95 ราย รายที่ 1 เพศชาย 59 ปี อ.เมือง โรคประตัว เบาหวาน ไขมัน หัวใจโต รายที่ 2 เพศชาย อายุ 92 ปี อ.ท่าศาลา

ส่วนที่โรงเรียนวัดนางตรา  หมู่ 3 ต.ท่าศาลา อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช นายไกรศร วิศิษฎ์วงศ์ ผวจ.นครศรีธรรมราช เป็นประธานเปิดศูนย์พักคอยวัดนางตรา (Community Isolation)  อบต.ท่าศาลา มีนายวีระพรรณ  สุขะวัลลิ  นายอำเภอท่าศาลา นพ.กิตติ   รัตนสมบัติ ผอ.รพ.ท่าศาลา นายอภินันท์   เชาวลิต นายก อบต.ท่าศาลา นายอยุทธ์ เชาวลิต รองนายก อบจ.นครศรีธรรมราช และนางอวยพรศรี เชาวลิต ประธานสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครศรีธรรมราช พร้อม รพ.สต. อสม. และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องให้การต้อนรับ



นายอภินันท์ เชาวลิต  กล่าวรายงานว่า เนื่องจากสถานการณ์ผู้ป่วยโควิด-19ผู้ป่วยยืนยันสะสมระลอกเดือนเมษายน 2564 ถึงปัจจุบัน จำนวน 1,121 คนและมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้นมีผู้ป่วยใหม่โควิดรายวันเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้จำนวนเตียงและบุคลากรทางการแพทย์ทั้งในโรงพยาบาลและรพ.สนามในพื้นที่ อ.ท่าศาลามีไม่เพียงพอ ซึ่งจังหวัดนครศรีธรรมราช มีมติเห็นชอบให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นรับผิดชอบกับหน่วยงานอื่น ๆ ในการป้องกันควบคุมโรคและการรักษาพยาบาลกรณีโรคติดเชื้อโควิด-19  ทางอำเภอท่าศาลาและองค์การบริหารส่วนตำบลท่าศาลา จึงดำเนินการจัดตั้งศูนย์พักคอย “วัดนางตรา”ขึ้นเพิ่มเติมจากที่มีอยู่เดิมหลายแห่งแล้วในพื้นที่อำเภอท่าศาลา เพื่อสนับสนุนจัดให้มีสถานที่สำหรับดูแลรักษากลุ่มผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อโควิด ที่ได้รับการประเมินจากแพทย์ให้สามารถรักษาตัวในศูนย์พักคอย และเพื่อสร้างขวัญกำลังใจ ฟื้นฟูสภาพจิตใจ สร้างบรรยากาศการผ่อนคลายและอาการซึมเศร้าจากภาวะเจ็บป่วย

ขณะที่นายไกรศร วิศิษฎ์วงศ์ ผวจ.นครศรีธรรมราช มอบวัสดุ อุปกรณ์ เครื่องมือแพทย์ให้ศูนย์พักคอยวัดนางตรา ส่วนพระครูวินัยธรณัฏฐาสันต์ สิทฺธิญาโณ หรือ “ ท่านสตางค์” เจ้าอาวาสวัดยางใหญ่ (วัดตาพรานบุญ)  อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช ได้มอบเครื่องฟอกไตมูลค่า 1 ล้านบาท ให้โรงพยาบาลท่าศาลา โดย นพ.กิตติ รัตนสมบัติ ผอ.รพ.ท่าศาลา เป็นผู้รับมอบในคราวเดียวกันด้วย

นายไกรศร วิศิษฎ์วงศ์ กล่าวว่า ในช่วงเกือบ 2 สัปดาห์แล้วที่จังหวัดนครศรีธรรมราช มียอดผู้ป่วยโควิดเพิ่มขึ้น และหากดูในพื้นที่ 14 จังหวัดภาคใต้ ก็พบว่ามีพื้นที่สีแดงเพิ่มขึ้นทุกวันเหมือนกัน แต่ในท่ามกลางสีแดง เรายังมีหมู่บ้าน ตำบล และอำเภอสีขาวเช่นกัน โดยปัจจัยที่ทำให้มีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น 4 ปัจจัยประกอบด้วย ตลาด,ร้านค่า ร้านสะดวกซื้อ ร้านอาหาร ,กิจกรรมที่เป็นประเพณี อาทิ งานศพหรืองานที่มีความจำเป็นต่างๆ และชุมชนแออัดที่อยากที่จะแยกกักตัว ในจุดนี้จะต้องลงไปดูแลการบริหารจัดการเพิ่มมากขึ้น ที่สำคัญคือการสร้างความรับรู้และการรับผิดชอบร่วมกัน จังหวัดจึงมีแผนการบริหารจัดการในภาพรวมทั้งจังหวัดให้มีศูนย์เซ็นเตอร์รวมในการประสานงาน รับเรื่องข้อมูลโดยเอาเรื่องของท้องถิ่น เจ้าหน้าที่กู้ภัย ทีมเคลื่อนที่เร็วมารวมอยู่ด้วยกันเพื่อเข้าไปดูแลพี่น้องประชาชนได้อย่างรวดเร็วมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะการรับแจ้งข้อมูลข่าวสารและส่งหน่วยสก๊อตหรือหน่วยเคลื่อนที่เร็วเข้าไปช่วยเหลือประชาชน รวมทั้งกมารประสานงานในทุกอำเภอได้อย่างรวดเร็ว เรื่องนี้จังหวัดอยู่ระหว่างการประสานการจัดตั้งในเร็ว ๆ นี้


นายไกรศร วิศิษฎ์วงศ์  กล่าวอีกว่า ส่วนเรื่องการปิดจังหวัดนั้นจังหวัดก็กำลังพิจารณาว่าถ้าปิดแล้วจะสามารถยับยั้งได้จริงหรือไม่ จะปิดแค่ไหน ปิดอย่างไร หากล็อคดาวน์แล้วมีรายละเอียดอย่างไรบ้าง มีข้อแตกต่างกับปัจจุบันมากน้อยแค่ไหน ในเรื่องนี้ทางฝ่ายสาธารณะสุขที่ดูแลเรื่องการป้องกันและควบคุมโรคจะต้องพิจารณาอย่างละเอียดถ้วนถี่  ยอมว่าว่าวันนี้เราต้องกลับมาคิดในเรื่องการความปลอดภัยในชีวิต เรื่องการดูแลเรื่องความปลอดภัยจากการติดเชื่อเป็นเรื่องสำคัญ ทุกส่วนราชการที่มีอำนาจหน้าที่และความรับผิดชอบในแต่ละเรื่องจะต้องกลับมาร่วมด้วยช่วยกันในการควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิดให้จนได้ รวมทั้งประชาชนก็ต้องเข้าใจแนวทางการปฏิบัติด้วย

“ โดยการควบคุมป้องกันขณะนี้มีอยู่ 4 แนวทาง 1. การป้องกันแบบครอบจักรวาล มีรายละเอียดอยู่ประมาณ 10 เรื่องที่จะต้องดูว่าใครทำอะไร ที่ไหนอย่างไร 2.คือการป้องกันตัวเองขั้นสูงสุด โดยต้องตั้งสมมุติฐานว่าทุกคนรอบข้างติดโควิด ดังนั้นแม้อยู่คนเดียวก็ต้องสวมหน้ากากอนามัย 3.องค์กรหรือหน่วยงานที่ต่าง ๆ ที่มีบุคลากรหรือพนักงาเจ้าหน้าที่หรือคนงานอยู่เป็นจำนวนมาก ต้องลดความเสี่ยงต่อตนเองลงให้ได้ โดยต้องมาประเมินว่าจะลดความเสี่ยงได้อย่างไรและเรื่องที่ 4. ผู้ประกอบการต้องติดตามประเมินตัวเอง หลายครั้งที่ที่ดำเนินการแบบไฟไหม้ฟาง เมื่อมีการสั่งการก็ทำกันจริงจังแล้วก็หยุดไปเฉย ๆ ดังนั้นต่อไปผู้ประกอบการทุกแห่งจะต้องติดตามและประเมินตัวเอง ลดความเสี่ยงลงมาให้ได้ ตรงนี้เป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยให้ลดการติดเชื้อได้ ”






Recommend News






MOST POPULAR


























©2018 ONBNEWS. All rights reserved.