นายกฯ ขอโทษปชช.เยี่ยมไม่ทั่วถึง หลังเจอม็อบดัก ย้ำเตรียมลงพื้นที่อีกหลายจังหวัด
30 ก.ย. 2564, 17:51
วันนี้ ( 30 ก.ย.64 ) เวลา 14.15 น. พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เดินทางออกจากศาลาท่าเรือเทศบาลนครปากเกร็ดโดยเรือตรวจการณ์ เพื่อตรวจติดตามสถานการณ์น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา การก่อสร้างแนวกำแพงป้องกันน้ำท่วม และเยี่ยมประชาชนที่ได้รับผลกระทบบริเวณพื้นที่ลุ่มต่ำนอกคันกั้นน้ำ โดยมีพลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ร่วมการตรวจติดตามสถานการณ์ฯ ด้วย
นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่า เมื่อเดินทางถึงท่าเรือเทศบาลนครปากเกร็ด นายกรัฐมนตรีได้โบกมือทักทาย สวัสดีประชาชนชาวปากเกร็ดที่มารอต้อนรับ และร่วมถ่ายภาพเซลฟี่กับประชาชนที่มาให้กำลังใจและสนับสนุนนายกรัฐมนตรีว่า “นายกฯ สู้ ๆ” จากนั้น นายกรัฐมนตรีได้ขึ้นเรือตรวจการณ์ เพื่อสังเกตสถานการณ์ระดับน้ำในลุ่มน้ำเจ้าพระยา และการก่อสร้างแนวกำแพงป้องกันน้ำท่วม พร้อมสอบถามถึงการเร่งระบายน้ำ ด้วยการดึงน้ำจากพื้นที่ที่ท่วมขังลงแม่น้ำเจ้าพระยาเพื่อเป็นการเร่งระบายน้ำ ให้มีการแบ่งน้ำและกระจายน้ำออกไป พร้อมสั่งการให้เร่งสร้างความรับรู้แก่ประชาชนในแต่ละพื้นที่แต่ละจังหวัด โดยเฉพาะพื้นที่เสี่ยงว่าน้ำจะมาจากทางไหน เพื่อที่จะได้มีการเตรียมตัว และเตรียมมาตรการไว้ล่วงหน้า เพราะแต่ละพื้นที่ที่เป็นแนวกั้นน้ำมีทั้งเดือดร้อนมาก และเดือดร้อนน้อย จะต้องมีการเตรียมมาตรการที่แตกต่างกัน และฝากให้หน่วยงานในพื้นที่บูรณาการการทำงานและแผนงานบริหารจัดการน้ำร่วมกับ สทนช. เพื่อให้การปฏิบัติงานเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและทิศทางเดียวกัน
นายกรัฐมนตรีกล่าวกังวลต่อสถานการณ์น้ำในขณะนี้ เนื่องจากเวลานี้ประเทศไทยกำลังอยู่ในร่องมรสุมและมีพายุเข้ามาด้วย ซึ่งต้องหาแนวทางเตรียมการรับมือกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะไม่สามารถห้ามธรรมชาติได้ ดังนั้น คนไทยต้องเตรียมความพร้อมต่าง ๆ ในการรับมือไว้ ทั้งนี้สถานการณ์ที่เกิดขึ้นนี้เป็นสัญญาณเตือนของโลก ย้ำให้ทุกคนตระหนักหันมาดูแลสิ่งแวดล้อม ธรรมชาติและโลกให้มากขึ้น โดยเริ่มจากตัวเอง ปรับตัวอยู่กับธรรมชาติและสถานการณ์ที่เกิดขึ้นให้ได้อย่างปลอดภัย ขณะที่รัฐบาลก็พร้อมดูแลประชาชนทุกกลุ่ม เร่งดูแลทุกภาคส่วนให้ดีที่สุด นายกรัฐมนตรียังย้ำว่า เป็นห่วงพื้นที่ภาคกลาง โดยเฉพาะพื้นที่ที่อยู่นอกคันกันน้ำ เร่งระบายน้ำตัดตอนน้ำตอนบนเพื่อนำออกสู่ทะเลได้เร็วขึ้น ทั้งนี้ ก็รัฐบาลเตรียมความพร้อมระบบระบายน้ำไว้แล้วล่วงหน้า
นายกรัฐมนตรียังฝากประชาชน ชาวบ้าน ที่อาศัยอยู่ริมน้ำว่า ขอให้ดูแลแหล่งน้ำ ช่วยกันเก็บวัชพืชกีดขวางทางน้ำ เช่น ผักตบชวา ขยะในแม่น้ำ ขณะเดียวก็ฝากไปถึงเรือที่สัญจรไปมา ลดความเร็ว เพื่อไม่ให้แรงของคลื่นน้ำกระทบบ้านเรือนประชาชน ทั้งภาครัฐ ประชาชน ภาคประชาสังคม และภาคธุรกิจเอกชน ต้องร่วมมือกัน เพื่อให้ทุกคนสามารถอยู่กับธรรมชาติให้ได้ตามพระราชดำรัสของในหลวงรัชกาลที่ 9 และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง รวมถึงรับสั่งของในหลวงรัชกาลที่ 10 ที่ทรงรับสั่ง ขอให้ดูแลประชาชนให้มีความสุข ปลอดภัย ให้ประเทศมีเสถียรภาพ ยั่งยืน
นายกรัฐมนตรียังกล่าวถึงงบประมาณที่รัฐบาลจัดสรรให้มา ขอให้นำเอามาปฏิบัติให้เกิดผลสัมฤทธิ์ให้ได้ วันนี้ นายกฯ ลงพื้นที่พร้อมกับรัฐมนตรีหลายคนเพื่อรับฟังปัญหา ตรวจความก้าวหน้าของแผนงานต่าง ๆ ตามนโยบายของรัฐบาล เดินหน้าประเทศไทยด้วยเกษตรกรรมที่มีมูลค่าสูง เกษตรเชิงชีวภาพ ควบคู่ไปกับแก้ปัญหาน้ำท่วม แก้ปัญหาความยากจน แก้ปัญหาหนี้ครัวเรือน รวมทั้งพัฒนาแพลตฟอร์มต่าง ๆ รวมถึงมีการแก้กฎหมายให้มีความทันสมัยมากขึ้น วันนี้ประเทศไทยมีการฉีดวัคซีนได้อย่างต่อเนื่องเกือบครบทุกกลุ่มเป้าหมายแล้ว ซึ่งรัฐบาลจะทำอย่างเต็มที่เพื่อประชาชน
ทั้งนี้ ระหว่างที่นายกรัฐมนตรี เดินตรวจเยี่ยมประชาชนที่ได้รับผลกระทบบริเวณพื้นที่ลุ่มต่ำนอกคันกั้นน้ำ ในพื้นที่จังหวัดนนทบุรี ประชาชนได้กล่าวให้กำลังใจ “นายกฯ สู้ ๆ” ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้มอบถุงยังชีพอาหารและยาให้แก่ประชาชน ย้ำให้ประชาชนดูแลสุขภาพตนเอง ขอให้ระมัดระวังเรื่องน้ำกัดเท้า ให้ยกของขึ้นที่สูง ดูแลสัตว์เลี้ยง ขอให้ทุกคนอดทนอีกไม่นานสถานการณ์ก็ผ่านไป ยืนยันรัฐบาลจะพยายามแก้ไขปัญหาและลดความเดือดร้อนของประชาชนให้ได้มากที่สุด พร้อมย้ำว่านายกฯ รักประชาชนทุกคน ห่วงใยทุกกลุ่ม
โดยนายกฯ ยังกล่าวอีกว่า ต้องขอโทษด้วยในจุดที่ไม่ได้ไป ก็ไปดูแล้วกันว่ามีเหตุและเพราะอะไร ความจริงตนอยากไปเยี่ยมในทุกๆที่ แต่ก็ไม่อยากให้เกิดปัญหาเท่านั้นเอง ก็ขอโทษด้วยแล้วกันฝากผู้ว่าราชการจังหวัดขอโทษประชาชนด้วย อย่างไรก็ตามตนจะพยายามทำอย่างเต็มที่ ซึ่งได้เตรียมแผนและตารางที่จะลงไปเยี่ยมในพื้นที่หลายจังหวัด ก็คงต้องลงไปเยี่ยมเยียนกันบ่อย เพราะตอนนี้การแพร่ระบาดของโควิด-19 ก็เบาลงไปบ้างแล้ว ขอร้องว่าอย่าให้แพร่ขึ้นมาอีกก็แล้วกัน ขอร้องให้ปฏิบัติตามมาตรการการผ่อนคลายฉบับที่ 34 ก็ดูให้ดีแล้วกัน