"ลุงวัย54ปี" สู้ชีวิต! รับจ้างปีนต้นไม้มือเปล่า ตัดทอนกิ่งก้าน ตามอาคารบ้านเรือน
1 ต.ค. 2564, 13:27
“ลุงทรง วงษ์ตะวัน” มีถิ่นฐานอยู่ที่บ้านห้วยภูนก ตำบลขุนฝาง อำเภอเมือง จังหวัดอุตรดิตถ์ ด้วยวัย 54 ปี กำลังเตรียมพร้อมที่จะปีนป่ายขึ้นต้นก้ามปู หรือชาวบ้านเรียกว่าต้นฉำฉา ความสูงประมาณ 30 เมตร ความโตใหญ่ไม่น้อยกว่า 3 คนโอบ
“ลุงทรง”เตรียมเผชิญกับภารกิจในการต่อสู้กับความสูงโดยไม่ต้องใช้เชือกหรือเซฟตี้เบลท์ เพียงแต่นุ่งกางเกงขาสั้นแบบหลวมๆ ไม่ต้องสวมรองเท้าเพื่อการปีนป่ายที่ยืดหยุ่นสะดวกและมั่นคง จะสังเกตได้จากสภาพของเท้าและนิ้วเท้าทั้ง 2 ข้างที่บิดเบี้ยวเพราะการใช้งานการปีนป่ายต้นไม้อันโชกโชน มีบางครั้งต้องใช้ยาฉีดพ่นแมลงติดตัวด้วยตลอดเวลา ส่วนใหญ่หากลำต้นมีความใหญ่เส้นผ่าศูนย์กลางเกิน 2 ฟุต อาจต้องใช้เลื่อยโซ่ยนต์เข้าดำเนินการ
หากขนาดลำต้นเล็กลงมาทุกครั้งจะใช้มีดฟันกิ่งและตัดโค่นซึ่งยอมรับว่าคล่องตัวดีที่สำคัญสามารถบังคับหรือกำหนดทิศทางของต้นไม้ที่ตัดล้มลงมาและต้องเกิดความปลอดภัยไม่สร้างความเสียหายต่อทรัพย์สินใดๆตามมา เช่น ต้นไม้ที่อยู่ตามรอบข้างอาคารบ้านเรือน หรืออยู่ระหว่างซอกตึก ใกล้ชิดสิ่งปลูกสร้างต่างๆ โดยเฉพาะศาสนสถาน วัด โบสถ์ สถูปเจดีย์ โรงเรียน อาคารสถานที่ราชการ แม้กระทั่งแนวเสาสายไฟฟ้า
ในขณะตัดกิ่งหรือโค่นล้มจะต้องไม่ให้เกิดความเสียหายหรือแตกหักตามมา นั่นคือการใช้ประสบการณ์ในการบังคับทิศทางให้ต้นไม้ทุกต้นล้มลงมาสู่พื้นอย่างปลอดภัย ต้นไม้ทุกต้นจะสูงหรือมีขนาดใหญ่เพียงใด “ลุงทรง”จัดการได้ทุกปัญหา แต่สิ่งหนึ่งที่ลุงทรงต้องละเว้นเด็ดขาด นับเป็นอุปสรรคอันตรายคือ สภาพดินฟ้าอากาศ ฝนตก ฟ้าคะนอง ลมแรง
“ลุงทรง” มีอารมณ์สนุกสนานกับการขึ้นปีนป่ายต้นไม้ใหญ่และน้อยมาตั้งแต่เด็กๆด้วยความคึกคะนองขาดความรอบคอบระมัดระวังเป็นเหตุให้ตกต้นไม้หลายครั้ง แต่มันกลับเป็นประสบการณ์ตรงที่ ลุงทรง ได้รับและเรียนรู้ กระทั่งหนุ่มใหญ่วัยอายุประมาณ 23 ปี จึงเริ่มมีรายได้จากการรับจ้างตัดแต่งกิ่งไม้และโค่นต้นไม้ที่อยู่ใกล้ตามอาคารบ้านเรือนตั้งแต่นั้นมา