วันที่ 4 ตุลาคม 2564 นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า สถานการณ์ผู้ติดเชื้อโควิด-19 ประจำวันนี้ พบผู้ติดเชื้อรายใหม่จำนวน 9,930 คน และหายป่วยกลับบ้าน 12,336 ราย ทำให้มียอดผู้ป่วยสะสมตั้งแต่ 1 เม.ย. 2564 จำนวน 1,618,499 และยอดหายป่วยสะสม 1,493,077 ราย  ขณะเดียวกันจำนวนผู้เสียชีวิตต่ำกว่า 100 ราย  ต่อเนื่อง 3 วันติดต่อกัน สะท้อนความบริหารสถานการณ์โควิด -19 ของรัฐบาลและความร่วมมือร่วมใจของบุคลากรทางการแพทย์ และประชาชนทุกภาคส่วนได้เป็นอย่างดี

ทั้งนี้ตั้งแต่วันที่ 30 ก.ย. – 4 ต.ค. 2564 ตัวเลขยอดผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตอยู่ในเกณฑ์ลดลง โดยวันที่ 30 ก.ย. ติดเชื้อ 11,646 ราย/เสียชีวิต 107 ราย วันที่ 1 ต.ค. ติดเชื้อ 11,754/เสียชีวิต 123 ราย วันที่ 2 ต.ค. ติดเชื้อ11,375/เสียชีวิต 87 ราย วันที่ 3 ต.ค. ติดเชื้อ 10,828/เสียชีวิต 77 ราย และ วันที่ 4 ต.ค. ติดเชื้อ 9,930/ เสียชีวิต 97 ราย

นอกจากนี้ วันนี้ยังได้เริ่มฉีดวัคซีนไฟเซอร์ให้กับนักเรียน อายุ 12-18 ปีแล้ว เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนเปิดภาคเรียนในเดือนพ.ย. ขณะเดียวกัน องค์การเภสัชกรรม เดินหน้าตามข้อสั่งการของ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม  เตรียมขายชุดตรวจ ATK สำหรับประชาชน ในราคา 40 บาท เริ่ม 18 ต.ค. นี้ ผ่านร้านขายยาขององค์การเภสัชกรรม 8 สาขาทั่วกรุงเทพ ระยะแรก 2 ล้านชุด เพื่อให้ประชาชนเข้าถึงชุดตรวจเร็ว ATK ในราคาที่เหมาะสม

โฆษกรัฐบาล ยังกล่าวต่อว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้แสดงความชื่นชมที่ประชาชนมีการปรับตัวและทยอยออกมาใช้ชีวิตแบบวิถีใหม่กันแล้ว  โดยภายหลังการปรับมาตรการของ ศบค. ให้ผ่อนคลายกิจกรรม/กิจการต่างๆ สามารถกลับมาเปิดให้บริการได้เมื่อวันที่ 1 ตุลาคมที่ผ่านมา ผู้ประกอบการปฏิบัติตามมาตรการ COVID-Free Setting และป้องกันตัวเองแบบสูงสุดครอบจักรวาล Universal Prevention ประกอบกับการที่รัฐบาลเดินหน้าฉีดวัคซีนตามแผน ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อเริ่มค่อย ๆ ลดลงอย่างต่อเนื่อง  เห็นผลสัมฤทธิ์อย่างเป็นรูปธรรม  โดยเฉพาะอย่างยิ่งจำนวนผู้เสียชีวิตต่ำกว่า 100 ราย  ต่อเนื่อง 3 วันติดต่อกัน