เปิด ปิด การใช้งานคุกกี้ของ ทรูฮิต (Truehits Cookies)



จับรถตู้ขนแรงงานเถื่อน ชาวเมียนมาทะลักเข้าไทยผ่านชายแดนประจวบฯ


4 ต.ค. 2564, 18:58



จับรถตู้ขนแรงงานเถื่อน ชาวเมียนมาทะลักเข้าไทยผ่านชายแดนประจวบฯ




เมื่อเวลาประมาณ 11.00 น. วันที่ 4 ต.ค.64 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ทหารหน่วยเฉพาะกิจจงอางศึกกองกำลังสุรสีห์ ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองประจวบฯ ตำรวจภูธรอ่าวน้อย ผู้ใหญ่บ้าน และเจ้าหน้าที่ ชรบ. ในพื้นที่ และ อส. อ.เมืองประจวบฯ ได้ช่วยกันลำเลียงชาวเมียนมาทั้งหมด 58 ราย มารวมพักไว้ที่ศูนย์คัดแยกและช่วยเหลือผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ด้านหลังสถานีตำรวจภูธรเมืองประจวบฯ เพื่อรอให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขมาตรวจหาเชื้อโควิด-19 ก่อนดำเนินคดีตามกฎหมาย หลังจากที่ก่อนหน้าเจ้าหน้าที่หลายหน่วยงานได้สนธิกำลังกับผู้ใหญ่บ้านจับกุมกลุ่มแรงงานชาวเมียนมาจำนวนมากที่แอบลักลอบข้ามแดนไทยมาตามช่องทางธรรมชาติ ช่องเขาหลัก บ้านเนินแก้ว หมู่ 5 ตำบลอ่าวน้อย อำเภอเมือง จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ โดยสามารถตรวจยึดรถตู้รับจ้างไม่ประจำทางได้จำนวน 1 คัน พร้อมคนนำพา 2 คน โดยภายในรถกำลังลำเลียงแรงงานชาวเมียนมาจำนวน 7 ราย จากป่าสวนยางชายแดนใกล้ช่องทางธรรมชาติ เข้าสู่ตัวเมืองมุ่งหน้าจังหวัดสมุทรสาคร จากการตรวจสอบเป็นรถตู้โดยสารรับจ้างไม่ประจำทางสีบรอนซ์-เงิน โดยผู้นำพา 2 คน คือ 1.นายพิมล อายุ 56 ปี (คนไทย) ชาวจังหวัดนนทบุรี และ 2.นายชูชาติ อายุ 23 ปี ชาวจังหวัดเชียงใหม่ 

 



โดยในระหว่างที่เจ้าหน้าที่กำลังตรวจสอบรถตู้อีก 1 คัน ที่ถูกเรียกตรวจได้อาศัยจังหวะเจ้าหน้าที่เผลอขับรถหลบหนีออกมาจากที่เกิดเหตุได้ 1 คัน นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังเดินลาดตระเวนตรวจดูพื้นที่บริเวณโดยรอบ จนสามารถควบคุมตัวกลุ่มแรงงานชาวเมียนมาชาย-หญิง ที่แอบซุกตัวอยู่ในสวนปาล์มและสวนยางพาราใกล้ชายแดน เพื่อรอนายหน้ามารับได้เพิ่มเติมอีก 17 ราย รวมเป็น 24 ราย โดยที่ก่อนหน้านี้สามารถควบคุมตัวกลุ่มแรงงานชาวเมียนมาแอบลักลอบข้ามแดนผ่านช่องทางธรรมชาติช่องเขาหลักไปโรงพักภูธรอ่าวน้อยแล้ว 34 ราย โดยรวมทั้งหมดที่สามารถควบคุมได้ในเวลาไล่เลี่ยกันจำนวน 58 ราย แบ่งเป็น ชาย 19 ราย หญิง 39 ราย อายุระหว่าง 18 ถึง 30 ปี โดยทั้งหมดให้การยอมรับสารภาพว่าได้เดินทางมาจากต่างสถานที่กันแล้วมาพักรวมตัวกันที่บ้านมูด่องฝั่งประเทศเมียนมา ก่อนออกเดินเท้าข้ามแดนมายังฝั่งไทยตามช่องทางธรรมชาติเพื่อรอนายหน้ามารับ ส่วนหนึ่งจะไปทำงานในโรงงานสับปะรดกับญาติที่โรงงานในพื้นที่ อ.สามร้อยยอด จ.ประจวบฯ และอีกส่วนหนึ่งจะเดินทางไปทำงานที่โรงงานปลากระป๋อง และแพกุ้งในพื้นที่จังหวัดสมุทรสาคร โดยเสียค่าใช้จ่ายในการเดินทางจนถึงที่หมาย จำนวน 16,000 -18,000 บาทต่อคน เจ้าหน้าที่จึงได้ตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายในเบื้องต้น แล้วนำตัวทั้งหมดพร้อมรถของกลางมารวมไว้ที่ศูนย์คัดแยกและช่วยเหลือผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ด้านหลัง สภ.เมืองประจวบฯ เพื่อสอบสวนอย่างละเอียด และประสานเจ้าหน้าที่สาธารณสุขมาตรวจหาเชื้อ โควิด-19 ก่อนส่งตัวดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

นายพิมล คนขับเล่าว่า ตนเองขับรถตู้รับจ้างมาจากชุมพรเพื่อจะกลับบ้านระหว่างทางระบบรับงานออนไลน์ได้แจ้ง งานให้กับตนพร้อมส่งตำแหน่ง GPS ให้ตนมารับคน โดยระบุว่าเป็นแรงงานทำไร่สับปะรด ตนจึงได้เข้ามารับเพื่อเอาไปส่งที่ตำบลมหาชัย จังหวัดสมุทรสาคร โดยได้ค่าจ้าง หัวละ 1,000 บาท ตนเองเพิ่งมารับเป็นครั้งแรก และรับขึ้นรถไปจำนวน 7 คน ส่วนรถตู้อีก 1 คัน ที่มาด้วยกันได้ขับหลบหนีไปแล้ว

ผู้ใหญ่บ้านบ้านเนินแก้ว เปิดเผยว่า ตนเองได้วางสายข่าวเอาไว้ และทราบว่าจะมีกลุ่มชาวเมียนมาลักลอบข้ามแดนมายังฝั่งไทยจำนวนมาก จึงได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ ชรบ.มาตรวจสอบและประสานเจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าสนับสนุนกำลังพล โดยกลุ่มแรงงานชาวเมียนมาทั้งหมด ที่จับได้เป็นกลุ่มเดียวกัน แต่ได้แตกกระเจิงหนีไปคนละทิศละทาง ซึ่งคาดว่ายังมีตกค้างอยู่ในป่าบนเขาชายแดนที่ระหว่างรอจังหวะนายหน้ามารับอีกจำนวนมาก และยังมี อีกจำนวนหนึ่งที่ข้ามมาแล้ว ซึ่งมีชาวบ้านพบเห็นแต่ยังตามหาไม่พบ โดยแต่ละคนที่จับได้อ้างว่าเสียค่าเดินทางให้กับนายหน้าคนละ 16,000 บาท และจะไปทำงานที่โรงงานปลากระป๋อง และแกะกุ้งในจังหวัดสมุทรสาคร

 


 

 






Recommend News






MOST POPULAR


























©2018 ONBNEWS. All rights reserved.