เปิด ปิด การใช้งานคุกกี้ของ ทรูฮิต (Truehits Cookies)



อุทาหรณ์หน้าฝน เด็ก 2 ขวบ ถูก "งูเห่าพ่นพิษสยาม" ฉกศีรษะ ขณะหลับ


6 ต.ค. 2564, 11:24



อุทาหรณ์หน้าฝน เด็ก 2 ขวบ ถูก "งูเห่าพ่นพิษสยาม" ฉกศีรษะ ขณะหลับ




หน่วยกู้ภัยบัวขาว มูลนิธิเจ้าปู่บัวขาว อำเภอกุฉินารายณ์ จังหวัดกาฬสินธุ์ ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ เอฟ กฤษณะ ตีแผ่เรื่องราวเตือนภัยสัตว์มีพิษช่วงหน้าฝน หลังได้รับแจ้งให้เข้าช่วยเหลือ เด็กอายุเพียง 2 ขวบ ซึ่งถูกงูที่หนีน้ำท่วมแอบมาซุกตัวอยู่ภายในบ้าน ฉกเข้าที่บริเวณศีรษะ โดยเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เมื่อเวลา 23.10 น. ของวันที่ 30 กันยายน 2564 ทีมงานกู้ภัยฯ ได้รับแจ้งว่ามีเด็กอายุ 2 ขวบถูกงูกัด จึงรีบไปที่จุดเกิดเหตุ ในระหว่างการเดินทางได้รับการประสานงานจาก โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชกุฉินารายณ์ว่า เด็กที่ถูกงูกัดถึงโรงพยาบาลเรียบร้อย และช่วงนี้แพทย์กำลังทำการรักษา 

แต่เนื่องจากแพทย์ยังไม่ทราบชนิดของงูที่กัด แพทย์จึงไม่สามารถให้เซรุ่มกับเด็กได้ จึงขอให้ทีมกู้ภัยฯช่วยจับงูตัวดังกล่าวมา เพื่อที่จะได้ยืนยันชนิดของงู และจะได้ให้เซรุ่มกับเด็กต่อไป 

หลังจากนั้นเจ้าของโพสต์ และทีม จึงได้เดินทางไปที่บ้านหลังดังกล่าว ซึ่งเจ้าของบ้านแจ้งว่างูได้เข้าไปหลบอยู่บริเวณหลังตู้เสื้อผ้า ผมจึงได้ใช้ไฟฉายไปส่องดูบริเวณหลังตู้เสื้อผ้าก็พบว่าเป็นงูเห่าพ่นพิษสยามสีน้ำตาล ขนาดโตเต็มวัย และได้แจ้งไปยังโรงพยาบาล (ยืนยันชนิดของงู ครั้งที่ 1 หลังจากที่เด็กถูกกัดไปประมาณ 10 นาที)



แต่ทางโรงพยาบาล ต้องการเห็นตัวงูเพื่อยืนยันชีวิตของงู จึงได้ทำการจับงูตัวดังกล่าว โดยใช้ระยะเวลาประมาณ 5 นาที จึงสามารถจับงูได้ และได้ส่งภาพงูไปให้ทางโรงพยาบาลดู แต่เนื่องจากสภาพแวดล้อม รวมทั้งเป็นเวลากลางคืนจึงทำให้ภาพที่ถ่ายมานั้นไม่ชัด และไม่สามารถยืนยันชนิดของงูได้ (ยืนยันชนิดของงู ครั้งที่ 2 หลังจากที่เด็กถูกกัดไปประมาณ 15 นาที) โดยการนำงูตัวดังกล่าวไปที่โรงพยาบาล เพื่อยืนยันชนิดของงูกับแพทย์ โดยใช้ระยะเวลาเดินทางจากบ้านของน้องเดินทางไปที่โรงพยาบาลประมาณ 5 นาที หลังจากนั้นแพทย์จึงยืนยันชนิดของงู และฉีดเซรุ่มให้กับน้อง 
 
หลังจากที่น้องโดนงูกัดน้องมีอาการซึม, ปากซีด และหมดสติไป แพทย์จึงทำการให้เซรุ่ม (ให้หลังจากที่ยืนยันชนิดงูได้แล้ว) หลังจากนั้นแพทย์ได้ส่งตัวน้องไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลกาฬสินธุ์  ซึ่งในระหว่างการเดินทาง อาการของน้องได้ทรุดลง, อัตราการเต้นของหัวใจน้องได้ลดต่ำลงและน้องไม่สามารถหายใจเองได้ แพทย์จึงได้ทำการใช้เครื่องช่วยหายใจ จึงมีความจำเป็นที่จะต้องนำน้องเข้าไปดูอาการที่โรงพยาบาลสมเด็จ หลังจากนั้นจึงเดินทางต่อจนถึงโรงพยาบาลกาฬสินธุ์  ส่งตัวเข้าห้องไอซียูทันที จนถึงเช้าอาการน้องก็เริ่มดีขึ้น อัตราการเต้นของหัวใจกลับมาเป็นปกติ และน้องสามารถหายใจเองได้โดยไม่ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ ตอนนี้น้องพ้นขีดอันตรายแล้วครับ ได้ออกจากห้องไอซียูแล้ว แต่ยังต้องนอนที่โรงพยาบาลอยู่เพราะยังมีไข้ แต่หน้าจะได้ออกจากโรงพยาบาลในอีกไม่กี่วัน 

สำหรับสาเหตุเบื้องต้น เด็กนอนอยู่ในบ้านกับพ่อ และแม่ แล้วคาดว่าน้องน่าจะนอนพลิกตัวไปทับงูเลยทำให้งูกัด หลังจากที่ถูกกัดน้องร้องไห้ พ่อ และแม่เลยตื่นขึ้นมาดู พ่อเห็นว่าบริเวณศีรษะน้องมีแผล พ่อเลยเปิดไฟเพื่อดูว่าแผลเกิดจากอะไร และได้เปิดผ้าห่มขึ้นจึงพบว่ามีงูแต่ไม่ทราบชนิดอยู่ใต้ผ้าห่มของน้อง พ่อจึงให้ญาตินำตัวน้องส่งโรงพยาบาล และได้แจ้งให้เจ้าหน้าที่เข้ามาจับงูตัวดังกล่าว







Recommend News






MOST POPULAR


























©2018 ONBNEWS. All rights reserved.