โดยนางลำเพียร สอนสันติ อดีตลูกสะใภ้ ได้เล่าว่า ตากันกับยายเบ็ง อยู่กันสองคน โดยมีลูกทั้งหมด 4 คนเสียชีวิตไปหมดแล้ว ตนเองเคยเป็นลูกสะใภ้ พอสามีเสียชีวิตก็ไปมีครอบครัวใหม่ แต่ทุกวันก็ยังแวะมาเยี่ยมยายอยู่เรื่อยๆ ซึ่งเหตุการณ์วันนั้นเป็นวันสารทเขมร ตนได้เดินทางไปหาตา ซึ่งตาก็ได้หยิบเงินในสภาพอย่างที่เห็นมาให้ตน เพื่อให้เอาไปแลก ซึ่งเป็นแบงค์ที่ยายไม่เอาแล้ว และจะเอาไปทิ้งแล้ว เพราะมันผุใช้ไม่ได้ ตนจึงบอกไปว่า จะเอาไปแลกที่ธนาคารให้ ให้เอามาทั้งหมด ยายเลยไปเอามาให้ มีทั้งหมดจำนวน 8 ใบ กับอีกครึ่งใบ ตนจึงนำแบงค์ดังกล่าวไปสอบถาม รปภ.ธนาคารแห่งหนึ่งที่ อ.พนมดงรัก ทาง รปภ.เองจึงได้แนะนำให้ไปแลกอีกธนาคารของรัฐในเมือง ตนจึงกลับบ้านบอกให้ตาและยาย ให้ไปขุดเงินมาให้หมด ซึ่งด้วยอายุที่ชรามากแล้ว ทั้ง 2 ท่านก็อาจจะหลงๆลืมๆไป ซึ่งเงินที่เอาไปฝังเป็นเงินที่รัฐบาลช่วยอุดหนุนการทำนา และเงินคนชราของยาย ราว 3 ปีแล้ว ทั้งหมดน่าจะหลายหมื่นบาทอยู่ที่เอาไปฝัง ส่วนเงินคนชราของตาก็จะเอาไว้ใช้จ่าย

ล่าสุดวันนี้ (12 ต.ค 64) ผู้สื่อข่าวได้เข้าไปสอบถามถึงความคืบหน้ากับยายเบ็ง และสามี ที่บ้านอีกครั้ง ทราบว่า เงินดังกล่าวได้มาจากการเก็บหอมรอมริบ จากเงินเบี้ยผู้สูงอายุของยาย เดือนละ 800 บาท ที่นำไปซ่อนไว้ เนื่องจากกลัวสามีจะนำไปซื้อเหล้ากิน ไม่คิดว่าเงินจะผุเสียหาย และต่อไปจะไม่นำไปซ่อนแบบนี้อีกแล้ว จะเก็บไว้ให้ดีที่สุด โดยเมื่อวานนี้ (11 ต.ค. 64) ทางนายสุทธิชัย รักเกื้อ นายอำเภอพนมดงรัก ได้นำรถมารับที่บ้านเพื่อพาไปติดต่อขอแลกเงินที่ธนาคารออมสิน สาขาอำเภอปราสาท จ.สุรินทร์ แต่ตอนนี้ยังไม่ได้รับเงิน ต้องรออีกประมาณ 2-3 วัน ถึงจะได้เงิน ยังไม่รู้ว่าจะได้สักกี่บาท เงินที่นำไปแลกประมาณ 9 ใบ เป็นแบงค์พัน ยายกับตาต้องขอบคุณท่านนายอำเภอที่ช่วยเหลือพาไปนำเงินไปแลกกับทางธนาคารและมอบเงินส่วนตัวให้อีก 1 พันบาทด้วย