วันที่ 13 ต.ค.64 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า ในหลายพื้นที่ของจังหวัดพังงา ได้เกิดฝนตกหนักอย่างต่อเนื่องติดต่อกันหลายวันส่งผลทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำพังงา อ.เมือง จ.พังงา ที่เป็นพื้นที่รับน้ำจากบ้านสองแพรกและคลองสายต่างๆ ไหลลงมาสมทบเพื่อระบายลงสูงอ่าวพังงา ได้เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องและมีสีขุ่นเหลือง โดยทางเจ้าหน้าที่ได้เร่งเปิดประตู่ระบายน้ำเพื่อให้น้ำได้ไหลลงทะเลอย่างรวดเร็ว ซึ่งพบว่าที่บริเวณประตูระบายน้ำมีกิ่งไม้ เศษไม้ ได้ไหลมากับน้ำมาติดอยู่ที่ประตูระบายน้ำเป็นจำนวนมากซึ่งทำให้ชาวบ้านที่อาศัยติดกับแม่น้ำพังงา ได้เตรียมความพร้อมรับมือน้ำท่วมได้เก็บข้าวของเครื่องใช้ไว้บนที่สูงและได้เตรียมเรือท้องแบนไว้สัญจรในช่วงที่มีน้ำท่วมขัง

 

 

ทางด้านนายจำเริญ ทิพญพงศ์ธาดา ผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา เปิดเผยว่า ทางศูนย์อุตุนิยมวิทยารายงานว่าในช่วงวันที่ 13 – 16 ตุลาคม 2564 มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามันและภาคใต้ฝั่งตะวันตกยังคงมีกำลังค่อนข้างแรง ประกอบกับพายุโซนร้อน “คมปาซุ” มีศูนย์กลางอยู่บริเวณทะเลจีนใต้ตอนบนลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณภาคใต้ฝั่งตะวันตกยังคงมีฝนตกหนักในบางพื้นที่ของบริเวณจังหวัดระนอง พังงา และภูเก็ต ขอให้ประชาชนที่อาศัยในพื้นที่เสี่ยงภัยระมัดระวังอันตรายจากฝนตกหนักที่ในระยะนี้ไว้ด้วยสำหรับคลื่นลมในทะเลอันดามันยังคงมีกำลังแรง ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองทะเลมีคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ขอให้ชาวเรือระวังอันตรายในการเดินเรือ เรือเล็กควรงดออกจากฝั่งในระยะนี้ และขอให้ประชาชนติดตามประกาศจากกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิด

 

 

เพื่อเป็นการเตรียมพร้อมรับสถานการณ์ดังกล่าว กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดพังงา จึงขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้านสาธารณภัย ดำเนินการติดตามข้อมูลสภาพอากาศและข่าวสารจากทางราชการ เฝ้าระวังสถานการณ์ฝนตกหนัก ปริมาณฝนตกสะสม โดยพื้นที่ลุ่มต่ำอาจได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมขัง พื้นที่ลาดเชิงเขาอาจได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก วิเคราะห์และประเมินสถานการณ์จากปัจจัยต่าง ๆ รวมถึงปัจจัยสภาพความเสี่ยงในพื้นที่ เพื่อประสานและบูรณาการหน่วยงานเครือข่าย จิตอาสา ภาคเอกชน และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เตรียมพร้อมทรัพยากร เครื่องจักรกลสาธารณภัย และแผนเผชิญเหตุ รวมถึงกำลังเจ้าหน้าที่ให้มีความพร้อมปฏิบัติงานบรรเทาสาธารณภัย อำนวยความสะดวก และให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยตลอด 24 ชั่วโมง และหากเกิดสถานการณ์ในพื้นที่ โทร 076 - 460 – 607