เปิด ปิด การใช้งานคุกกี้ของ ทรูฮิต (Truehits Cookies)



ลูกงง นำศพแม่ ไปฝากโกดังเก็บศพ มูลนิธิฯ ผ่านไป 5 ปี ศพหาย


30 ส.ค. 2562, 19:29



ลูกงง นำศพแม่ ไปฝากโกดังเก็บศพ มูลนิธิฯ ผ่านไป 5 ปี ศพหาย




วันที่ 30 ส.ค.62 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า ได้เดินทางไปที่สุสานของมูลนิธิตระกูลอึ้งสงเคราะห์ ตั้งอยู่หมู่ 8 บ้านหนองไร่ ต.ตะค้ำเอน อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี เพื่อสอบถามในเรื่องที่มีข่าวว่า ศพใส่โลงจำปาที่ฝากไว้ในโกดังของสุสานมูลนิธิฯ นาน 5 ปีได้อันตธานหายไปอย่างไร้ร่องรอย พบว่า ภายในที่ทำการของมูลนิธิฯ กำลังทำพิธีเซ่นไหว้บรรพบุรุษตามธรรมเนียมจีนโบราณ รวมทั้งในพิธีเซ่นไหว้ยังมีการเรียกประชุมคณะกรรมการชุดใหม่ที่หมดวาระลงในระยะเวลา 5 ปี และสมาชิกเพื่อชี้แจงงบราย รับรายจ่ายประจำปี

 

 

 

โดยผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก นายศวีระ พฤษาอุดมชัย อายุ 57 ปี อยู่บ้านเลขที่ 83 หมู่ 4 ต.ตะคร้ำเอน อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี ซึ่งมีอาชีพขายของโซห่วยว่า "สาเหตุที่ตนและพี่ๆ น้องรวม 8 คน เดินทางมาที่สุสานของมูลนิธิแห่งนี้ เนื่องจากเมื่อปี พ.ศ.2557 นางซูเอ็ง แซ่อึ้ง อายุ 88 ปี มารดาได้เสียชีวิตลงด้วยวัยชรา จึงได้นำศพใส่โรงจำปา เตรียมทำพิธีสวดพระอภิธรรมศพ และนำศพมาฝังไว้ในสุสานของมูลนิธิฯ ซึ่งก่อนหน้านี้ได้ซื้อที่ดินทำฮวงซุ้ยฝังศพบิดาไปแล้วครั้งหนึ่ง

 

 



 

แต่ในปี พ.ศ.2557 ตนและพี่ ๆ น้อง ๆ ไปดูวันเวลาและฤกษ์ฝังศพ พระท่านบอกว่า ปี พ.ศ.2557 ไม่มีฤกษ์ฝังศพ ตามความเชื่อถือของคนจีน ถ้าหากนำศพไปฝังปีนั้น จะไม่ดีต่อลูกหลาน ตนพร้อมด้วยพี่ ๆ น้อง ๆ และญาติจึงปรึกษากันและมีความเห็นว่า ให้นำศพมารดาไปฝากไว้ในโกดังของมูลนิธิฯ ช่องที่ 5 เป็นเวลา 5 ปี แล้วจึงค่อยนำศพมาฝังตามพิธีทางศาสนาของคนจีน โดยจ่ายเงินค่าเช่าพื้นที่ฝากศพจำนวน 3,000 บาท และค่าบำรุงดูแลรักษาหลุมฝังศพอีกปีละ 3,000 บาท

 

 

ต่อมาเมื่อวันที่ 26 ส.ค.62 ตนและพี่ ๆ น้อง ๆ รวม 8 คนได้เดินทางมาที่โกดังเก็บโลงศพของมารดา แจ้งความประสงค์ต่อเจ้าหน้าที่ของมูลนิธิฯ ซึ่งเป็นผู้ถือกุญแจโกดัง ว่าจะขอนำศพของมารดาที่ฝากไว้ในโกดังออกมาทำพิธีฝังในวันที่ 27 ส.ค.62 แต่ก็ได้รับคำตอบจากเจ้าหน้าที่ผู้ดูแลว่า ช่องหมายเลขที่ 5 ภายในโกดังว่างเปล่า ไม่มีศพแล้ว ตนและพี่ ๆ น้อง ๆ บอกจะไม่มีได้อย่างไร เมื่อขอกุญแจโกดังเพื่อเปิดดู ก็ได้รับการปฏิเสธ อ้างว่ามันใกล้มืดแล้ว


 

ตนและพี่น้องจึงเดินทางกลับบ้าน จนกระทั่งเมื่อวันที่ 27 ส.ค.62 ที่ผ่านมาตน และพี่ชาย กับน้องๆ อีก 6 คนได้ไปนิมนต์เจ้าอาวาสวัดถาวรวราราม(วัดญวน) และว่าจ้างคนงานมาช่วยกันยกโลงศพในโกดังด้านหลังที่ทำการมูลนิธิฯ เพื่อไปทำพิธีฝังศพที่สุสาน ภายในโกดังที่เก็บศพนั้น ช่องหมายเลข 5 นั้นว่างเปล่า ไม่มีศพของมารดา จึงสอบถามคนถือกุญแจโกดังเก็บศพ ก็พูดจาบ่ายเบี่ยงอ้างว่าไม่รู่ไม่เห็นว่า ใครเป็นเคยเอาศพไป

 

 

 

จึงปรึกษาพี่ๆ น้องๆ เดินทางเข้าแจ้งความตำรวจ แต่ทางพนักงานสอบสวน สภ.ท่ามะกา บอกว่าตอนนี้ทำได้เพียงลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน ส่วนจะร้องทุกข์กล่าวโทษต้องให้ประธานมูลนิธิฯ เป็นคนมาแจ้งความ เนื่องจากเป็นเจ้าของสถานที่"

 

นายศวีระ ยังกล่าวต่ออีกว่า ใครไม่เป็นตน ไม่รู้หรอกว่า มันเสียความรู้สึกขนาดไหนที่ศพมารดาหายไปอย่างไร้ร่องรอยแบบนี้ สอบถามก็พยายามพูดจาบ่ายเบี่ยงหาข้อมูลไม่ได้ว่า การที่ศพหายเกิดจากสาเหตุอะไร ไม่เป็นศพพ่อแม่ หรือบรรพบุรุษใครไม่รู้

 

ผู้สื่อข่าวรายงานต่อไปว่า ภายหลังเสร็จสิ้นการประชุมคณะกรรมการ และสมาชิกแล้ว นายศวีระ พร้อมด้วยพี่น้องทั้ง 8 คน ได้นัดเจรจาเกี่ยวกับเรื่องนี้ โดยทางประธานและกรรมการของมูลนิธิฯ ได้เจรจากัน โดยในส่วนของทางมูลนิธิฯ จะเข้าแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษกับตำรวจ ส่วนเรื่องการติดตามตรวจสอบกรณีศพหายไปจากโกดังเก็บศพคาดว่า คงเกิดขึ้นมานานหลายปีแล้ว เป็นกรรมการชุดเก่า บางคนหมดวาระ บางคนเสียชีวิตไปแล้วก็มี โดยประธานและกรรมการชุดใหม่ขอเวลา 2 อาทิตย์ แล้วจะนัดหมายมาพูดคุยว่า จะเอาอย่างไรต่อไป ซึ่งผู้สื่อข่าวได้ขออนุญาตสัมภาษณ์เกี่ยวกับกรณีศพหาย แต่ก็ได้รับการปฏิเสธอ้างว่า ไม่สะดวกหิวข้าว จากนั้นก็เดินจากไป






Recommend News






MOST POPULAR


























©2018 ONBNEWS. All rights reserved.