เมื่อวันที่ 30 สิงหาคม 2562 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ จ.นครพนม ผลกระทบจากพายุโพดุล ยังมีอิทธิพลให้มีฝนตกลงมาต่อเนื่อง อย่างหนัก ตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา นอกจากนี้ ยัง ส่งผลให้เกิดพายุฝนลมกระโชกแรง สร้างความเสียหายให้ กับพื้นที่ หลายอำเภอ โดยเฉพาะในเขตพื้นที่ อ.เมือง อ.ธาตุพนม อ.นาแก อ.ปลาปาก อ.วังยาง มีต้นไม้ขนาดใหญ่หักโค่น ทับเสาไฟฟ้าเสียหายหลายจุด รวมถึง ในเขตเทศบาลเมืองนครพนม หนักสุด พื้นที่ ต.นาหนาด อ.ธาตุพนม จ.นครพนม มีพายุพัดบ้านเรือนพังเสียหาย กว่า 20 หลังคาเรือน เสียหายหนัก จำนวน 4-5 หลังคาเรือน คาดว่าจะต้องสูญเสียค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมนับแสนบาท โดยทางด้าน นายวีรวัฒน์ ยี่สารพัฒน์ นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลนาหนาด ประสาน กำลังทหาร หน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 22 อ.นาแก จ.นครพนม ร่วมกับ เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ทหาร ตำรวจ ผู้นำชุมชนท้องถิ่น เข้าตรวจสอบ ช่วยเหลือซ่อมแซม เร่งด่วนบรรเทาความเดือดร้อน ให้ชาวบ้านมีที่พักอาศัย ชั่วคราว และเตรียม พร้อม รับมือฝนตกหนักต่อเนื่อง

ขณะเดียวกัน ในส่วนของระดับน้ำโขงพบว่า ยังมีระดับทรงตัว ที่ประมาณ 8 เมตร ห่างจากจุดล้นตลิ่ง ที่ประมาณ 5 เมตร คือที่ 13 เมตร ถึงแม้จะยังสามารถรองรับน้ำได้อีกจำนวนมาก แต่พบว่า ลำน้ำสาขาสายหลัก คือ ลำน้ำก่ำ ที่รับน้ำมาจากหนองหาร จ.สกลนคร ที่มีการระบายน้ำลงลำน้ำก่ำเต็มพิกัด ระยะทางยาวกว่า 120 กิโลเมตร ไหล ผ่าน อ.วังยาง อ.นาแก ระบายลงน้ำโขงที่ อ.ธาตุพนม ล่าสุดพบว่า มีปริมาณน้ำสูง เริ่มล้นตลิ่ง เอ่อท่วมพื้นที่การเกษตร ที่อยู่แถบลุ่มน้ำก่ำ ซึ่งหากยังมีฝนตกต่อเนื่องคาดว่า จะเริ่มส่งผลกระทบ มีน้ำท่วมขัง พื้นที่การเกษตร รวมถึง บ้านเรือนประชาชน ขยายวงกว้างมากขึ้น ทั้งนี้ ทางชลประทานจังหวัดนครพนม ยังคงเร่ง ระบายน้ำจากลำน้ำสาขาให้เร็วที่สุด พร้อมแจ้งเตือนประชาชน รวมถึงหน่วยงานเกี่ยวข้อง ระดมเจ้าหน้าที่ ลงพื้นที่ ตรวจสอบติดตามประเมินสถานการณ์ ให้การช่วยเหลือประชาชน ตลอด 24 ชั่วโมง

ทางด้าน นายวีรวัฒน์ ยี่สารพัฒน์ นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลนาหนาด อ.ธาตุพนม จ.นครพนม เปิดเผยว่า ครั้งนี้ถือว่าได้รับผลกระทบหนัก หลังมีฝนตกลมแรงตลอดคืนที่ผ่านมา จากการสำรวจ ในพื้นที่ บ้านคำชะอี หมู่ 8 ต.นาหนาด อ.ธาตุพนม จ.นครพนม มีบ้านเรือนได้รับความเสียหาย จำนวน กว่า 20 หลังคาเรือน มีเสียหายหนักมากถึง 5 หลัง มีโรงเรียน 1 แห่ง นอกจากนี้ ยังมีต้นไม้หักโค่น อีกหลาย จุด ทั้ง นี้ ได้ประสาน เจ้าหน้าที่ ทหาร ฝ่ายปกครอง และผู้นำชุมชน ท้องถิ่น เร่งตรวจสอบ ช่วยเหลือ บรรเทาความเดือดร้อน