เมื่อวันที่ 17 ต.ค. 64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่เขื่อนห้วยติ๊กชู ต.ห้วยติ๊กชู อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ  ซึ่งเป็นเขื่อนขนาดใหญ่ใกล้กับเทือกเขาพนมดงรักชายแดนไทย – กัมพูชา โดยขณะนี้กำลังมีฝนตกอย่างต่อเนื่อง ปรากฏว่า จากการที่ได้มีฝนตกหนักในเขตพื้นที่ จ.ศรีสะเกษนานหลายวันติดต่อกัน  ได้ทำให้น้ำป่าจากเทือกเขาพนมดงรักจำนวนมาก ซึ่งน้ำป่ามีสีขุ่นแดงไหลทะลักลงมาสู่อ่างเก็บน้ำของเขื่อนห้วยติ๊กชู และได้ล้นทะลักจากเขื่อนห้วยติ๊กชูไหลทะลักลงไปตามคลองระบายน้ำลงไปสู่ลำห้วยสาขา ไหลลงไปท่วมบ้านเรือนไร่นาของชาวบ้านในเขต อ.ภูสิงห์ ในหลายตำบล โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่บ้านนกยูง ต.ห้วยติ๊กชู อ.ภูสิงห์ น้ำได้ทะลักลงมาท่วมถนนกลางหมู่บ้าน บ้านเรือนและไร่นาของชาวบ้านจมอยู่ใต้น้ำ นายนิคม วงศ์ก่อ หน.สนง.ปภ.สาขากันทรลักษ์ พร้อมด้วย นายสรศิริ จันดีบุตร ปลัดอำเภอภูสิงห์ ได้ร่วมกับชาวบ้านนกยูงช่วยกันดึงเอาวัชพืชต่าง ๆ ที่ติดอยู่ใต้สะพานทางเข้าหมู่บ้านให้วัชพืชออกจากใต้สะพาน ทั้งนี้เพื่อให้น้ำไหลได้สะดวก แต่ว่ามวลน้ำมีจำนวนมาก เนื่องจากมีฝนตกต่อเนื่อง ทำให้การกำจัดวัชพืชออกจากทางระบายน้ำเป็นไปด้วยความยากลำบาก รถเล็กไม่สามารถผ่านเข้าไปในหมู่บ้านได้สะดวก เนื่องจากว่าระดับน้ำสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ขณะเดียวกัน มวลน้ำจำนวนมหาศาลนี้ ได้ไหลหลากเข้าไปท่วมไร่นาของนางมาลี หาดคำ อายุ 58 ปี อยู่บ้านเลขที่ 52 หมู่ 6 บ้านนกยูง ต.ห้วยติ๊กชู ซึ่งมีที่นาอยู่ติดกับ ร.ร.บ้านนกยูง ที่โดนน้ำท่วมบริเวณ ร.ร.เช่นกัน นางมาลีได้ยืนเหม่อลอยมองนาของตนเองที่โดนน้ำท่วมด้วยความเศร้าสร้อย เนื่องจากว่าปีนี้โดนน้ำท่วมนาแล้วถึง 2 ครั้งด้วยกัน โดยที่ไม่สามารถที่จะแก้ไขปัญหาน้ำท่วมนานี้ได้ นางมาลี เล่าว่า ตนทำนา 19 ไร่ ขณะนี้น้ำได้ท่วมนาไปแล้วจำนวนประมาณ 10 ไร่ ซึ่งต้นข้าวในนาของตนกำลังออกรวงใกล้จะเก็บเกี่ยวแล้ว แต่เมื่อน้ำท่วมนาแบบนี้ทำให้เมล็ดข้าวลีบเล็กเสียหาย ไม่สามารถเก็บเกี่ยวได้ ซึ่งตนไม่รู้ว่าจะเก็บเกี่ยวข้าวได้จำนวนเท่าไหร่ โดยปีนี้น้ำท่วมนาของตน 2 ครั้งแล้ว ครั้งนี้น้ำจะไหลแรงกว่าช่วงเดือน ก.ย.64 เป็นอย่างมากทีเดียว ทำให้ต้นข้าวล้มจมใต้น้ำทั้งหมด

นายสรศิริ จันดีบุตร ปลัดอำเภอภูสิงห์ กล่าวว่า ตนได้รับมอบหมายจากนายอำเภอภูสิงห์ ให้ออกมาดูแลช่วยเหลือชาวบ้านที่ถูกน้ำท่วม ซึ่งน้ำที่ไหลทะลักมานี้เป็นน้ำป่าจากเทือกเขาพนมดงรัก ไหลทะลักมาท่วมบ้านเรือน ไร่นาของชาวบ้านเมื่อช่วงดึกของคืนวันที่ 16 ต.ค.64 น้ำท่วมเป็นบริเวณกว้างมาก จากการสำรวจเบื้องต้นพบว่า มีน้ำท่วมในเขต 5 ตำบลของ อ.ภูสิงห์ ตนกำลังร่วมกับชาวบ้านหาทางแก้ไขปัญหาน้ำท่วมอย่างเร่งด่วน โดยในเบื้องต้นจะต้องเร่งกำจัดวัชพืชที่กีดขวางการไหลของน้ำให้ออกจากทางน้ำไหลโดยด่วนที่สุด

นายนิคม วงศ์ก่อ หน.สนง.ปภ.สาขากันทรลักษ์ กล่าวว่า ตนได้ออกมาร่วมกับ อ.ภูสิงห์ และส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง สำรวจพื้นที่โดนน้ำท่วม ซึ่งขณะนี้เบื้องต้นพบว่าน้ำท่วมเป็นบริเวณกว้าง เนื่องจากน้ำป่าไหลหลากอย่างรุนแรงและรวดเร็วมาก ตนจะได้ประสานงานกับ อ.ภูสิงห์ เพื่อให้การสนับสนุนในการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมในเขต อ.ภูสิงห์ และ อ.ขุนหาญ รวมทั้งอำเภอใกล้เคียงอย่างเต็มที่ต่อไป