ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า เมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 19 ตุลาคม พ.ต.ท.อมร ชัยศิลป์ รอง ผกก. ป้องกันกราบปราม สภ.ขุนทะเล อ.เมืองสุราษฎร์ธานี รับแจ้งเหตุผู้ป่วยโควิด-19 ที่รักษาตัวภายในโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานีแทงกันมีผู้ได้รับบาดเจ็บ จึงเดินทางเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วย นายวิชวุทย์ จินโต ผวจ.สุราษฎร์ธานี พ.ต.อ. ฐิติวัชร์ สฐิติวนิช ผกก.สภ.ขุนทะเล จ.สุราษฎร์ธานี นำกำลังเข้าตรวจสอบด้วยความมาตราการป้องกันโควิด

ภายในหอประชุมวชิราลงกรณ์ หน่วยกู้ชีพตาปี และกู้ภัยสุราษฎร์ธานี กำลังเร่งนำผู้บาดเจ็บ ทราบชื่อต่อมา คือเอ (นามสมมติ) อายุ 18 ปี ชาว ต.คลองน้อย อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี ได้รับบาดเจ็บที่ชายโครงด้านขวาหลัง นำส่งโรงพยาบาลสุราษฎร์ธานี ส่วนผู้ก่อเหตุทราบชื่อต่อมา คือนายเค (นามสมมติ) อายุ 30 ปี ชาวอำเภอบ้านนาสาร จังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้หนีขึ้นไปอยู่ชั้น 3 และปีนออกนอกระเบียงเนื่องจากกลัวกลุ่มคู่กรณีมารุมทำร้าย เจ้าหน้าที่ใช้เวลาเกลี้ยกล่อม รับรองความปลอดภัย จนยอมทิ้งอาวุธ ประกอบด้วย กรรไกร มีดทำครัวขนาดเล็ก และแปรงสีฟัน โยนทิ้งลงมาก่อนจะยกมือลงมามอบตัว เจ้าหน้าที่นำขึ้นรถกู้ภัยเพื่อแยกตัวไปกักตัวพร้อมพวกอีก 3 คน ไปที่ ศูนย์ CI บ้านห้วยมุด อ.บ้านนาสาร จ.สุราษฎร์ธานี

 

จากการสอบสวน นายเค ผู้ก่อเหตุเบื้องต้นให้การว่า ก่อนเกิดเหตุ ในขณะที่กำลังรับข้าวกล่องเพื่อไปแจกจ่าย เนื่องจากเป็นจิตอาสาในโรงพยาบาลสนามแห่งนี้ และได้เตือนนายเอ ผู้ได้รับบาดเจ็บ ว่าอย่าหยิบข้าวกล่องไปจำนวนมาก ให้เหลือไว้สำหรับผู้ป่วยคนอื่นด้วย ทำให้เกิดความไม่พอใจ นายเอ จึงพาพวกเข้าจะรุมทำร้ายตน จึงได้คว้า มีดและกรรไกร ที่มีไว้สำหรับการอำนวยความสะดวกปอกผลไม้ ตัดสิ่งของ โดยใช้กรรไกรแทง ก่อนจะหลบหนี้ขึ้นด้านบน เพราะกลัวกลุ่มเพื่อนผู้บาดเจ็บเข้าจะทำร้ายร่างกาย ก่อนมอบตัวในที่สุด

ด้านนานวิชวุทย์ จินโต ผวจ.สุราษฎร์ธานี กล่าวภายหลังเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุว่า ได้เน้นย้ำเรื่องมาตราในการเป็นอยู่ โดยเฉพาะสิ่งต่างๆ ที่สามารถเป็นอาวุธได้ อย่างที่ใช้ก่อเหตุก็เป็นกรรไกรที่สำหรับเจ้าหน้าที่ และใช้เพื่อตัดสิ่งของ หลังจากนี้ก็ต้องมีมาตราการคุมเข้มและงดฝากของเยี่ยมจากญาติ ซึ่งทางผู้ดูแลโรงพยาบาลสนามมหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานีได้จัดเตรียมอาหารไว้ดูแลทั้ง 3 มื้ออยู่แล้ว