ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณสี่แยก อ.ต.ก. ถนนเลี่ยงเมือง อ.เมือง จ.ตรัง เจ้าหน้าที่รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุหมู่ ระหว่างรถยนต์ฟอร์จูนเนอร์ ชนกับรถบรรทุกพ่วง มีผู้เสียชีวิตคาที่ และติดอยู่รถฟอร์จูนเนอร์หลายคน  ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ เและเจ้าหน้าที่กู้ภัยจากพื้นที่ใกล้เคียง ทั้งมูลนิธิกุศลสถานตรัง เทศบาล ต.นาตาล่วง เทศบาล ต.โคกหล่อ รถฉุกเฉินโรงพยาบาลตรัง โรงพยาบาลรวมแพทย์ และโรงพยาบาลวัฒนแพทย์ตรัง รีบรุดไปตรวจสอบและเร่งให้ความช่วยเหลือ  เมื่อไปถึงพบรถยนต์ฟอร์จูนเนอร์ สีขาว ป้ายทะเบียน กค. 3407 พังงา หลุดจากเลนต์ตัวเอง ไปจอดขวางอยู่เลนฝั่งขวามือ สภาพเสียหายทั้งคัน โดยเฉพาะฝั่งขวายุบ  โดยมีผู้เสียชีวิตเป็นเพศหญิง ซึ่งหลุดจากตัวรถนอนอยู่บนถนน 1 คน ส่วนในรถยนต์ฟอร์จูนเนอร์ ยังมีผู้บาดเจ็บติดในรวม 6 คน เป็นผู้ใหญ่ 5 คน และเด็ก 1 คน ในที่นี้พบสาหัส 3 คน  เจ้าหน้าที่ต้องเร่งใช้เครื่องตัดถ่างเพื่อรีบนำร่างออกมา และเร่งปั๊มหัวใจ จากนั้นรีบนำส่งโรงพยาบาลตรัง เป็นการด่วน  ส่วนรถบรรทุกพ่วงคู่กรณีจอดอยู่เส้นทางจะมุ่งหน้าสี่แยกหนองตรุด

จากการสอบถาม นางสาวเพียรธิรา บุตรหลัง อายุ 35 ปี ชาว อ.อ่าวลึก จ.กระบี่ กล่าวว่า  ผู้เสียชีวิตคือ นางยุเหรียญ ยุมยวง อายุ 50 ปีเศษ เป็นญาติกับตน ซึ่งกำลังเดินทางกลับจาก อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี เพื่อรีบมุ่งหน้ากลับบ้านที่ อ.อ่าวลึก จ.กระบี่ โดยเดินทางกลับจากไปแต่งงานให้ลูกชายผู้ตาย ซึ่งเดินทางมาด้วยรถ 2 คัน คือ รถยนต์ฟอร์จูนเนอร์ ขับนำหน้า มีคนมาในรถรวม 7 คน  ส่วนตนเองมากับรถยนต์เก๋ง รวมประมาณ 5 คน  เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุรถฟอร์จูนเนอร์ ซึ่งนำหน้าชนกับรถบรรทุกดังกล่าว ทำให้เสียชีวิตดังกล่าว และเจ็บหลายคน
 

ขณะที่ นายปรากฏ โทธรรม อายุ 62 ปี อยู่บ้านเลขที่ 166 หมู่ 9 ต.หนองปรือ อ.รัษฎา จ.ตรัง คนขับรถบรรทุกพ่วงคันดังกล่าว  ซึ่งหลังเกิดเหตุก็ไม่ได้หลบหนี รอให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ และโทรเรียกบริษัทประกันรถ กล่าวว่า  ตนเองกลับจากไปส่งปูนซีเมนต์ที่ท่าเรือกันตัง ขากลับเพื่อมุ่งหน้ากลับบ้านที่ อ.รัษฎา  เมื่อมาถึงบริเวณสี่แยก ซึ่งเป็นไฟกระพริบ จู่ๆ ก็มีรถฟอร์จูนเนอร์โผล่มา  ตนเองพยายามเบรกแล้ว ทำให้ด้านซ้ายของรถตนเองชนเข้ากับกลางลำตัวด้านขวา  ส่วนตัวเชื่อว่าหากรถฟอร์จูนเนอร์เบรกด้วย ก็คงไม่น่าจะชนกัน  ทั้งนี้ อาจเป็นเพราะคนขับฟอร์จูนเนอร์เป็นคนต่างจังหวัดและไม่ชำนาญเส้นทาง  ทั้งนี้ ในช่วงกลางคืนบริเวณสี่แยก อ.ต.ก. มักเปิดเป็นไฟกระพริบ และแสงไฟบริเวณสี่แยกไม่ค่อยจะสว่างมากนัก เป็นเหตุให้เกิดอุบัติเหตุขึ้นบ่อยครั้ง