นายกฯ ขอบคุณปชช.-จนท.ทุกฝ่าย ร่วมมือทำให้ผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ลดลง
20 ต.ค. 2564, 15:37
วันนี้ ( 20 ต.ค.64 ) นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผย พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายทั้งบุคลากรทางการแพทย์ เจ้าหน้าที่ด่านหน้า เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่าง ๆ ตลอดจนประชาชนทุกคน ที่ได้ร่วมมือกันทำงานอย่างเต็มที่ในการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 รวมถึงร่วมกันปฏิบัติตามมาตรการด้านสาธารณสุขการป้องกันการติดเชื้อโควิด-19 ส่วนบุคคล แบบครอบจักรวาล (Universal Prevention) อย่างเคร่งครัด และพร้อมใจกันฉีดวัคซีนโควิด-19 ด้วยความสมัครใจ จนทำให้ล่าสุดตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ลดลง โดยตัวเลขสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในประเทศไทยวันนี้ พบมีผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่ม 8,918 ราย ติดเชื้อสะสมตั้งแต่ 1 เมษายน 2564 จำนวน 1,782,989 ราย และวันนี้หายป่วยเพิ่มอีก จำนวน 10,878 ราย หายป่วยสะสมตั้งแต่ 1 เมษายน 2564 จำนวน 1,662,433 ราย โดยมีผู้ป่วยกำลังรักษา จำนวน 103,507 ราย และเสียชีวิตเพิ่ม 79 ราย ซึ่งจำนวนผู้เสียชีวิตมีตัวเลขต่ำกว่าร้อยต่อเนื่อง 6 วัน แสดงให้เห็นถึงศักยภาพการรักษาพยาบาลของแพทย์ไทยความเข้มแข็งในของระบบสาธารณสุข
นายกรัฐมนตรี ยังฝากความห่วงใยพี่น้องประชาชนทั้งที่ได้รับวัคซีนแล้ว แม้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 จะเริ่มคลี่คลายบ้างแล้ว แต่ฝากให้ประชาชนทั้งผู้ที่ได้ฉีดวัคซีนแล้ว หรืออยู่ระหว่างการรอรับวัคซีน ทุกคนยังต้องปฏิบัติตามมาตรการด้านสาธารณสุขการป้องกันการติดเชื้อโควิด-19 ส่วนบุคคล แบบครอบจักรวาล (Universal Prevention) อย่างเคร่งครัด อยู่บ้านก็ขอให้ใส่หน้ากากอนามัย/หน้ากากผ้า หมั่นล้างมือบ่อย ๆ เว้นระยะห่างระหว่างกันภายในครอบครัว ป้องกันการติด/แพร่เชื้อภายในครอบครัว ขณะเดียวกันก็ขอความร่วมมือไปยังกิจการร้านค้าต่าง ๆ ตลาด ชุมชน ยังต้องปฏิบัติตามมาตรการ "โควิดฟรีเซตติ้ง" (COVID Free setting) รวมถึงย้ำสถานบริการ ผับ คาราโอเกะ ให้ปฏิบัติตามข้อกำหนดตาม พ.ร.ก. ฉุกเฉิน ฯ หากพบมีการกระทำผิดและฝ่าฝืนจะถูกดำเนินการตามกฎหมายอย่างจริงจังทันทีผู้ประกอบการ
“นายกรัฐมนตรีย้ำถึงการดำเนินการและการออกมาตรการต่าง ๆ ของรัฐบาล คำนึงถึงประโยชน์โดยรวมของประเทศเป็นสำคัญแม้มาตรการบางอย่างอาจส่งผลกระทบต่อประชาชนบ้างโดยพยายามดูทั้งความปลอดภัยด้านสุขภาพและการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศให้เดินหน้าต่อไป เร่งฉีดวัคซีนให้ครอบคลุมไม่ต่ำว่าร้อยละ 70 ของกลุ่มเป้าหมาย รวมทั้งกำหนดเงื่อนไขในการเปิดรับนักท่องเที่ยว วันที่ 1 พฤศจิกายนนี้ ให้ชัดเจน สำหรับการจัดกิจกรรมต่างๆในช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ปลายปีนี้ ไม่ว่าจะจัดโดยภาครัฐหรือเอกชน ต้องสอดคล้องกับมาตรการสาธารณสุขป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อย่างเคร่งครัด ลดความเสี่ยงในการเกิดการแพร่ระบาดระลอกใหม่ โดยนายกรัฐมนตรีไม่ต้องการกลับมาใช้มาตรการล็อกดาว์นอซึ่งกระทบต่อผู้ประกอบการและประชาชนอีก” โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าว