"พระธุดงค์" ปลีกวิเวกในช่วงเข้าพรรษา แวะสำนักสงฆ์กลางป่า พบสมบัติล้ำค่าสมัยโบราณ (ภาพ)
31 ส.ค. 2562, 12:24
จากกรณีที่ หลวงพ่อทักษ์ หรือ พระสมุหวิทักษ์ สนฺตจิตฺโต วัย 42 ปี เจ้าอาวาสวัดหนองสลิง ต.ศรีเตี้ย อ.บ้านโฮ่ง จ.ลำพูน ที่เดินทางไปปลีกวิเวกในช่วงเข้าพรรษา ที่สำนักสงฆ์ดอยผาแท่น ต.ศรีเตี้ย อ.บ้านโฮ่ง ซึ่งเป็นสำนักงานสงฆ์ดอยผาแท่นที่เก่าแก่ เป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมของ ” 3 ครูบา” เกจิอาจารย์ชื่อดังของ อ.บ้านโฮ่ง ในสมัยโบราณ มีพื้นที่ถึง 699 ไร่ ชาวบ้านต่างเชื่อถือว่าเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ มีเทวดาอารักษ์สิงสถิตย์อยู่ จึงไม่มีใครกล้ารุกล้ำเข้าไป หากฝ่าฝืนเข้าไปจะหลงป่าออกมาไม่ได้ เสมือนเข้าไปในเมืองลับแล
“หลวงพ่อทักษ์” ได้เจริญพรว่าช่วงแรก ที่อาตมาเข้ามาปลีกวิเวกสำนักงานสงฆ์ดอยผาแท่น ซึ่งมี “ครูบาปั่น” พระนิพนธ์ ปญฺญธโร อยู่ในวัยชราจำพรรษาอยู่เพียงรูปเดียว บริเวณสำนักสงฆ์ค่อนข้างรก เพราะไม่มีใครดูแลแผ้วถางวัชพืช จากการสำรวจห่างจากบริเวณสำนักสงฆ์ฯ ประมาณ 200 เมตร ด้านทิศตะวันออกเรียกกันว่าเป็น “โซนสมุนไพร” ต่าง ๆ มากมาย พบรูปปูนปั้นฤาษีเป็นองค์แรกเรียกว่า “ปู่ฤาษีชีวก โกมารภัจจ์” หรือ “หมอยา” นั่งชี้นิ้วไปยังแอ่งน้ำข้างล่าง ห่างไปประมาณ 200 เมตร มีรูปปูนปั้นของฤาษีเรียกว่า “ฤาษีม่อนยา” มีลักษณะนั่งอุ้มบาตร และห่างอีกไปประมาณ 200 เมตร มีรูปปูนปั้นฤาษีอยู่ในหลึบเขามีแท่นผารอบด้าน ฤาษีตนนี้เรียกว่า “ฤาษีตาไฟ” ในลักษณะนั่งสมาธิ เป็นสถานที่สงบเย็นสบายเหมาะแก่การนั่งสมาธิ และยังมีร่องรอยทางเดินกัมฐานทั้งเป็นทางราบ ขึ้นเนิน และทางเรียบ มีชาวบ้านออกมาหาของป่าเพียงโซนนี้เท่านั้น
ส่วนโซนทิศตะวันตก ของสำนักสงฆ์ดอยผาแท่น อาตมาไม่กล้าเข้าไปสำรวจ ทั้งนี้มีตำนานเล่าขานกันว่าเสมือนเป็นดินแดนเมืองลับแล เป็นที่อาศัยของนกยุงมีประมาณ 60-70 ตัว ขณะนี้อยู่ช่วงเลี้ยงลูกน้อย จะออกมาหากินและรำแพนในช่วงฤดูหนาว และยังเป็นที่อาศัยของสัตว์ร้าย เช่น งูพิษ เป็นต้น นอกจากนี้ ยังเป็นที่อาศัยของสัตว์ป่านานาชนิด ที่ชาวบ้านแถบนี้ไม่มีใครกล้าย่ำกายเข้าไป หากฝ่าฝืนเข้าป่าจะหลงทิศกลับออกมาไม่ได้
นอกจากนี้ ยังค้นพบศิลาจารึกเป็นปูนปั้น ฝังอยู่บนดอยมีขนาดสูง ประมาณ 2 เมตร กว่า 1 เมตร เป็นลักษณะสี่เหลี่ยมมีตัวอักษรจารึกไว้ แต่ไม่สามารถอ่านได้ เพราะมีสาหร่ายขึ้นเต็มไปหมด เมื่อมาปลีกวิเวกทำสำนักสงฆ์แห่งนี้ เมื่อช่วงกลางคืนจะได้ยินเสียงแห่ฆ้อง กลอง และเสียงพระสวดอยู่เสมอ คิดว่าตนเองเริ่มบ้าแล้ว จึงไปถามผู้เฒ่าผู้แก่กับเสียงนี้ที่ได้ยิน ก็ได้รับความตอบว่าเสียงนี้มีจริง เลยสบายใจไม่ได้บ้าแต่อย่างใด