พ่อเลี้ยงโหด! ทรมานเด็กชาย 8 ขวบ ดับอนาถ
20 ต.ค. 2564, 19:03
วันที่ 20 ต.ค.64 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า พ.ต.ท.ภูสิทธิ์ ชาญศรี ร้อยเวร สอบสวน สภ.หนองแค ได้รับแจ้งจาก รพ.หนองแค ว่ามีเด็กชาย ได้รับบาดเจ็บตามร่างกาย ในลักษณะผิดรูปแบบของการเกิดอุบัติเหตุ คือตามร่างกายมีรอยฟกช้ำ ดำเขียว ไปทั่วร่างกาย ให้เข้ามาตรวจสอบ พร้อมแจ้งเจ้าหน้าที่อาสากู้ภัยสว่างรัตนตรัยธรรมสถานสระบุรีให้เข้ามาช่วยทำ CPR เนื่องจากเด็กมีอาการที่อ่อนแรง จากนั้นทางแพทย์ทำ CPR เป็นเวลากว่า 40 นาที และเมื่อเจ้าหน้าที่กู้ภัยฯมาถึง เด็กมีอาการชีพจรหยุดเต้นแล้ว ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ และแพทย์จึงได้ลงความเห็นว่า ให้นำเด็กไปผ่าชันสูตรยังสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ศูนย์ธรรมศาสตร์รังสิต เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริง จากการตรวจสอบตามร่างกายของ เด็กชายเอ (นามสมมติ) อายุ 8 ปี ตามร่างกาย ที่บริเวณข้อมือขวา และซ้าย มีร่องรอยการถูกมัด เป็นแผลลึก ซึ่งคาดว่าน่าจะถูกมัดแล้วโยงด้วยเชือก กับขื่อภายในบ้าน แล้วตีด้วยสายไฟ แขนขวามีแผลทั่วแขน แผ่นหลังถูกตีจนเขียวช้ำได้ชัดไปทั่วแผ่นหลัง หัวเข่าเท้าซ้ายบวม
สอบถาม นางตา (นามสมมิต) อายุ 59 ปี ซึ่งเป็นยาย เล่าด้วยอาการเศร้าโศก ร้องให้อยู่ตลอดเวลา ว่า เด็กชายเอ อายุ 8 ขวบ เรียนอยู่ชั้น ป.2 หลานชายของตนอาศัยอยู่กับ นางสา (นามสมมติ) คือแม่ อายุ 35 ปี และนายชา (นามสมมติ) คือพ่อเลี้ยง พร้อมด้วยพี่สาวอายุ 6 ปี อีก 1 คน ที่บ้านเช่า อ.หนองแค จ.สระบุรี ซึ่งเหตุเกิดเมื่อคืน 19 ต.ค. ที่ผ่านมา โดยหลานชายของตนได้ถูกนายชา ซึ่งเป็นพ่อเลี้ยง (ซึ่งขณะนี้ได้หลบหนีไปแล้ว) มัดมือ โยงกับเสา แล้วใช้สายไฟ เฆี่ยนตี ไม่ให้กินข้าว กินน้ำ เวลาเยี่ยวก็ให้เยี่ยวใส่ขวด แล้วเอาไปทิ้ง ซึ่งหลานของตนอายุเพียงแค่ 8 ขวบเอง ต้องมาเจอกับเหตุการณ์แบบนี้ รู้สึกสงสารหลานมาก ตามตัวมีแต่แผล ขณะที่เกิดเหตุตนเองไม่รู้เนื่องจากอยู่กันคนละบ้าน ส่วนนางสา (แม่) ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัวเพื่อนำไปสอบสวนยัง สภ.หนองแค
ทางด้าน นายเค (นามสมมติ) คือน้าชาย อายุ 25 ปี เล่าว่า ตนเองทำงานอยู่ที่เดียวกับ นายชา (พี่เขย) (เป็นช่าวสีอยู่ที่อู่) ซึ่งมีพฤติกรรมทุบตี หลานของตนเองบ่อยมาก กักขังไม่ยอมให้ออกไปไหน ตนเองเห็นอยู่บ่อยๆ เคยเข้าไปต่อว่าอยู่ จากนั้นทางพี่เขย และพี่สาว ก็ย้ายบ้านออกมา อยู่กันตามลำพัง โดยมี เด็กชายเอ และพี่สาว ตามมาอยู่ด้วย และเมื่ออยู่กันตามลำพังแบบนี้ ซึ่งนายชา เพิ่งมาอยู่กับพี่สาวของตนได้ไม่นาน โดยปกติแล้ว เด็กชายเอ เป็นเด็กที่ว่านอนสอนง่าย ไม่ดื้อ เรียนเก่ง ส่วนพฤติกรรมของนายชา ขณะที่ทำงานเป็นคนอัธยาศัยดี แต่เมื่อกลับมาบ้าน เปลี่ยนเป็นคนละคน โดยส่วนตัวแล้วไม่น่าจะติดยา นายชา จะทำร้ายหลานตนเองบ่อยมาก อย่างเช่นสอนการบ้านไม่ได้อย่างใจก็จะทำร้ายทุบตี หยิบจับอะไรได้ตีหมด และเมื่อก่อนหน้านี้ทางอู่ที่ตนทำงานอยู่ได้มีคนมาบอกว่า นายชา ได้ขอสายรัดสายไฟที่เป็นพลาสติก (หนวดกุ้ง) และสายไฟมาจากทางอู่ ตนจึงคิดว่า หลานของตนถูกสายรัดสายไฟรัดที่ข้อมือ จากนั้นนำไปแขวนไว้กับเสา แล้วใช้สายไฟตีไปที่ตามลำตัวหลานของตน
ทางด้าน นาย อนันต์ชัย จรเสถียร เจ้าหน้าที่อาสากู้ภัยสว่างรัตนตรัยธรรมสถานสระบุรี จุดหนองแค เล่าว่า ตนเองได้รับแจ้งจาก รพ.หนองแค ให้ไปทำการ CPR แต่ทางตนไม่ทราบว่าจะเป็นเด็กน้อย เมื่อไปถึง รพ.พบว่าบริเวณข้อแขนขวา มีบาดแผลเป็นรอยลึก ซึ่งตนสงสัยว่าเด็กไปโดนอะไรมา ตนจึงได้ทำการ CPR ให้เด็กเป็นเวลานาน ซึ่งตอนนั้นเด็กไม่มีชีพจรแล้ว จากการตรวจสอบพบบาดแผลทั่วร่างกาย ซึ่งตนเองตั้งแต่ทำกู้ภัยฯ มา มีความรู้สึกสงสารเด็กมาก ซึ่งเคสนี้เป็นเคสแรกที่รู้สึกหดหู่
ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้นำตัวนางสา ไปสอบสวนยังสำนักงานอัยการจังหวัดสระบุรี โดยมีเจ้าหน้าที่ความมั่งคงของมนุษย์ และเจ้าหน้าที่สหวิชาชีพร่วมทำการสอบสวน ส่วนแนวทางทางด้านคดี ขณะนี้เจ้าหน้าที่พอที่จะทราบที่อยู่ของพ่อเลี้ยงโหดรายนี้ คาดว่า 1-2 วันนี้จะได้ตัวมาสอบสวนดำเนินคดีทางด้านกฎหมายต่อไป