เปิด ปิด การใช้งานคุกกี้ของ ทรูฮิต (Truehits Cookies)



เพจดังบุกสถานทูตลาว แฉรายชื่อหมู่บ้านลาว ยิงลูกปืนแหกตาคนไทยเป็น บั้งไฟพญานาค


25 ต.ค. 2564, 19:33



เพจดังบุกสถานทูตลาว แฉรายชื่อหมู่บ้านลาว ยิงลูกปืนแหกตาคนไทยเป็น บั้งไฟพญานาค




จากกรณีเพจเฟซบุ๊ก พิสูจน์บั้งไฟพญานาค ออกมาแฉถึงปรากฏการณ์บั้งไฟพญานาค ที่ผุดขึ้นจากริมแม่น้ำโขงทางภาคอีสานไทย ในวันออกพรรษาเมื่อวันที่ 21 ตุลาคม 2564 ตลอดแนวจังหวัดริมแม่น้ำโขงโดยเฉพาะที่ อ.รัตนวาปี จ.หนองคาย ซึ่งความเชื่อในเรื่องดังกล่าวได้มีการตั้งคำถามและมีการพิสูจน์มาเป็นเวลานานนับ 10 ปี

โดยเพจดังกล่าวเผยว่า "พิสูจน์มา 10 ปี ไม่ซ้ำที่ คนยิงก็ยังคงยิงไป คนเฮก็ยังคงเฮไป พบกันที่หน้าสถานทูตลาว วันจันทร์ที่ 25 ตุลาคม เวลา 08.00 น. เพื่อแฉรายชื่อหมู่บ้านลาวทั้งหมด ที่ยิงลูกปืนส่องแสงหลอกชาวหนองคาย บึงกาฬ และชาวไทยทั้งประเทศมาตลอด นี่อาจเป็นจุดเริ่มต้นของการสืบหาต้นสายปลายเหตุที่แท้จริงกันต่อไป...ขอความกรุณาท่านทูตลาวได้โปรดรับเรื่องด้วยครับ"

 



ล่าสุดข่าวช่อง 3 รายงานว่า นายสมภพ กล่าวว่า ทางเพจได้ตรวจสอบและสังเกตการณ์เรื่องนี้มานาน 10 ปี เก็บรวบรวมข้อมูลมาโดยตลอด โดยย้อนกลับไปเมื่อปี 54 ขณะนั้นยังมีความเชื่อในเรื่องบั้งไฟพญานาค ก่อนที่ อ.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์มหาวิทยาลัยชื่อดังจะระบุว่า ยังไม่มีใครเคยถ่ายภาพบั้งไฟขึ้นจากน้ำได้เลย จึงพยายามหาหลักฐานจากยูทูป หรือช่องทางต่างๆ เพื่อมายืนยัน แต่หาอย่างไรก็ไม่เจอ เพราะส่วนใหญ่จะเป็นภาพมืดๆ และมีลูกไฟขึ้นมาแต่ไม่สามารถบอกได้ว่ามาจากไหนกันแน่

กระทั่งถึงวันออกพรรษาในปี 54 จึงตัดสินใจเดินทางไปดูบั้งไฟพญานาคด้วยตัวเอง โดยใช้กล้อง DSLR เปิดหน้ากล้องไว้นานๆ เพื่อให้เห็นลูกไฟเป็นเส้น แต่ภาพที่ถ่ายได้กลับไม่ใช่ลูกไฟขึ้นจากน้ำ แต่ส่วนใหญ่ขึ้นมาจากฝั่งลาวทั้งนั้น โดยลักษณะคล้ายของแข็งและพุ่งขึ้นเป็นเส้นตรง


นายสมภพ เผยอีกว่า จากนั้นจึงเริ่มเฝ้าติดตามมาโดยตลอด และเปลี่ยนจุดชมบั้งไฟไปหลายๆจุดหวังว่าจะเจอบั้งไฟขึ้นจากน้ำสักครั้ง โดยในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ก็นำโดรนมาใช้ถ่ายเพื่อหาหลักฐาน เป็นการตั้งกล้องจากฝั่งไทย ก็พบว่าคลิปวิดีโอที่บันทึกได้นั้น ส่วนใหญ่จะเป็นลูกไฟที่ปรากฏจากทางฝั่งลาวทั้งสิ้น ซึ่งไม่ใช่การยิงจากริมตลิ่ง แต่ยิงลึกลงไปในน้ำ โดยส่วนตัวเชื่อว่า บั้งไฟพญานาคเกิดจากฝีมือมนุษย์

นายสมภพ กล่าวอีกว่า ได้ตระเวนไปตามหมู่บ้านไทยที่ตั้งอยู่ริมฝั่งโขงเพื่อพิสูจน์หลายครั้ง ก็พบว่า ฝั่งตรงข้ามของไทยซึ่งเป็นหมู่บ้านลาวนั้น มีหลายหมู่บ้านที่เชื่อว่ามีการยิงกระสุนแสง ทำให้เกิดบั้งไฟพญานาค ซึ่งก่อนหน้านี้ได้มีเพื่อนไปถ่ายจากฝั่งลาว ก็ได้ไปอยู่ใกล้กับคนยิงปืนส่องแสง และยินเสียงการยิงกระสุนชัดเจนจึงรีบหนีออกมา โดยครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 21 ต.ค.ที่ผ่านมา ได้เดินทางไป วัดอาฮง ใน จ.บึงกาฬ จากการลงพื้นที่ สามารถนับลูกไฟได้ 2 ลูก เป็นลักษณะไฟแดงอมชมพู ซึ่งเกิดขึ้นจากฝั่งลาวเช่นกัน

นายสมภพ กล่าวว่า แม้จะมีกระแสต่อต้านก็ไม่รู้สึกกังวลใจแต่อย่างใด เพราะมีการเชิญชวนให้พิสูจน์บั้งไฟพญนาค ตนก็คือคนหนึ่งที่อยากพิสูจน์การเกิดบั้งไฟพญานาคเช่นกัน และตนก็ไม่ได้ลบหลู่พญานาคแต่อย่างใด เพียงแต่ต้องการพิสูจน์ข้อเท็จจริงของการเกิดเหตุการณ์บั้งไฟพญานาคเท่านั้น

ทั้งนี้ที่บริเวณหน้าสถานเอกอัครราชทูตลาว มีตำรวจ สน.วังทองหลางดูแลความเรียบร้อยจำนวนหนึ่ง ก่อนที่ทางเจ้าหน้าที่จะแจ้งว่าวันนี้สถานทูตปิด จึงนายสมภพจึงได้ยื่นหลักฐานกับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ให้ส่งต่อกับเจ้าหน้าที่สถานทูตในภายหลัง






Recommend News






MOST POPULAR


























©2018 ONBNEWS. All rights reserved.