"หนุ่มอุทุมพรพิสัย" ใช้ปืนลูกซองยิงลูกจ้าง อบต.ดับอนาถ อ้างว่าป้องกันตัว - ปืนลั่น ตำรวจตั้งข้อหาหนัก
27 ต.ค. 2564, 08:26
เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 26 ต.ค. 64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณข้างร้านอาหารแห่งหนึ่ง หลัก กม.8 ริมถนนสายศรีสะเกษ อุทุมพรพิสัย ต.ขะยูง อ.อุทุมพรพิสัย จ.ศรีสะเกษ พ.ต.อ.ศุภชัย ศักรินพานิชกุล รอง ผบก.ภ.จว.ศรีสะเกษ พร้อมด้วย พ.ต.อ.ชยากร เทศะบำรุง รอง ผบก.ภ.จว.ศรีสะเกษ พ.ต.อ.สวัสดิ์ ศรีเกษม ผกก.สภ.อุทุมพรพิสัย และกำลังเจ้าหน้าที่ ตร.ชุดสืบสวน ภ.จว.ศรีสะเกษ และกำลังเจ้าหน้าที่ ตร.ชุดสืบสวน สภ.อุทุมพรพิสัย ได้นำตัว นายทวีศักดิ์ อายุ 32 ปี ไปทำแผนประกอบคำสารภาพ หลังจากที่ได้ก่อเหตุใช้อาวุธปืนลูกซองไทยประดิษฐ์ยิง นายธีรยุทธ์ อายุ 31 ปี เข้าที่บริเวณใบหน้าถึงแก่ความตาย โดยเหตุการณ์ฆ่าโหดครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 23.50 น.ของคืนวันที่ 26 ต.ค. 64 ที่ผ่านมา โดยในการทำแผนประกอบคำสารภาพ เริ่มตั้งแต่กลุ่มนายทวีศักดิ์และนายธีรยุทธ์ นั่งกินอาหารอยู่ในร้าน หลังจากร้านปิดแล้ว นายธีรยุทธ์ ได้เดินออกไปนอกร้านก่อน ต่อมานายทวีศักดิ์ ได้เดินออกไปนอกร้าน
จากนั้น นายทวีศักดิ์ ได้มาที่รถ จยย.ของตนเองที่จอดอยู่และนำเอาอาวุธปืนลูกซองออกมา แล้วนำเอาปืนไปยิงนายธีรยุทธ์ โดนยิงเข้าที่บริเวณใบหน้านอนจมกองเลือด เจ้าหน้าที่กู้ภัยได้นำตัวของนายธีรยุทธ์ ส่งไปยัง รพ.ศรีสะเกษ จากนั้น นายทวีศักดิ์ ได้นำเอาปืนลูกซองอาวุธสังหารไปทิ้งลงในลำห้วยสำราญ ที่บริเวณสะพานข้ามลำห้วยสำราญ ถนนตัดใหม่ในเขต อ.เมืองศรีสะเกษ โดยมีการคุ้มกันผู้ต้องหาอย่างเต็มที่ เนื่องจากเกรงว่าอาจจะเกิดเหตุไม่ปกติขึ้นได้ จากนั้น ได้นำตัวผู้ต้องหาไปควบคุมตัวไว้ที่ สภ.อุทุมพรพิสัย เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
พ.ต.อ.สวัสดิ์ ศรีเกษม ผกก.สภ.อุทุมพรพิสัย กล่าวว่า คดีนี้ได้รับแจ้งจากศูนย์ 191 เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2564 เวลาประมาณ 23:50 น. ว่ามีเหตุยิงปืนที่ร้านเค่งโส่ เขต ต.ขะยูง อ.อุทุมพรพิสัย จ.ศรีสะเกษ ตนและทีมงานชุดสืบสวนจึงได้ออกไปตรวจสอบยังที่เกิดเหตุและเก็บพยานหลักฐานสอบพยานบุคคลที่อยู่ในที่เกิดเหตุ ได้พบรอยเลือดของคนเจ็บอยู่ในที่เกิดเหตุทราบว่า ทางเจ้าหน้าที่กู้ภัยได้นำตัวส่งไปยัง รพ.ศรีสะเกษแล้ว ตนและคณะถึงได้พยายามเร่งสืบสวนสอบสวนเพื่อหาตัวคนร้ายรายนี้ ทำให้รู้ว่ากลุ่มผู้ก่อเหตุเป็นใครจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เข้าไปทำการกดดัน ทำให้คนร้ายที่ก่อเหตุได้ออกมามอบตัวกับพนักงานสอบสวน สภ.อุทุมพรพิสัย โดยผู้ต้องหาได้ให้การรับสารภาพว่า เป็นคนใช้อาวุธปืนยิงนายธีรยุทธ ถึงแก่ความตายจริง สำหรับพฤติกรรมของการเกิดเหตุครั้งนี้ เนื่องจากว่าผู้ต้องหากับพวกได้เข้าไปนั่งกินอาหารที่ร้านแห่งนี้ พอดีช่วงก่อนเลิกปิดร้านประมาณ 22.00 น. ผู้ต้องหาได้เช็คบิลแล้วได้เดินตามเพื่อนออกมาข้างนอก ซึ่งคาดว่าจะออกมาสูบบุหรี่และตอนนั้นพบว่า พื่อนของตนกำลังมีเหตุทะเลาะวิวาทกันอยู่โดยไม่รู้ว่าใครเป็นใครเนื่องจากสภาพอากาศมืดมาก และมีคนหนึ่งเดินเข้ามาเหมือนกับว่าจะทำร้ายผู้ต้องหา
ซึ่งนายทวีศักดิ์ ผู้ต้องหารายนี้ มีอาวุธปืนติดตัวมาด้วย โดยไปหยิบอาวุธปืนมาจากใต้เบาะรถ จยย. นำเอามาพกติดตัวไว้เพื่อป้องกันตัวเอง บังเอิญว่ามีคนหนึ่งเดินเข้ามาจะทำร้าย ผู้ต้องหาจึงได้นำเอาปืนชี้ไปยังคนที่กำลังเดินเข้ามา โดยเป็นเงาเนื่องจากมืดมาก ทำให้ปืนลั่นถูกคนได้รับบาดเจ็บล้มลงจากนั้นผู้ต้องหาได้หลบหนี จากการสอบสวนพฤติกรรมหรือว่าเหตุจูงใจในการก่อเหตุในครั้งนี้ ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าไม่ได้มีความรู้จักกับผู้ที่โดนยิงหรือว่ามีเหตุโกรธเคืองกันมาก่อนกับผู้ที่โดนยิงเสียชีวิตแต่อย่างใด เพียงแต่ว่าป้องกันตนเองเท่านั้น ไม่มีเหตุโกรธเคืองกับใครมาก่อน ส่วนอาการของคนบาดเจ็บนั้น ตนได้รับแจ้งจากทาง รพ.ศรีสะเกษว่าได้เสียชีวิตแล้วเมื่อช่วงเช้าของวันที่ 26 ต.ค.ที่ผ่านมา ตนจึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนเร่งติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายให้ได้ ซึ่งคนร้ายได้ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา สำหรับอาวุธปืนที่ใช้ในการก่อเหตุนั้นจากการตรวจร่องรอยบาดแผล
จากการสอบถามผู้ต้องหาแล้วทราบว่า เป็นอาวุธปืนลูกซองสั้นไทยประดิษฐ์บรรจุในรังเพลิงนัดเดียว ซึ่งตนจะได้รวบรวมพยานหลักฐานและทำการสืบสวนสอบสวนต่อไปว่า มีผู้ใดเกี่ยวข้องกับเหตุนี้บ้าง ถ้ามีใครมีส่วนเกี่ยวข้องก็จะดำเนินคดีตามกฎหมายทุกราย ซึ่งขณะที่อยู่ภายในร้านไม่มีเหตุทะเลาะวิวาทหรือชกต่อยกันแต่อย่างใด ซึ่งตอนนั้นน่าจะมีการเช็คบิลกันหมดแล้วเนื่องจากว่าร้านกำลังปิดเพื่อกลับบ้านบังเอิญว่ามันมีเหตุทะเลาะกันก่อน สำหรับผู้ต้องหารายนี้ ตนจะยังไม่อนุญาตให้ประกันตัวเพราะว่าเป็นคดีอุกฉกรรจ์และยังต้องสอบสวนพยานบุคคลต่างๆ ตนได้ตั้งข้อหาว่า ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา มีอาวุธปืนและกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ควบคุมตัวผู้ต้องหาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ทางด้านนางสุภาวดี ดีเลิศ อายุ 30 ปี ภรรยาของผู้เสียชีวิต กล่าวด้วยน้ำตานองหน้าว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ตนรู้สึกเสียใจมาก สามีของตนทำงานเป็นลูกจ้างชั่วคราวอยู่ที่ อบต.ตาเกษ อ.อุทุมพรพิสัย จ.ศรีสะเกษ ปกติแล้วนายธีระศักดิ์ผู้ตาย สามีของตนเป็นคนที่มีนิสัยร่าเริง ก่อนเกิดเหตุได้ไปส่งตนที่ทำงาน หลังจากนั้นได้กลับมานั่งรับประทานอาหารกับเพื่อนที่ร้านที่เกิดเหตุและมาถูกยิงตายในที่สุด ต่อไปตนต้องดูแลเลี้ยงลูก 1 คน ตามลำพัง ขณะนี้ญาติพี่น้องได้นำเอาศพสามีของตนออกมาตั้งศพบำเพ็ญกุศลที่ บ้านบอน ต.ตาเกษ อ.อุทุมพรพิสัย จ.ศรีสะเกษ แต่ยังไม่ได้กำหนดว่าจะทำพิธีฌาปนกิจศพเมื่อไหร่ ต้องรอปรึกษาหารือกับญาติเสียก่อน