เมื่อเวลา 08.30 น.วันที่ 27 ต.ค.64 ร.ต.อ.(หญิง)วาสนา ใจห้าว รอง สว.(สอบสวน)สภ.เมืองชุมพร รับแจ้งเหตุยิงกันเสียชีวิต จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบ แล้วไปที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วย พ.ต.ท.ปนินทร โชติ รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.เมืองชุมพร พ.ต.ท.วิชิต ขำคชกรรณ รอง ผกก.(สส.) พ.ต.ท.สมภพ เชื้อทอง รอง ผกก.ป. แพทย์เวร รพ.ชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ และหน่วยกู้ภัยมูลนิธิชุมพร

จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุย่านชุมชนเขตเทศบาลเมืองชุมพร เป็นบ้านปูนสองชั้นติดกับถนนในซัง ใกล้กับแยกหนิงหน่องถนนทางตัดข้ามทางรถไฟไปศูนย์ราชการจังหวัดชุมพร ภายในบ้านชั้นล่างใกล้กับห้องนอนพบศพผู้หญิง อายุประมาณ 35-40 ปี นุ่งชุดกระโปรงกระโจมอกแบบอยู่บ้าน นอนคะแคงเสียชีวิตบนกองเลือด เจ้าหน้าที่ต้องกันพื้นที่ห้ามไม่ให้ใครเข้าใกล้นอกจากแพทย์เนื่องจากจะต้องนำผลจากเนื้อเยื่อในโพรงจมูกผู้ตายไปตรวจหาเชื้อโควิด-19 โดยต้องรอผลตรวจนานกว่า 1 ชั่วโมง จึงทราบผลปรากฎว่าผลเป็นลบผู้ตายไม่มีเชื้อโควิดแต่อย่างใด

จากการชันสูตรพลิกศพผู้ตายถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด .38 เข้าที่ชายโครงขวาใต้รักแร้ 1 นัด กระสุนฝังใน ที่เกิดเหตุมีมีดทำครัวตกอยู่ 1 อัน ห่างออกไปราว 3 เมตร ใต้บันใดทางขึ้นชั้นสองของบ้านพบอาวุธปืนขนาด.38 วางอยู่ 1 กระบอก เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน ส่วนมือปืนเป็นเจ้าของบ้านหลังดังกล่าวยืนรอเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ในที่เกิดเหตุทราบชื่อคือ ตาส่ง อายุ 83 ปี

จากการสอบสวนนายบุญส่งให้การว่าตนมีอาชีพรับจ้างแห่รถโฆษณา ปัจจุบันเป็นโสดเพราะภรรยาเสียชีวิตนานแล้ว ส่วนลูกๆผู้หญิง 3 คน มีครอบครัวไปอยู่ต่างจังหวัดทุกคน สำหรับผู้เสียชีวิตนั้นมีเพื่อนคนหนึ่งแนะนำให้ตนรู้จักมานาน 2-3 เดือนแล้ว และตนเพิ่งจะพามาอยู่ที่บ้านด้วยกันประมาณกว่า 1 เดือนแล้ว เนื่องจากผู้ตายเขาเช่าบ้านอยู่คนเดียวเห็นแล้วน่าสงสาร โดยก็ตนไม่ทราบว่าชื่ออะไรเป็นใครอยู่ที่ไหน ตนเรียกชื่อเพียงว่า “น้อง” เท่านั้น

ในขณะอยู่ที่บ้านเดียวกันตนให้ผู้ตายนอนในห้องชั้นล่าง ส่วนตนนอนในห้องชั้นบน โดยที่ไม่เคยมีอะไรกันแบบชู้สาวซึ่งตนสาบานได้ เมื่อมาอยู่ที่บ้านเดียวกันไม่นานผู้ตายเริ่มแสดงพฤติกรรมไม่ดีหลายอย่าง จนตอนเกิดเหตุตนจะออกไปทำงานเห็นผู้ตายอยู่ในห้องจึงพูดไปว่าจะไม่ทำอะไรเลยหรือข้าวปลาก็ไม่จัดหามากิน จนเกิดโต้เถียงกันขึ้น ทำให้ผู้ตายโมโหวิ่งไปหยิบมีดทำครัวออกมาจะทำร้าย ตนจึงเข้าไปแย่งชิงจนมีดหลุดมือ ผู้ตายซึ่งรู้ว่าตนเป็นคนชอบพกปืนไว้ที่เอวตลอดเวลา จึงเข้ามากอดรัดตนแล้วชักปืนออกจากเอวของตน ทำให้เกิดการแย่งชิงกันขึ้น จากนั้นก็มีเสียงดังขึ้น 1 นัด แล้วผู้ตายก็ล้มลงในที่เกิดเหตุ เมื่อตนเห็นดังนั้นก็รีบโทรศัพท์ไปแจ้ง 191 ให้มาที่เกิดเหตุดังกล่าว

ในเบื้องต้นตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อคำให้การของนายบุญส่งมากนักว่า เกิดจากการมีปากเสียงทะเลาะกันแล้วแย่งชิงปืนจนเกิดลั่นเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต หรืออาจจะมีสาเหตุมาจากความหึงหวงเพราะผู้ตายเป็นหญิงสาวชอบแต่งตัวมีหน้าตาสวย จึงต้องติดตามหาญาติและชื่อจริงของผู้ตายว่าเป็นใครอยู่ที่ไหน เพื่อสอบสวนอย่างละเอียดจึงจะทราบสาเหตุที่แท้จริง เบื้องต้นได้แจ้งข้อกล่าวหาฆ่าผู้อื่นตายไว้ก่อน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป