ศรีสุวรรณ จี้ กกต.สอบ บิ๊กตู่ พฤติกรรมส่อเข้าข่ายครอบงำ พปชร.
27 ต.ค. 2564, 17:02
วันที่ 27 ตุลาคม 2564 เวลา 13.00 น. ที่สำนักงาน กกต.ศูนย์ราชการฯ นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ได้เดินทางมายื่นคำร้องให้ กกต.ตรวจสอบและวินิจฉัย กรณีที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ได้เรียกรัฐมนตรีสังกัดพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ซึ่งล้วนเป็นกรรมกรบริหารพรรคพลังประชารัฐด้วย รวม 6 คน เข้าพบหารือ เมื่อวันที่ 25 ต.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันอย่างมากว่าการกระทำดังกล่าว เป็นการฝ่าฝืนกฎหมายหรือครอบงำหรือชี้นำพรรคการเมืองหรือไม่นั้น
กรณีดังกล่าวโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้ออกมาชี้แจงว่า เป็นเพียงการหารือเรื่องการทำงาน การบริหารราชการแผ่นดินรวมถึงการแก้ปัญหาต่างๆ เท่านั้น แต่ได้ยืนยันว่า นายกรัฐมนตรีเป็นบุคคลภายนอกพรรค ไม่ได้เป็นสมาชิกพรรคการเมือง ทว่าเหตุการณ์หลังจากวันดังกล่าวเป็นต้นมาเกิดการเคลื่อนไหวในพรรคพลังประชารัฐจนกระทั่งมีการลาออกของกรรมการบริหารของพรรคถึง 9 คน และจะมีการประชุมพรรคกัน เพื่อปรับโครงสร้างพรรคกันในเร็ว ๆ นี้ อันเป็นการตอกย้ำว่า มีผลมาจากการเรียกหารือของนายกรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 25 ต.ค.หรือไม่
โดยการกระทำของ พล.อ.ประยุทธ์ อาจเข้าข่ายเป็นการฝ่าฝืน ม.28 ของ พรป.ว่าด้วยพรรคการเมือง 2560 ได้เพราะกฎหมายดังกล่าวกำหนดว่า “ห้ามมิให้ผู้ใดซึ่งมิใช่สมาชิกพรรคการเมืองกระทําการใดอันเป็นการควบคุม ครอบงํา หรือชี้นํา กิจกรรมของพรรคการเมืองในลักษณะที่ทําให้พรรคการเมืองหรือสมาชิกขาดความอิสระ ทั้งนี้ ไม่ว่า โดยทางตรงหรือโดยทางอ้อม” และพรรคพลังประชารัฐอาจเข้าข่ายฝ่าฝืน ม.29 ที่ว่า “ห้ามมิให้พรรคการเมืองยินยอมหรือกระทําการใดอันทําให้บุคคลอื่นซึ่งมิใช่ สมาชิกกระทําการอันเป็นการควบคุม ครอบงํา หรือชี้นํา กิจกรรมของพรรคการเมืองในลักษณะที่ทําให้ พรรคการเมืองหรือสมาชิกขาดความอิสระ ไม่ว่าโดยทางตรงหรือโดยทางอ้อม”
ทั้งนี้การกระทำของ พล.อ.ประยุทธ์ และพรรคพลังประชารัฐ จะถือว่าเป็นการฝ่าฝืน ม.28 และ ม.29 ของ พรป.พรรคการเมือง 2560 หรือไม่นั้น จำต้องร้องให้ กกต.วินิจฉัยเพื่อใช้เป็นบรรทัดฐานของพรรคการเมืองต่อไป ซึ่งหาก กกต.วินิจฉัยว่าฝ่าฝืนจริง พรรคการเมืองนั้น ๆ ก็อาจมีความผิดตาม ม.92(3) ของกฎหมายดังกล่าวและ กกต.มีหน้าที่ที่จะยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบพรรคนั้นได้