"ทนายวรยุทธ" เตรียมรีแมตช์ คดีหวย 30 ล้านเพิ่ม 1 สำนวน อ้างมีหลักฐานใหม่ กล้องวงจรปิด
1 ก.ย. 2562, 18:00
จากกรณีเมื่อวันที่ 16 ม.ค.61 การที่นายธนาพิพัฒน์ ชัยธนาธนธัต หรือที่รู้จักกันในนาม “ประธานบอย” ชาว ต.มหาชัย อ.เมือง จ.สมุทรสาคร เข้าพบพนักงานสอบสวน สภ.เมืองกาญจนบุรี แจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษให้ดำเนินคดีต่อ สื่อโทรทัศน์ช่อง 8 นายองค์อาจ สิงห์ลำพอง กรรมการผู้จัดการใหญ่ช่อง 8 นายเกรียงไกร สิริกาญจนาวัฒน์ ผอ.ฝ่ายข่าว ช่อง 8 น.ส.บุญญิตา งามศัพพศิลป์ น.ส.วิยดา พีรรัฐกุล ผู้ดำเนินรายการคุยข่าวเช้าช่อง 8 รวมทั้งนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ และ 7.นายวารษา กล่อมใสยาศน์ ในความผิดฐานดูหมิ่นศาลฎีกา ตามประมวลกฎหมายพิจารณาความอาญามาตรา 2(8) และมอบคดีให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดี ในความผิดฐานหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา
ต่อมานายวารษา กล่อมใสยาศน์ หรือแกละ ได้แจ้งความกลับประธานบอย ในข้อหาแจ้งความเท็จ โดย 1 ในพยานที่ประธานบอย ระบุชื่อเอาไว้คือนายวรยุทธ บุญวงศ์ใส ทนายความส่วนตัวของนายปรีชา ใคร่ครวญ หรือครูปรีชา คู่พิพาทของ ร.ต.ท.จรูญ วิมูล หรือหมวดจรูญ คดีหวย 30 ล้านอลเวง
ล่าสุดเมื่อเวลา 10.30 น.วันนี้ 1 ก.ย.62 ผู้สื่อข่าวราย ONB news งานว่า นายวรยุทธ บุญวงศ์ใส เข้าพบ ร.ต.อ.นเรศ สุดสาคร รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองกาญจนบุรี เพื่อมาเป็นพยานตามหนังสือเชิญในคดีดังกล่าว โดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงจึงแล้วเสร็จ
ทั้งนี้นายวรยุทธ บุญวงศ์ใส เปิดเผยภายหลังว่า ประเด็นที่เดินทางมาที่ สภ.เมืองกาญจนบุรีในวันนี้ เนื่องจากพนักงานสอบสวน สภ.เมืองกาญจนบุรี มีหนังสือเชิญให้มาเป็นพยานในกรณีที่ทางประธานบอย ได้มีการไปแจ้งความคู่กรณีในข้อหาหมิ่นประมาท ต่อมาทางคู่กรณีก็ได้มาแจ้งความกลับทางประธานบอย ว่าเป็นการแจ้งความเท็จ ซึ่งในวันนี้ทางพนักงานสอบสวนจึงได้เรียกให้ตนมาเป็นพยาน
ผู้สื่อข่าวถามถามว่า คู่กรณีของประธานบอย เป็นใครแล้วทำไมถึงต้องเรียกทนายวรยุทธ มาเป็นพยาน” ทนายวรยุทธ ตอบว่าสำหรับคู่กรณีของประธานบอยนั้นมีอยู่หลายคน แต่ผมจำชื่อไม่ได้ซึ่งเมื่อสักครู่นี้ก็ไม่ได้คัดถ่ายเอกสารจากพนักงานสอบสวนมาด้วย จำได้เพียงแค่ประธานบอยเท่านั้น ซึ่งการมาเป็นพยานทางประธานบอย ก็ได้อ้างนักกฎหมายหลายคน เช่นอาจารย์เดชา อาจารย์สุกิจ เป็นต้น เพื่อให้เดินทางมาให้ความเห็นทางด้านกฎหมาย เพื่อประกอบความเห็นต่างๆที่เขาแจ้งความกัน
ผู้สื่อข่าวถามว่า ทราบว่าคดีหวย 30 ล้าน ฝ่ายครูปรีชาและทนายจะมีการรีแมทช์คดีกันใหม่อีกครั้งหนึ่งหมายความว่าอย่างไร” นายวรยุทธ ตอบว่า ในส่วนของการรีแมทช์ที่พูดถึงนี้ก็คือว่า จะมีการดำเนินคดีหรือจะมีการนำเสนอพยานหลักฐาน ซึ่งเวลานี้ได้มีการติดตามพยานหลักฐานที่จะรับฟังได้ว่า ในวันที่ 31 ตุลาคม 60 นั้น ครูปรีชาอยู่ในตลาดเรดซิตี้ และไปรับหวยที่ตลาด ซึ่งตอนนี้ก็จะเป็นเรื่องของพยานหลักฐานที่จะนำเสนอใหม่อีกครั้งหนึ่ง
ส่วนการอุทธรณ์ในคดีหลักในชั้นอุทธรณก็ว่ากันไป ซึ่งในตอนนี้การอุทธรณ์ในคดีหลักตนได้ไปยื่นร้องขออนุญาตต่อศาลจังหวัดกาญจนบุรีเป็นครั้งสุดท้ายเมื่อวันที่ 30 ส.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งศาลท่านก็ได้อนุญาตให้ขยายอุทธรณ์ออกไปเป็นวันที่ 1 ตุลาคม 62
ส่วนการที่จะนำพยานหลักฐานอะไรต่างๆ ซึ่งเป็นพยานหลักฐานใหม่ คือเป็นพยานหลักฐานที่สำคัญ เราก็จะไปว่ากันใหม่ สำหรับพยานหลักฐานสำคัญก็คือเป็นคลิปวีดีโอทางกล้องวงจรปิด ซึ่งในเวลานี้เราได้มีการสืบทราบแล้วว่าคลิปวีดีโอนั้นมีอยู่จริง ซึ่งเราก็จะนำคลิปวีดีโอไปนำเสนอต่อศาลให้เป็นอีกสำนวนหนึ่ง สำหรับคลิปวีดีโอก็คือเป็นคลิปวีดีโอที่สามารถบ่งชี้ว่าในวันที่ 31 ตุลาคม ปี 60 ทางครูปรีชาได้มาที่ตลาดเรดซิตี้ และมารับหวยจริง
ส่วนประเด็นที่เดินทางไปที่กองปราบเมื่อหลายวันก่อนนั้น มีเรื่องอยู่ 2 ประเด็นด้วยกัน คือประเด็นที่ทางครูปรีชา ได้มีการทำหนังสือไปที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้ดำเนินการสืบสวนสอบสวนในส่วนของกรณีที่มีการนำสำนวน นำเอกสารในสำนวนการสอบสวนของกองปราบ ที่ทำสำนวนในคดีหลักว่า มีการนำสำนวนออกมาให้กับบุคคลภายนอกหรือไม่อย่างไร ซึ่งทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติโดย ผบ.ตร.ได้มีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการให้มาสอบสวนในเรื่องนี้แล้ว ดังนั้นทางครูปรีชาก็เลยเข้าไปพบในฐานะผู้กล่าวหา ที่มีหนังสือไป และเพื่อเข้าไปเป็นพยานนี่คือประเด็นที่หนึ่ง
ส่วนอีกประเด็นก็คือการที่ทางเจ๊พัช กับเจ๊เกียว เข้าไปเป็นพยานในฐานะที่พนักงานสอบสวนกองปราบ มีหนังสือเรียกในฐานะพยานเข้าไปให้ปากคำเพิ่มเติม ในส่วนประเด็นของการที่มีร้องขอความเป็นธรรมจากพนักงานอัยการ ให้ทำการสอบสวนข้อเท็จจริงเพิ่มขึ้น ให้ชัดเจนยิ่งขึ้น เพื่อให้ชี้ชัดว่าในฐานะผู้กล่าวหาในฐานะผู้เสียหาย ว่าหมวดจรูญ ได้มีการซื้อหวยมาจากแม่ค้าคนไหน ซื้อที่ไหน อย่างไร และซื้อมาในราคาเท่าไหร่ จะได้ชัดเจนในประเด็นนี้ เพื่อจะให้เกิดประเด็นในความของผู้เสียหาย
ผู้สื่อข่าวถามว่า สมมุติว่าหากหมวดจรูญ เบิกเงินออกจากบัญชีไปหมดแล้ว แต่หากคดีพลิกกลับมาเป็นของครูปรีชา จะต้องดำเนินการอย่างไร”นายวรยุทธ ตอบว่า ประเด็นนี้ท้ายที่สุดแล้วกรณีคดีพลิกกลับมา ก็ต้องมาไล่ไปตามคำพิพากษาของศาล ซึ่งก็ต้องเข้าสู่กระบวนการการบังคับคดีว่าให้บังคับไปตามคำพิพากษา หากกรณีนี้เกิดขึ้น
ถามว่าจนถึงขณะนี้ยังมีความหวังอยู่หรือไม่ว่าคดีอาจจะพลิกกลับมา” นายวรยุทธ ตอบว่าเราคาดหวังว่าในชั้นอุทธรณ์ จะสามารถพลิกกลับมาได้เนื่องจากว่าเราจะเสนอรายละเอียดที่โต้แย้งกับคำพิพากษาด้วยความเคารพคำพิพากษาศาลชั้นต้น จะขอให้ศาลอุทธรณ์ได้พิจารณาโดยละเอียดถี่ถ้วนอีกครั้งหนึ่งว่า ประเด็นที่ศาลชั้นต้นพิพากษามานั้น ยังมีความคลาดเคลื่อนกับข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย ดังนั้นเราจะนำเสนอให้ศาลอุทธรณ์ได้พิจารณาอีกครั้งหนึ่ง
ผู้สื่อข่าวถามว่า การยื่นขยายอุทธรณ์คดีหลักมีเหตุอะไรจึงทำให้ล่าช้า” นายวรยุทธ ตอบว่า เหตุที่มันล่าช้าเกิดจากตัวผมเองด้วยในส่วนของการทำคำพิพากษาการเขียนคำอุทธรณ์ เพราะเนื่องจากว่าตนมีคดีอยู่หลายคดีที่จะต้องไปดำเนินการ และในส่วนของการทำอุทธรณ์ต่างๆมันก็มีอีกหลายคดีที่ต้องทำ ซึ่งไม่ได้มีเพียงแค่คดีเดียว ซึ่งต้องมาแบ่งเวลาการอุทธรณ์ด้วย
ประกอบกับเอกสารในสำนวนก็เยอะและคำเบิกความของพยานแต่ละฝ่ายเราจะต้องดูอย่างละเอียดว่าพยานหลักฐานที่นำเสนอไป ต้องทำอย่างละเอียดอีกครั้งหนึ่ง เพื่อจะให้ทางศาลอุทธรณ์ท่านได้พิจารณาในส่วนของประเด็นให้รอบคอบ ซึ่งเราก็อยากเสนอให้มันถูกต้องอย่างสมบูรณ์ที่สุด จึงทำให้ล่าช้าศาลท่านเห็นว่ากรณีที่ผมไปยื่นคำร้องขอขยายอุทธรณ์ออกไปท่านก็ได้อนุญาตไปแล้ว