เมื่อเวลา 13.00 น.วันนี้ 28 ต.ค.64 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า ที่ห้องประชุมศูนย์ปฏิบัติการ (ศปก.) กองบังคับการตำรวจภูธร (ภ.จว.)กาญจนบุรี  พล.ต.ต.วัฒนา ยี่จีน รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 พร้อมด้วย พล.ต.ต.ไพโรจน์ คุ้มภัย ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี พ.ต.อ.กฤตชัย ทองอยู่ รอง ผบก.ภ.จวงกาญจนบุรี พ.ต.อ.พงษกร อุปพงษ์ รอง ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี พ.ต.อ.ภาคิณ แสนพุฒิ ผกก.สส.ภ.จว.กาญจนบุรี พ.ต.อ.สุชาย เทศัชบุตร ผกก.สภ.ท่าม่วง แถลงข่าวจับกุมกลุ่มผู้กระทำผิดเกี่ยวกับการลักลอบหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายตามนโยบายของรัฐบาล โดยไม่ได้นำตัวผู้กระทำผิดมาร่วมแถลงข่าว ซึ่งเป็นไปตามหลักสิทธิมนุษยชน

ทั้งนี้ พล.ต.ต.วัฒนา ยี่จีน รอง ผบช.ภาค 7 แถลงว่าเนื่องจาก เวลา 08.00 น.ของวันที่ 27 ต.ค.64 ที่ผ่านมา สภ.ท่าม่วง ได้รับแจ้งจากพลเมืองเมืองดีว่า เกิดอุบัติเหตุรถยนต์ชนกันมีผู้ได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดบริเวณแยกสะพานหนองตาบ่ง ถนนเลียบริมคลองส่งน้ำชลประทาน สายท่าม่วง-วังศาลา หมู่ 4 ต.วังขนาย อ.ท่าม่วง หลังรับแจ้งจึงเจ้าหน้าที่จึงเดินทางไปตรวจสอบ

ไปถึงพบรถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้า สีดำ เสียหลักจอดอยู่ไหล่ทาง แต่ระหว่างนั้นปรากฏว่า มีกลุ่มบุคคลทั้งชายหญิงได้วิ่งหลบหนีไปกันคนละทิศละทาง เจ้าหน้าที่จึงไล่ติดตามและสามารถจับกุมตัวเอาไว้ได้ทั้งหมด 8 คน เป็นชาย 4 คน หญิง 4 คน ตรวจสอบพบทั้งหมดเป็นแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมาหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย เจ้าหน้าที่จึงนำตัวกลุ่มผู้ต้องหาพร้อมของกลางรถยนต์กระบะมาสอบปากคำเพิ่มเติมที่ สภ.ท่าม่วง พร้อมกับรายงานสถานการณ์ที่เกิดขึ้นให้ พล.ต.ท. ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรง ผบช.ภาค 7 พล.ต.ต.ไพโรจน์ คุ้มภัย ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี พ.ต.อ.สุชาย เทศัชบุตร ผกก.สภ.ท่าม่วง ทราบ

สำหรับผู้ต้องหาชาวเมียนมาทั้ง 8 ราย ที่ถูกจับกุม ประกอบด้วย 1.นายวัน ไม่มีนามสกุล  คนขับและผู้นำพา  2. นายชาย ไม่มีนามสกุล  3. นายซอ ฮิด แลท  ไม่มีนามสกุล 4. นายชามิ   ไม่มีนามสกุล  5.นางยีมอน  ไม่มีนามสกุล  6. นางโม ไม่มีนามสกุล 7. นางแงทอย ไม่มีนามสกุล และ 8. นางชานอิน ไม่มีนามสกุล 

จากการสอบสวน นายวัน ไม่มีนามสกุล ชาวเมียนมา อายุ 36 ปี คนขับและผู้นำพา ให้การว่า ตนได้รับการว่าจ้างจากนางสุวรรณี อายุประมาณ 45 ปี ให้ขับรถยนต์ไปรับแรงงานจำนวนดังกล่าวที่บริเวณแยกแก่งเสี้ยน ต.แก่งเสี้ยน อ.เมืองกาญจนบุรี ให้ไปส่งที่ อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี และไปส่งที่ จ.สมุทรสงคราม เมื่อนำแรงงานไปส่งถึงที่หมาย จะได้รับค่าจ้างเป็นเงินจำนวน 5,600 บาท ระหว่างเดินทางรถยนต์เกิดเสียหลักเฉี่ยนชนกับรถของชาวบ้าน จึงหักหลบตกลงไปไหล่ทาง และสุดท้ายมาถูกเจ้าหน้าที่จับกุมตัวได้

ต่อมาเวลา 17.00 น. ของวันเดียวกัน มีบุคคลเป็นชายอ้างชื่อนายประสิทธิ์ โทรศัพท์เข้ามาหา พ.ต.ท.สุทธิเกียรติ โพธิสุทธิ์ รอง ผกก.สส.สภ.ท่าม่วง หัวหน้าชุดจับกุม โดยแจ้งชื่อให้ทราบว่าตนคือนายประสิทธิ์  จะนำสินบนเป็นเงินสดจำนวน 100,000 บาท มาให้เพื่อแลกกับการปล่อยตัวนายวัน อายุ 36 ปี ผู้ต้องหาที่เป็นคนขับรถ เมื่อทราบจุดประสงค์ พ.ต.ท.สุทธิเกียรติ โพธิสุทธิ์ รอง ผกก.สส.สภ.ท่าม่วง จึงตอบตกลง และมีการนัดหมายจ่ายเงินสินบนเพื่อแลกกับการปล่อยตัวนายวัน ที่ร้านกาแฟชื่อดังที่ตั้งอยู่ภายในปั้มน้ำมัน ท้องที่หมู่ 1 ต.ท่าม่วง อ.ท่าม่วง

หลังจากที่ พล.ต.ต.ไพโรจน์ คุ้มภัย ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี และ พ.ต.อ.สุชาย เทศัชบุตร ผกก.สภ.ท่าม่วง ได้รับรายงานสถานการณ์ดังกล่าวจาก พ.ต.ท.สุทธิเกียรติ โพธิสุทธิ์ รอง ผกก.สส.สภ.ท่าม่วง  จึงสั่งการให้ประชุมวางแผนเข้าจับกุม ด้วยการให้ พ.ต.ท.สุทธิเกียรติ โพธิสุทธิ์ รอง ผกก.สส.สภ.ท่าม่วง ไปรอที่จุดนัดหมายคือร้านกาแฟที่อยู่ภายในปั้มน้ำมัน โดยให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนนอกเครื่องแบบกระจายกำลังซุ่มโป่งอยู่โดยรอบบริเวณเพื่อรอสัญญาณ

จนกระทั่งเวลา 19.40 น. มีรถยนต์กระบะยี่ห้อฟอร์ด เรนเจอร์ 4 ประตู สีส้ม ขับเข้ามาจอดที่หน้าร้านกาแฟ โดยมาด้วยกัน 2 คน เป็นชาย 1 คน หญิง 1 คน จากนั้นชายคนขับได้ลงมาจากรถยนต์พร้อมถือซองกระดาษสีน้ำตาล เดินมายื่นให้กับ พ.ต.ท.สุทธิเกียรติ ภายในมีเงินสด จำนวน 1 แสนบาท

หลังจากได้รับเงินจำนวนดังกล่าวแล้ว พ.ต.ท.สุทธิเกียรติ จึงส่งสัญญาณด้วยการถอดหมวกออกจากศรีษะ เมื่อเจ้าหน้าที่ที่ปิดล้อมอยู่ได้รับสัญญาณ จึงแสดงตัวเข้าจับกุมตัวผู้ต้องหาคือนายประสิทธิ์ อายุ 60 ปี ชาว จ.กระบี่ พร้อมกับจับกุมตัวหญิงสาวที่นั่งรออยู่ภายในรถเอาไว้ได้ทราบชื่อคือนางมิเอจีน  ไม่มีนามสกุล  ชาวเมียนมา อายุ 41 ปี จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 มาสอบปากคำเพิ่มเติมที่ สภ.ท่าม่วง

เบื้องต้นนางมิเอจีน ให้การยอมรับสารภาพว่า ตนได้นำเงินจำนวน 100,000 บาท ให้กับนายประสิทธิ์ เพื่อนำมาจ่ายเป็นค่าสินบนกับเจ้าหน้าที่เพื่อแลกกับการปล่อยตัวนายวัน จริง ขณะที่นายประสิทธิ์ ให้การปฏิเสธ  แต่เมื่อความผิดสำเร็จแล้ว จึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.ท่าม่วง ดำเนินคดีในข้อหา “ร่วมกัน ให้ ขอให้ หรือรับว่าจะให้ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดแก่เจ้าพนักงาน เพื่อจูงใจให้กระทำการไม่กระทำการ หรือประวิงการกระทำอันมิชอบด้วยหน้าที่” พร้อมของกลาง  เงินสด จำนวน 100,000 บาท และรถยนต์กระบะที่ใช้เป็นพาหนะเอาไว้เป็นหลักฐาน

ส่วนนายวัน คนขับรถยนต์กระบะที่ใช้นำพาแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมา ถูกดำเนินคดีในข้อหา “ซ่อนเร้น หรือช่วยด้วยประการใดๆ ให้บุคคลต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย พ้นจากการจับกุมและเป็นผู้เคลื่อนย้ายแรงงานต่างด้าวโดยฝ่าฝืนประกาศจังหวัดกาญจนบุรี”

ขณะที่ ผู้ต้องหาที่ที่เป็นแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมาทั้ง 7 คน ถูกดำเนินคดีในข้อหา “ เป็นบุคคลต่างด้าวหลบหนีเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาตและเป็นแรงงาน ต่างด้าวเดินทางโดยฝ่าฝืนประกาศจังหวัดกาญจนบุรี ”