เปิด ปิด การใช้งานคุกกี้ของ ทรูฮิต (Truehits Cookies)



อันตรายไม่แพ้โควิด ! "กาญจนบุรี" พบอุบัติเหตุถี่ระยะเวลา 4 วัน เสียชีวิต - อาการสาหัสจำนวนมาก


29 ต.ค. 2564, 12:11



อันตรายไม่แพ้โควิด ! "กาญจนบุรี" พบอุบัติเหตุถี่ระยะเวลา 4 วัน เสียชีวิต - อาการสาหัสจำนวนมาก




วันที่ 29 ต.ค. 64 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า ในพื้นที่ สภ.ลาดหญ้า ร.ต.อ.ธีรยุทธ อังวะ รองสารวัตรสอบสวน สภ.ลาดหญ้า จ.กาญจนบุรี ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุมูลนิธิพิทักษ์กาญจน์ ว่าเกิดอุบัติเหตุรถยนต์เก๋งพุ่งชนคนงานลูกจ้าง(ชั่วคราว)ตำแหน่งคนงานบำรุงทางที่กำลังยืนตัดหญ้าริมถนนสายกาญจนบุรี-ศรีสวัสดิ์ จนเสียชีวิต เหตุเกิดเยื้องๆ ปากทางเข้าศูนย์เด็กมูลนิธิธรรมมานุรักษ์ (โอ่งแดง) หมู่ 3 ต.ช่องสะเดา อ.เมืองฯ

หลังได้รับแจ้งจึงรีบเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมประสานแพทย์เวร รพ.พหลพลพยุหเสนาฯ ให้มาร่วมชันสูตรพลิกศพพบว่า ที่ริมถนนสายดังกล่าวมีร่างผู้เสียชีวิตเป็นผู้หญิงนอนหงายจมกองเลือด ในสภาพตามร่างกายมีร่องรอยถูกรถยนต์เก๋งยี่ห้อโตโยต้าคัมรี่สีดำ ซึ่งจอดอยู่ริมถนนห่างจากศพไปประมาณ 15 เมตร ในสภาพฝากระโปรงด้านหน้ารถพังเสียหายยั้บ จากการชันสูตรพลิกศพของแพทย์พบว่า สภาพศพผู้ตายลำคอหัก ตรวจสอบหลักฐานบัตรประชาชนผู้ตายทราบชื่อ น.ส.บุญมี อายุ 35 ปี เป็นลูกจ้าง (ชั่วคราว) ในตำแหน่งคนงานบำรุงทางของแขวงการทางกาญจนบุรี 



จากการสอบสวนปากคำบรรดาลูกจ้างเพื่อนร่วมงานของผู้ตายทราบว่า ก่อนเกิดเหตุขณะที่ น.ส.บุญมี ผู้ตาย กำลังปฎิบัติหน้าที่ยืนตัดหญ้าอยู่ริมถนน อยู่ๆ สิ่งที่ไม่มีใครคาดคิดว่าจะเกิดขึ้น รถยนต์เก๋งคันดังกล่าวได้วิ่งมาจากตัวเมืองกาญจนบุรี ด้วยความเร็วสูง เพื่อมุ่งหน้าไปทางน้ำตกเอราวัณ พอมาถึงที่เกิดเหตุก็พุ่งชน น.ส.บุญมี ผู้ตายอย่างจัง ความเร็วบวกความแรงทำให้ร่างของผู้ตายกระเด็นลอยละลิ่วไปไกลเกือบ 5 เมตร ในที่สุด น.ส.บุญมี คนงานสาวผู้เคราะห์ร้ายที่ต้องตกเป็นเหยื่อความประมาทขับรถเร็วกลางวันแสกๆ รายนี้ก็ทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตหลังเกิดเหตุคนขับรถซึ่งเป็นคนแก่ ได้จอดรถลงมาดู ซึ่งบรรดาเพื่อนๆ ร่วมงานของผู้ตายได้ยืนดูอยู่ต่างยืนยันกับทางเจ้าหน้าที่ว่ามีการสับเปลี่ยนคนขับรถ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ทำการสอบสวนข้อเท็จจริงเพื่อนำตัวผู้กระทำผิดดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

รายที่สองเกิดเหตุพื้นที่ สภ.เมืองกาญจน์ ร.ต.อ.นเรศ สุดสาคร รองสารวัตรสอบสวน สภ.เมืองกาญจนบุรี ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ 191 ว่าเกิดอุบัติเหตุรถยนต์เก๋งพุ่งชนเสาไฟฟ้า มีผู้ได้รับบาดเจ็บ และเสียชีวิตติดอยู่ภายในรถ เหตุเกิดบนถนนสายกาญจนบุรี-หนองขาว ฝั่งขาเข้าตัวเมืองกาญจนบุรี เยื้องๆ ฝั่งตรงข้ามปากทางเข้าวิทยาลัยเทคนิคกาญจนบุรี เขตเทศบาลเมืองกาญจนบุรี

หลังรับแจ้งจึงรีบเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมประสานแพทย์เวร รพ.พหลพลพยุหเสนาฯ ให้มาร่วมชันสูตรพลิกศพ ที่เกิดเหตุพบว่า เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ชีพของมูลนิธิพิทักษ์กาญจน์ ส่วนหนึ่งกำลังใช้อุปกรณ์เครื่องตัดถ่างนำร่างของผู้เสียชีวิตเป็นหญิงสาวที่ร่างถูกอัดก๊อปปี้ติดอยู่ภายในรถยนต์เก๋งยี่ห้อนิสสันอาเมร่าสีบรอนท์เทา ในสภาพด้านหน้ารถพุ่งชนเสาไฟฟ้าริมถนนจนพังเสียหาย เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ชีพได้ทำการช่วยเหลือนำร่างผู้ได้รับบาดเจ็บ จำนวน 2 รายออกมาจากซากรถคันดังกล่าวเพื่อนำส่ง รพ.ฯ ไปก่อนหน้านี้


ตรวจสอบหลักฐานบัตรประชาชนของผู้ตายทราบชื่อ นส.วรลักษณ์ อายุ 18 ปี สภาพศพลำคอ แขนขาหักเนื่องจากถูกกระแทกอย่างรุนแรง ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 2 รายซึ่งเป็นคนขับรถ และผู้โดยสารที่นั่งมากับรถ คนขับรถชื่อนายวิษณุ อายุ 21 ปี 

ในเบื้องต้นจากการสอบสวนทราบว่า ชาวบ้านผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่า นายวิษณุ ขับรถมาด้วยความเร็วสูง เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุอยู่ๆ ก็มีรถซาเล้งพ่วงข้างวิ่งตัดหน้าในระยะกระชัดชิด คาดว่านายวิษณุ คงตกใจหักพวงมาลัยรถหลบ จึงทำให้รถเกิดเสียหลักพุ่งเข้าชนโต๊ะม้าหินอ่อนที่ตั้งอยู่หน้าบ้านของชาวบ้าน ก่อนจะเสียหลักพุ่งชนเสาไฟฟ้าอย่างจัง ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ติดตามสอบสวนหาสาเหตุที่แท้จริง เพื่อดำเนินการคดีตามกฎหมายต่อไป

รายที่สามเหตุพื้นที่ สภ.เมือง ร้อยตำรวจโทอนุรักษ์ เสงี่ยมวงษ์ รองสารวัตรสอบสวน สภ.เมืองกาญจนบุรี  ได้รับแจ้งเหตุรถเก๋งชนรถบรรทุก บริเวณสามแยกไฟแดงท่าพะเนียด หมู่ที่ 3 ต.แก่งเสี้ยน อ.เมือง จ.กาญจนบุรี พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่มูลนิธิพิทักษ์กาญจน์ กู้ชีพโรงพยาบาลพหลพลพยุหเสนา รุดไปยังที่เกิดเหตุในที่เกิดเหตุ พบรถเก๋งยี่ห้อฮอนด้า ซีวิค สีขาว สภาพพังยับกระเด็นไปไกลกว่า 10 เมตร ด้านหน้ายังชนกับสัญญาณไฟจราจร หักกระเด็นเต็มพื้นถนน

เจ้าหน้าที่มูลนิธิตรวจสอบพบ มีผู้เสียชีวิตติดคาซากรถจึงประสานกำลังนำเครื่องตัดถ่างเข้าร่วมที่เกิดเหตุ และยังพบมีผู้บาดเจ็บอาการสาหัสอีกหนึ่งราย เป็นเพื่อนผู้ตายนั่งอยู่เบาะข้างคนขับ เจ้าหน้าที่จึงรีบนำตัวส่งโรงพยาบาลพหลฯ ในที่เกิดเหตุยังพบรถบรรทุกสิบล้อ ยี่ห้ออีซูซุ  ด้านหน้ายุบเสียหาย จอดอยู่กลางสี่แยกไฟแดง ทราบชื่อผู้เสียชีวิตในเวลาต่อมา นางสาวธัญธร อายุ 24 ปี เสียชีวิตบริเวณที่นั่งคนขับ

จากการสอบสวน นายทักษ์ดนัย ตัวมูล อายุ 51 ปี คนขับรถบรรทุกสิบล้อ กล่าวอ้าวว่า ตนเองขับรถมาส่งเมล็ดพืชทางการเกษตร หลังจากลงเสร็จก็มุ่งหน้ากลับบ้านที่อำเภอบ่อพลอย ก่อนมาจอดติดไฟแดงแยกดังกล่าว โดยมีรถยนต์กระบะจอดอยู่ด้านหน้า เมื่อไฟเขียว ตัวเองก็ได้ขับเคลื่อนตัวรถบรรทุกออกตาม ทันใดนั้นรถเก๋งคันดังกล่าวขับมาด้วยความเร็วสูงเมื่อถึงที่เกิดเหตุได้ฝ่าสัญญาณไฟมาชนกับรถตนเองซึ่งได้ขับรถออกไปกลางสี่แยกแล้วทำให้เกิดอุบัติเหตุชนกัน จากนั้นรถเก๋งได้เสียหลักไปฟาดกับเสาสัญญาณไฟจราจรทำให้รถเก๋งกระเด็นไปอีก  ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมคนขับรถบรรทุกสิบล้อ พร้อมดำเนินการตรวจสอบกล้องวงจรปิดหาสาเหตุที่แท้จริงเพื่อให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่ายต่อไป

รายล่าสุดรายที่สี่ ร.ต.ท.ศุภกร พานิชย์เจริญ รองสารวัตรสอบสวน สภ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ 191 ว่าเกิดอุบัติเหตุรถชนรถกระบะเข็นผักมีผู้เสียชีวิต 1 ราย เหตุเกิดบนถนนแสงชูโตฝั่งขาออก อ.ท่าม่วง ปากซอยท่าล้อซอย 3 ฝั่งตรงข้ามหน้าวัดสันติคีรีศรีบรมธาตุ (วัดเจาดิน) หลังรับแจ้งจึงรีบเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมประสานแพทย์เวร รพ.สมเด็จพระสังฆราช องค์ที่ 19 ให้มาร่วมชันสูตรพลิกศพ

จุดเกิดเหตุพบเจ้าหน้าที่พยาบาลประจำสำนักงานมูลนิธิมิราเคิล ออฟไลฟ์ (กู้ชีพขุนรัตนาวุธ) ได้ปิดกั้นการจราจร 1 ช่องทางเนื่องจากมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นบนถนน ในที่เกิดเหตุเบื้องต้นพบร่างผู้เสียชีวิตเป็นผู้ชายนอนคว่ำหน้าจมกองเลือดอยู่ในสภาพกะโหลกศีรษะแตก ริมฝีปากฉีกขาด ลำคอหัก อยู่บริเวณข้างรถ จยย.ยี่ห้อฮอนด้าเทน่ารุ่นเก่า สีดำคาดน้ำเงิน หมายเลขทะเบียน ก-0008 สมุทรสาคร ซึ่งล้มคว่ำอยู่ในสภาพล้อหน้าพังเสียหาย ห่างไปประมาณ 20 เมตร เข้าไปภายในซอยพบรถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุดีแมคสีน้ำเงิน หมายเลขทะเบียน ผค-5726 นครปฐม จอดอยู่ในสภาพประตูและกระจกส่องข้างด้านซ้ายมีร่องรอยเฉี่ยวชน

จากการตรวจสอบหลักฐานบัตรประจำตัวประชาชนของผู้ตายชื่อนายสุรชัย รักษาราช อายุ 37 ปี อยู่บ้านเลขที่ 80 หมู่ 5 ต.หนองกุง อ.แกดำ จ.มหาสารคาม จึงมอบศพให้มูลนิธิฯ นำร่างผู้เสียชีวิตรายนี้ไปเก็บรักษาไว้ที่ รพ.ฯ เพื่อรอญาติมาติดต่อขอรับศพไปจัดการตามประเพณีทางศาสนา

เจ้าหน้าที่สอบถามผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุรถยนต์กระบะคันดังกล่าว ได้ขับรถออกมาจากปากทางเข้าวัดสันติคีรีศรีบรมธาตุเพื่อข้ามถนนมาอีกฝั่งเพื่อวิ่งเข้าไปในซอยฝั่งตรงข้าม ซึ่งเป็นเวลาเดียวกับกับที่นายสุรชัย ผู้ตายขับขี่รถ จยย.วิ่งมาทางตรงจาก อ.ท่าม่วง มุ่งหน้าไปทางเมืองกาญจน์ รถของผู้ตายจึงพุ่งชนรถยนต์กระบะที่วิ่งตัดหน้าอย่างจังจนเป็นเหตุให้นายสุรชัย เสียชีวิตดังกล่าว ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ตรวจสอบดูภาพจากกล้องวงจรปิด เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป เหตุทั้งหมดเกิดจากความประมาททั้งสิ้น ต้องฝากกับผู้ใช้รถใช้ถนนอย่าได้ประมาท เมื่อเกิดเหตุแล้วความสูญเสียจะตามมาอย่างมากมาย






Recommend News






MOST POPULAR


























©2018 ONBNEWS. All rights reserved.