สืบเนื่องจากวันนี้ (1 พ.ย.64) มีการเปิดให้นักท่องเที่ยว จาก 63 ประเทศ ซึ่งเป็นกลุ่มเสี่ยงต่ำเดินทางเข้าไทย โดยไม่ต้องกักตัว ล่าสุดพบว่ามีนักท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก เดินทางมายังประเทศไทย ทางด้าน นายศักดิ์สยาม ชิดชอบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เผยความเรียบร้อยการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.)​ ว่า

จากการตรวจเช็คปริมาณการจราจรทางอากาศที่ ทสภ. เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน​ มีสายการบินแจ้งทำการบินประมาณ 260 เที่ยวบิน ในจำนวนนี้เป็นเที่ยวบินระหว่างประเทศ 91 เที่ยวบิน ขณะที่มีผู้โดยสารเดินทางมา ทสภ. มีจำนวน 20,083 คน เป็นผู้โดยสารระหว่างประเทศ 6,613 คน ซึ่งในจำนวนนี้พบว่าไม่ติดเชื้อโควิด-19 แม้แต่รายเดียว ส่วนปริมาณการจราจรทางอากาศตลอดเดือน พฤศจิกายน​นี้ ของ ทสภ. คาดว่าจะมีเที่ยวบินประมาณ 12,133 เที่ยวบิน ในจำนวนนี้เป็นเที่ยวบินระหว่างประเทศ 6,501 เที่ยวบิน ส่วนจำนวนผู้โดยสารคาดว่าจะมี 7.25 แสนคน ในจำนวนนี้เป็นผู้โดยสารระหว่างประเทศ 2.7 แสนคน

 

สำหรับการเปิดต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติเป็นวันแรก พอใจกับมาตรการและขั้นตอนการคัดกรองในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิที่มีความเข้มข้น ซึ่งก็ได้มีการกำชับให้เจ้าหน้าที่ ปฎิบัติงานอย่างเต็มความสามารถ เพื่อลดความกังวลในเรื่องของการแพร่กระจายเชื้อฯ ตามที่ประชาชนเกิดความกังวล ซึ่งจากการประเมินแล้ว มาตรการที่ดำเนินการอยู่ ถือว่าเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ส่วนการเปลี่ยนระบบการคัดกรองผู้โดยสารเข้าประเทศจากระบบการขอรับใบรับรองในการเดินทางเข้าประเทศไทย (ซีโออี)​ มาเป็นระบบไทยแลนด์พาส มีความแตกต่างกันเพียง 45 วินาทีเท่านั้น

 

ยอมรับว่าในช่วงแรกที่มีการเปลี่ยนผ่านระบบ มีติดขัดบ้างเล็กน้อย จึงขอเวลา 7 วัน ในการสรุปข้อมูลให้มีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น เพื่อให้ระบบที่ดำเนินการอยู่มีความลงตัวมากที่สุด ส่วนที่หลายฝ่ายกังวลว่าระบบไทยแลนด์พาส จะป้องกันความเสี่ยงได้น้อยกว่าระบบซีโออี เรื่องดังกล่าว ไม่เป็นปัญหาเนื่องจากใช้ข้อมูลชุดเดียวกันในการคัดกรองผู้โดยสาร พร้อมย้ำว่าภาพรวมการดำเนินงานในครั้งนี้ อยู่ในเกณฑ์ที่น่าพอใจ และจะนำข้อบกพร่องกลับมาปรับใช้เพื่อให้การเปิดประเทศนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติในครั้งนี้มีความปลอดภัยต่อนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติและประชาชนคนไทยมากที่สุด