วันที่ 31 ส.ค. 62  ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่าพบสามีภรรยาคู่หนึ่งมีชีวิตความเป็นอยู่ที่แสนลำบาก โดยผู้เป็นสามีตาข้างขวาบอดสนิท ส่วนข้างซ้ายมองเห็นเลือนลาง ส่วนภรรยาพิการเป็นผู้ป่วยติดเตียงมานานกว่า 5 ปี ทั้งคู่มีรายได้แค่เงินจากรัฐเพียงเล็กน้อยต่อค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน อาศัยญาติและเพื่อนบ้านคอยช่วยเหลือพอประทังชีวิตบ้างบางครั้งคราวเท่านั้น

             หลังได้รับแจ้งจึงเดินทางไป บ้านเลขที่ 9/3 ม.10 ต.ตะเสะ อ.หาดสำราญ จ.ตรัง พบกับ นายพาสน์ เพชร์อินทร์ หรือ ลุงบอด อายุ 62 ปี ชายตาบอดเจ้าของบ้าน และนางสาววรรณา จิตรเที่ยง อายุ 53 ปี พิการนอนติดเตียง แขนขาลีบทั้งสองข้าง ร่างกายผอม ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ มีเพียงสามีคอยดูแลไม่ห่าง คอยป้อนน้ำ และอาหารที่กินได้แต่อาหารเหลวเท่านั้น ซึ่งชีวิตสร้างความสังเวชใจให้กับผู้พบเห็นยิ่งนัก จากการสอบถามทราบว่าก่อนหน้านี้ก็มีหน่วยงานต่างๆ นำสิ่งของเครื่องอุปโภคบริโภคที่จำเป็นมามอบให้อยู่บ้าง แต่ก็ยังไม่เพียงพอ ทั้งคู่ยังคงลำบาก ทุกข์ยาก เช่นเดิม

 

   ลุงบอด กล่าวว่า ตนเองอยู่กินกับภรรยามานานประมาณ 40 ปี มีลูกชายด้วยกัน 3 คน ตอนนี้ก็เติบโตและแยกย้ายกันไปมีชีวิตทำมาหากินกันหมดแล้ว นานๆ จึงจะกลับมาเยี่ยมสักครั้ง แต่ก็ไม่ค่อยได้หยิบยื่นเงินทองให้พ่อแม่ เพราะลูกๆ ก็ยังทำงานไม่เป็นหลักแหล่งหาเช้ากินค่ำ ตนก็มีอาชีพรับจ้างทั่วไป มีรายได้ไม่มาก ก็นำมาดูแลภรรยาทั้งหมด ไม่เคยคิดเก็บไว้ใช้จ่ายส่วนตัว โดยนางวรรณาผู้เป็นภรรยามีโรคประจำตัวคือโรคลมชัก ซึ่งเป็นมาตั้งแต่เด็กๆ แต่ก็ไม่รุนแรง แต่พออายุมากขึ้นอาการกำเริบชัดขึ้นจนเมื่อประมาณ 4 - 5 ปี ที่แล้ว โรคลมชักรุนแรงส่งผลให้ภรรยาตนป่วยจนช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ลุกขึ้นนั่งเองไม่ได้ ต้องประคอง ป้อนข้าว ป้อนน้ำ เช็ดตัว ทุกอย่าง ซึ่งค่าใช้จ่ายแต่ละวันก็มีค่าผ้าอ้อมสำเร็จรูป ค่านม ค่าอาหารเหลว ตกวันละ 150 - 200 บาท ทั้งนี้ ลุงบอด กล่าวว่า แม้จะลำบากแค่ไหนตนก็ไม่เคยคิดทิ้งภรรยา จะอยู่ดูแลกันตลอดไป