จากการที่เกิดน้ำท่วมหนักติดต่อกันมาเป็นวันที่  8 แล้วนาข้าวสูญเสียเป็นจำนวนมากประชาชนที่จมน้ำตายไปแล้ว 2 รายมีนายประดิษฐ์  ทองคำแท้ อยู่บ้านเลขที่ 82 หมู่ที่ 6 บ้านป่าติ้ว  ต.กุดปลาดุก อ.เมือง จ.อำนาจเจริญ ออกหาปลาโดนน้ำลำเบายพัดลงที่ลึก ต่อน่าภรรยา 2.นายสมบูรณ์    ปานประดิษธ์ อายุ 63 ปี อยู่ ต.อำนาจ อ.ลืออำนาจ จ.อำนาจเจริญ ออกจับปลากลายเป็นศพ และที่จมน้ำหายไปยังหาศพไม่เจออีก  2 ราย รายแรก 1.ชื่อนายมนัส  ลุนสิน อายุ 61 ปี เป็นข้าราชการบำนาญ อยู่บ้านเลขที่ 39 หมู่ที่2 บ้านเสียว ต.รัตนวารี   อำเภอหัวตะพาน สาเหตุจมน้ำ จากกระแสเอ่อล้นขึ้นอย่างรวดเร็ว ท่ามกลางญาติที่พบเห็นขณะน้ำลำเซบายพัดลงไปจุดที่ลึกและหลายไปต่อหน้าชาวบ้าน  ขณะนี้ชาวบ้านระดมค้นหาศพ แต่ยังไม่เจอ มีนายวิรัตน์  กลิ่นขจร   นายอำเภอหัวตะพาน จ.อำนาจเจริญ และกู้ภัยพร้อมกับ สส.สมหญิง บัวบัตรปักหลักค้นหาศพอย่างต่อเนื่อง อีกศพ เป็นชาวบ้านชื่อนายนคร  เนินทราย อายุ 58 ปี อยู่บ้านเลขที่ 20 หมู่ที่ 1 บ้านน้ำปลีก ต.น้ำปลีก อ.เมือง จ.อำนาจเจริญ ออกไปท้องนาจับปลาแต่เจอน้ำลำเซบายหนุนขึ้นอย่างรวดเร็วภายในเวลาอันสั้นหนีไม่พ้นโดยน้ำลำเซบายพัดหนีต่อหน้าต่อตาเพื่อนๆเข้าช่วยเหลือไปทัน

 

ด้านนายวิรัตน์  กลิ่นขจร   นายอำเภอหัวตะพาน จ.อำนาจเจริญกล่าวว่าน้ำลำเชบายหนุนรวดเร็วมาและทะลักเข้าท่วมพืชสวนการเกษตรของเกษตรไปเป็นจำนวนหลายหมื่นไร่แล้ว อย่างไรก็ตามตนว่าเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นในรอบ 50 ปีก็ว่าได้ที่มีน้ำท่วมใหญ่มากมายถึงขนาดนี้ ตนและท่าน สส.สมหญิง  บัวบุตร ออกติดตามและสั่งการเข้าช่วยเหลือประชาชนตลอด 24 ชั่วโมง

 

 

ทางด้านนายสมเกียรติ  แก้วรัตน์  นายอำเภอเมืองอำนาจเจริญ กล่าวว่า ตนและทีมงานพร้อมด้วย สส.ในพื้นที่ลงพื้นที่ช่วยเหลือตลอดเวลาโดยเฉพาะท่าน สส.ใช้งบประมาณตนเองออกช่วยเหลือประชาชนอย่างต่อเนื่อง ไม่ได้หลับไม่ได้นอน ผลิตถุงยังชีพไปแจกจ่ายให้ประชาชนทุกตำบลที่เจอปัญหาเรื่องน้ำท่วม