วันที่  3  พฤศจิกายน 2464 นางสมาพร ศรีโยหะอายุ 58ปี  สอนอยู่ รร.ไทยรัฐ 91 สพป.อำนาจเจริญ (บ้านโคกจักจั่น) อ.เมือง จ.อำนาจเจริญ หลังแจ้งความร้องทุกข์กับตำรวจสภ.เมืองอำนาจเจริญได้เดินทางเข้าพบผู้สื่อข่าวและกล่าวปิดใจว่า มีคนเข้าไปแฮกเฟชบุ๊กของตนจนทำให้เฟชบุ๊กของตนเองใช้ไม่ได้และเข้าเล่นไม่ได้เลย (แฮ้ง) ในวันที่ 31ตุลาคม 2564 ที่ผ่านมา และก็ใช้เฟชบุ๊กของตนพิมข้อความไป ขอยืมเงินกับเพื่อนของตนที่เป็นครูเกษียณหลายต่อหลายครั้งรวมเป็นเงิน 15,000 บาท และยังใช้เฟชบุ๊กที่เป็นรูปหน้าของตนนี้แหละไปขอยืมเงินไปทั่วประเทศ ไม่เว้นแม้แต่แม่ค้าแม่ขายเลยทีเดียว

ในขณะที่ตนเข้าไปในเฟชบุ๊กของตนเองไม่ได้เลย ตนมาทราบก็ตอนที่เพื่อนที่ส่งเงินให้ตนแต่เป็นส่งไปบัญชีคนอื่น (คนที่มาแฮก "มิจฉาชีพ") โทรมาทวงถามตนว่า เมื่อไรจะจ่ายเงินคืนให้กับตนตนก็งงเงินอะไร เพื่อนก็บอกว่าเงินที่ยืมเราทางเฟชบุ๊คไงเราก็บอกเพื่อนไปว่ามิน่าเฟซบุ๊กเราโดนแฮกตั้งแต่เมื่อวาน ตนและเพื่อนจึงนำความเข้าแจ้งความกับตำรวจ สภ. เมืองอำนาจเจริญให้ตามจับคนร้ายต่อไป วอนให้ตำรวจตามจับให้ได้ด้วยตนสงสารเพื่อนตนที่สูญเงินไปปล่าตนเชื่อว่าแก้งมิจฉาขีพเหล่านี้กระทำกันเป็นขบวนการและที่ฉันแปลกใจคือ แก๊งมิจฉาชีพเหล่านี้จะใช้เฟซบุ๊กคนอื่นมาส่งข้องความตีเนียนให้เร่งให้โอนเงินเข้าบัญชีนี้เป็นบัญชีใช้หนี้ไม่ใช่บัญตามหน้าเฟซบุ๊กและยังพิมบอกอีกว่าจะใช้คืนภายในไม่กี่ชั่วโมงทำตัวเหมือนตัวดิฉันเองเชื่อผู้ที่ตกเป็นเยื่อยจำนวนมากสูญเงินนับล้านๆ

ทางด้านนางสาวอารียา  อายุ 61ปี เป็นข้าราชการบำนาญโรงเรียนบ้านเชือก สพป.อำนาจเจริญ  กล่าวว่า ตนตกใจมากที่เกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดขึ้นเช่นนี้เพราะอยู่ๆก็มีข้อความทางเฟซบุ๊กมาหาตนว่า ขอยืมเงินหน่อย 5,000 บาท ตนไม่แปลกใจเพราะคนที่ยืมก็เป็นคนที่รู้จักกันดี เล่นทักทายทางเฟซบุ๊กกันอยู่ประจำและมิจฉาชีพที่ขอยืมโดยตีเนียนเป็นนางสมาพร  ศรีโยหะ ที่ปรากฎหน้าเพื่อนฉันเอง โดยเป็นหน้าของนางสมาพร นี้เลยจะไม่ให้เชื่อได้อย่างไรเมื่อขอยืมเงินตนจึงตอบตกลงและรีบโอนเงินให้ครั้งแรก 5,000 ก่อนทิ้งระยะไม่กี่ชั่วโมงบอกมาอีกว่า ไม่พอขออีก 5,000บาท ตนก็รีบโอนให้ แต่ตนก็แปลกๆใจ อยู่ว่าทำไมจึงเร่งเวลา และบัญชีที่โอนให้ก็เป็นบัญชีชื่่อคนอื่นแต่ในข้อความที่พิมมาบอกว่าเป็นบัญชีนี้เป็นบัญชีใช้หนี้ไม่ใช้บัญชีตนตนก็เชื่อเพราะเป็นเพื่อนรักกันและตนยุ่งอยู่กับงานอื่นต่อมาก็ไปยืแบะก็โอนให้และลูกชายของตนเจออีกโอนให้อีก 5,000บาท รวมเป็น 15,000บาท ลูกชายตนบอกโดยใช้หน้าคุณสมาพรฯนี้ละมันตีเนียนคำพูดคำจาเก่งมาก  ตนเสียใจมากตนสูญเงินไปมากและยังไปหลอกให้แม่ค้าในตลาดอำนาจเจริญอีกหลายต่อหลายรายตนอยากให้ทางบ้านเมืองทางเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการจับกุมตัวคนร้ายมาลงโทษให้เข็ดหลาบจะได้ไม่ไปเที่ยวหลอกลวงใครอีกต่อไปและตนเชื่อว่าตำรวจคงทำได้เพราะตนมีใบเสร็จรับเงินที่ส่งเงินให้มิจฉาขีพเหล่านี้อยู่ ทุกใบในโทรศัพท์ และมีอีกหลายต่อหลายรายที่โดยแฮกเฟชบุ๊กออกสร้างความเสียหายให้กับบรรดาข้าราชการครูเกียษณและแม่ค้าตามตลาดต่างๆตลอดจนบุคคลทั่วไป วอนตำตรวจและเจ้าหน้าที่บ้านเมืองจับกุมให้ได้ด้วยเพราะมันเป็นภัยสังคมอันร้ายแรงเอาไว้ไม่ได้

ทางด้าน พล.ต.ต.ประสงค์ เรืองเดช  ผู้บังคับบัญชาตำรวจภูธรจังหวัดอำนาจเจริญ  กล่าวว่า เรื่องนี้ทางตำรวจไม่ได้นิ่งนอนใจได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งรวบรวมหลักฐานเอกสารต่างๆและตามตัวคนร้ายมาลงโทษให้ได้และให้อายัดเงินในบัญชีที่เราโอนให้มิจฉาชีพเหล่านี้ไว้ก่อนใครที่ตกเป็นเหยื่อยแก้งมิจฉาชีพเหล่านี้ให้มาลงบัญทึกประจำวันแจ้งความไว้เป็นหลักฐานและแจ้งในพื้นที่นั้นๆของเองตนเจ้าหน้าที่กำลังเร่งแกะรอยดำเนินการให้อยู่