วันนี้ ( 4 พ.ย.64 ) นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม รับทราบผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนไทยในอีก 3 เดือนข้างหน้า ของสภาธุรกิจตลาดทุนไทย ซึ่งสำรวจเมื่อเดือน ต.ค. 64 พบว่าอยู่ที่ระดับ 168.69 สูงสุดตั้งแต่เริ่มสำรวจมา โดยปรับตัวเพิ่มขึ้น 18.2% จากเดือนก่อนหน้ามาอยู่ในเกณฑ์ “ร้อนแรงอย่างมาก” สอดคล้องกับดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคในเดือน ต.ค. 64 ของมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ที่ความเชื่อมั่นปรับตัวดีขึ้นทุกรายการต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 และสูงสุดในรอบ 5 เดือน นับตั้งแต่เดือนมิ.ย. 64 โดยอยู่ที่ระดับ 43.9 นายกฯ ขอบคุณพี่น้องประชาชนและนักลงทุนที่ให้ความเชื่อมั่นประเทศไทยและให้ความร่วมมือกับรัฐบาลในการป้องกันโรคโควิดให้อยู่ในจุดที่ควบคุมได้ ซึ่งรัฐบาลให้ความสำคัญกับชีวิตและความปลอดภัยของทุกคนเป็นอย่างมากแต่ก็ไม่ทิ้งเรื่องปัญหาเศรษฐกิจปากท้องที่ต้องเดินไปด้วยกัน เราได้วิเคราะห์ประเมินสถานการณ์เพื่อออกมาตรการให้เกิดประโยชน์ที่สุดโดยเฉพาะในช่วงปลายปีนี้ ส่วนปัญหาเรื่องน้ำมันแพง ผักแพง ข้าวราคาตก ได้กำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งแก้ไขปัญหาโดยด่วนแล้ว แต่ต้องยอมรับว่าปัจจัยภายนอกประเทศมีผลต่อราคาในประเทศด้วย

นายธนกร กล่าวว่า สำหรับความเชื่อมั่นของนักลงทุนและประชาชนจากผลสำรวจนั้น นักลงทุนคาดหวังการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยวตามนโยบายเปิดประเทศเป็นปัจจัยหนุนมากที่สุด รองลงมาคือ แผนการฉีดวัคซีนและการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศ ส่วนประชาชนเชื่อมั่นการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ การยกเลิกเคอร์ฟิว และการเปิดประเทศของรัฐบาล รวมทั้งการตรึงราคาน้ำมันดีเซลไม่เกิน 30 บาทต่อลิตรและการกระตุ้นเศรษฐกิจช่วงปลายปีอย่างโครงการคนละครึ่งและเราเที่ยวด้วยกัน เป็นต้น