วันที่ 5 พ.ย.64. เวลา 07.00น. พ.ต.ท  จิรเดช  กันทะสาร  สว.(สอบสวน) สภ. เมือง จ.สระบุรี  ได้รับแจ้งเหตุจากพลเมืองดีว่า มีรถเก๋งชนคนข้ามถนนเสียชีวิต ในที่เกิดเหตุ ที่ บริเวณถนนสายเลี่ยงเมือง ฝั่งตะวันออก กม. 14  ต.ตะกุด อ. เมือง จึงได้รุดไปที่เกิดเหตุพร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างรัตนตรัยสระบุรี ในที่เกิดเหตุ พบ รถเก๋งมิตชูบิชิ สีบรอนซ์ทอง จอดอยู่บนถนนเลนขวาหันหน้าไป จ.ลพบุรี โดยมีนายประกอบ อายุ 73 ปี คนขับรอมอบตัว  รถคันดังกล่าวได้ชน ร่างของ น.ส. จำปา อายุ 64 ปี  นอนเสียชีวิตบนถนน สภาพศพคอหัก ขาหัก สองข้าง นอนเสียชีวิต ผู้ตายใส่แมสสีดำ สวมเสื้อเชิดสีเหลืองลายดอกแขนสั้น กางเกงขาสันลายผ้าขาวม้าสีฟ้า  ส่วนรถคันที่ชนกระจกด้านซ้ายแตกเป็นรอยร้าว  ฝากระโปรงบุบ ไฟหน้าด้านซ้ายแตกเสียหายเล็กน้อย เจ้าหน้าที่จึงบันทึกภาพไว้เป็นหลักฐาน

ด้านนายสวัสดิ์ อายุ 75 ปี สามี ผู้ตายเล่าว่า ตนกับผู้ตายมีอาชีพเก็บไม้มาเผาถ่านขาย และพักอาศัยอยู่ข้างถนน ข้างสะพานลอย โดยก่อนภรรยาจะมาถูกรถชนเสียชีวิต ตอนเช้าได้ตื่นเช้ามาแล้วจะเดินออกไปตลาดเพื่อชื้อกับข้าวมากิน จนกระทั่งตนได้ทราบว่ามีคนถูกรถชนตายบนถนนซึ่งห่างจากบ้านตนไม่ไกล จึงได้เดินออกมาดู ก็พบว่า เป็นภรรยาของตนเอง ได้ถูกรถชนเสียชีวิต ตนเองรู้สึกเสียใจมากเพราะ ต้องมาเสียภรรยาคู่ชีวิตไป   

ส่วนนายประกอบ อายุ 73 ปี คนขับเล่าเหตุการณ์ตนขับรถคันดังกล่าวมาจาก อ.ปากช่อง จ. นคราชสีมา เพื่อจะไปซ่อมวิทยุสื่อสารที่ อ.เสาไห้ จ. สระบุรี ขณะที่ตนวิ่งมาตามถนนเลี้ยงเมือง ในระหว่างลงสะพานข้ามทางรถไฟมานั้น  จู่ๆได้มีผู้ตาย วิ่งข้ามถนน จากซ้ายไปขวา ทำให้รถของตนซึ่งวิ่งมาได้เบรกไม่ทัน รถได้ชนร่างผุ้ตายกระเด็นลอยขึ้นมาติดบนฝากระโปร่งรถกระจกรถด้านซ้าย  โดยร่างผู้ตายลากมาจากที่ชนประมาร 30 เมตร เมื่อตนจอดรถร่างผุ้ตายก็ตกลงมาเสียชีวิตทันที ส่วนตนเองนั้นไม่คิดหลบหนีไปไหนเลย  จากนั้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้นำตัวคนขับมาสอบสวนที่ สภ.เมืองสระบุรี เพื่อจะดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป