สั่งปิด 7 “สถานที่เสี่ยง” ใน 5 อำเภอ จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดโควิด-19
7 พ.ย. 2564, 20:28
วันนี้ (7 พ.ย.64) เพจเฟซบุ๊ก ประชาสัมพันธ์ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ รายงานว่า คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ มีมติสั่งปิด 7 “สถานที่เสี่ยง” ใน 5 อำเภอ เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 หลังพบมีการติดเชื้อเป็นกลุ่มก้อนทั้งในชุมชน หอพัก และแคมป์คนงาน
นายประจญ ปรัชญ์สกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ในฐานะประธานคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ ผู้กำกับการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินจังหวัดเชียงใหม่ ลงนามคำสั่งคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ โดยสั่งปิด 7 สถานที่เสี่ยงใน 5 อำเภอ เป็นการชั่วคราว เพื่อควบคุมและป้องกันโรคในพื้นที่ ภายหลังพบว่ามีการติดเชื้อโรคโควิด–19 เป็นกลุ่มก้อน ได้แก่ แคมป์คนงาน หมู่ที่ 7 บริษัท ซิโนไฮโดร (ไทยแลนด์) จำกัด ตำบลสุเทพ อำเภอเมืองเชียงใหม่ ระหว่างวันที่ 31 ตุลาคม – 13 พฤศจิกายน 2564
หอพักนายครรชิต ศรีวิชัย เลขที่ 100 หมู่ที่ 5 บ้านเทพาราม ตำบลป่าบง อำเภอสารภี, แคมป์คนงาน สวนลุงเจริญ เลขที่ 188 หมู่ที่ 11 บ้านช้างค้ำ ตำบลท่าวังตาล อำเภอสารภี และบ้านพักแรงงานต่างชาติ เลขที่ 50/2 หมู่ที่ 7 บ้านบวกหัวช้าง ตำบลท่าวังตาล อำเภอสารภี ระหว่างวันที่ 2 พฤศจิกายน – 15 พฤศจิกายน 2564
นอกจากนี้ ยังสั่งให้ปิดพื้นที่หมู่ที่ 2 บ้านแอ่นใหม่ ตำบลบ้านแอ่น อำเภอดอยเต่า ระหว่างวันที่ 4 พฤศจิกายน – 18 พฤศจิกายน 2564, ปิดพื้นที่หมู่ที่ 12 บ้านผาแดง ตำบลสบโขง อำเภออมก๋อย จังหวัดเชียงใหม่ ระหว่างวันที่ 1 พฤศจิกายน – 13 พฤศจิกายน 2564 และปิดพื้นที่หอพักนางพัฒนกิจ (หอพักสีส้ม) เลขที่ 135 หมู่ที่ 6 ตำบลตลาดขวัญ อำเภอดอยสะเก็ด ระหว่างวันที่ 4 – 17 พฤศจิกายน 2564
ทั้งนี้ ขอให้ผู้สัมผัสเสี่ยงสูงทุกรายเข้ารับการตรวจคัดกรองหาเชื้อโควิด-19 หากผลตรวจเป็นลบให้กักตนเอง (Home Quarantine) เป็นเวลา 14 วัน ส่วนกลุ่มเสี่ยงต่ำให้คุมไว้สังเกตอาการ เป็นเวลา 14 วัน และปฏิบัติตามคำสั่งเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อในพื้นที่อย่างเคร่งครัด พร้อมขอความร่วมมือให้ประชาชนในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ งดการเดินทางเข้าไปในพื้นที่เสี่ยงดังกล่าวโดยไม่มีเหตุจำเป็น เพื่อลดความเสี่ยงต่อการสัมผัสโรค พร้อมให้นายอำเภอแต่ละอำเภอ ในฐานะหัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการควบคุมโรคอำเภอฯ กำกับและควบคุมการปฏิบัติให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย หากผู้ใดฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตาม ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 20,000 บาท ตามมาตรา 51 แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558