วันที่ 2 กันยายน 2562 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า ที่สมาคมผู้บริหารสถานศึกษา อ.เมืองศรีสะเกษ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ นายธีรนันท์ คำคาวี นายกสมาคมผู้บริหารสถานศึกษา อ.เมืองศรีสะเกษ จ.ศรีสะเกษ พร้อมด้วย นายอุดม โพธิ์ชัย ประธานชมรมครูประถมศึกษา จ.ศรีสะเกษ นายเอกอมร ใจจง เลขานุการชมรมครูประถมศึกษา จ.ศรีสะเกษ ได้เรียกประชุมกรรมการสมาคมผู้บริหารสถานศึกษา อ.เมืองศรีสะเกษ เป็นการเร่งด่วนเพื่อหารือเกี่ยวกับความห่วงใยความไม่มั่นคงก้าวหน้าของวิชาชีพครู เงินเดือน วิทยฐานะ ระบบการผลิตครู เนื่องจากร่าง พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ......ระบุสาระที่ส่งผลกระทบต่อวิชาชีพครูและการศึกษาของชาติไว้ในหลายมาตรารวมทั้งแนวนโยบายที่จะยุบควบรวม รร.ขนาดเล็กในเมือง ชนบท ชายป่าชายขอบ เขา เกาะ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อวิถีชีวิต วัฒนธรรมของเด็กและผู้ปกครอง นร. รวมถึงความสงบสุข ความมั่นคงของชาติ จากนั้น ได้ยื่นหนังสือข้อเรียกร้องต่อ ประธานสภามนตรีสมาพันธ์สมาคมครูแห่งประเทศไทย โดยมี นายวิสัย เขตสกุล เลขาธิการสภามนตรีสมาพันธ์สมาคมครูแห่งประเทศไทย เป็นตัวแทนมารับมอบหนังสือข้อเรียกร้องในครั้งนี้ หลังจากการประชุมและยื่นหนังสือข้อเรียกร้องแล้ว นายธีรนันท์ คำคาวี นายกสมาคมผู้บริหารสถานศึกษา อ.เมืองศรีสะเกษ จ.ศรีสะเกษ พร้อมด้วย นายอุดม โพธิ์ชัย ประธานชมรมครูประถมศึกษา จ.ศรีสะเกษ และคณะได้แถลงข่าวกับสื่อมวลชนทุกแขนงที่มาทำข่าวว่า พวกตนได้ร่วมกันเสนอข้อเรียกร้องและความต้องการของสมาชิกต่อสภามนตรีสมาพันธ์สมาคมครูแห่งประเทศไทยเพื่อเสนอต่อ รมว.ศึกษาธิการ และรัฐบาล ดังนี้ คือ 1. เรียกร้องให้วิชาชีพครูเป็นวิชาชีพควบคุมครูต้องมีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ 2. ครูต้องเป็นข้าราชการในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 3. กระทรวงศึกษาธิการต้องกระจายอำนาจให้สถานศึกษาเป็นนิติบุคคลตามกฎหมายมหาชน รร.เล็ก ใหญ่ สามารถบริหารจัดการตนเองได้ในรูปแบบคณะกรรมการสถานศึกษา 4. กระทรวงศึกษาธิการต้องเป็นต้นแบบประชาธิปไตยมีองค์คณะบุคคลที่มีผู้แทนครูมีส่วนร่วมทุกระดับ 5. ให้ยกเลิกคำสั่ง คสช. ที่เกี่ยวข้องกับการศึกษาทุกฉบับ และคืนสิทธิ์ผู้ได้รับผลกระทบและบริสุทธิ์

 

นายกสมาคมผู้บริหารสถานศึกษาอำเภอเมืองศรีสะเกษ กล่าวต่อไปว่า 6. ให้คืนเงินกองทุนพิเศษ ช.พ.ค.ให้ครูผู้เป็นเจ้าของรับผิดชอบ เป็นผู้จ่ายดอกเบี้ยและธนาคารจ่ายคืนเข้ากองทุนได้บริหารจัดการกันเอง 7. ให้มีการแก้ไขวินัยทางการเงินสำหรับโครงการอาหารกลางวันนักเรียนเป็นการเฉพาะ ไม่ผูกรวมกับระเบียบกระทรวงการคลัง เพราะสภาพบริบทสถานศึกษาแต่ละแหล่ง แต่ละขนาด แต่ละชุมชนมีความแตกต่างกัน วิถีและวัฒนธรรมการบริโภคต่างกัน ยากที่จะจัดซื้อ จัดจ้างตามระเบียบกระทรวงการคลังและกรมบัญชีกลางที่กำหนดไว้ได้ หากปรับระเบียบไม่ได้ พวกตนขอเสนอให้จ่ายเงินให้กับผู้ปกครอง นร.โดยตรง และที่สำคัญคือข้อ 8. ให้ยุติการยุบ เลิก ควบรวม รร.เล็ก เพราะ รร.เล็ก ๆ ทุก รร. ชาวบ้านในพื้นที่ตามชนบทที่ห่างๆ ไกล ชาวบ้านได้ร่วมกันสร้างขึ้นมาด้วยมือ ความรัก ความสามัคคี มีความรักความศรัทธา ชาวบ้านทุกคนหวงแหนเพื่อให้ รร.เป็นสถาบันหลักของหมู่บ้านที่เป็นชุมชนเล็ก ๆ เหล่านั้น การจัดการศึกษาต้องเป็นรัฐสวัสดิการ นร.ทุกคนของ รร.ขนาดเล็กเป็นการผลิตทรัพยากรทางปัญญา จะคิดเป็นกำไรขาดทุนไม่ได้ พวกตนจึงขอคัดค้านการยุบรวม รร.ขนาดเล็กอย่างเต็มที่

ทางด้าน นายวิสัย เขตสกุล เลขาธิการสภามนตรีสมาพันธ์สมาคมครูแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ตนต้องขอชื่นชม นายธีรนันท์ คำคาวี นายกสมาคมผู้บริหารสถานศึกษา อ.เมืองศรีสะเกษ และ นายอุดม โพธิ์ชัย ประธานชมรมครูประถมศึกษา จ.ศรีสะเกษ ที่ได้นำเสนอข้อคิดและปัญหาด้านพัฒนาการศึกษาของชาติ โดย สพป.ศรีสะเกษ เขต 1 มี รร.ขนาดเล็ก จำนวน 128 รร. ทั่วประเทศมี รร.ขนาดเล็ก จำนวนทั้งสิ้น 15,557 รร. เมื่อตนได้รับเรื่องนี้แล้วก็จะได้นำเรื่องไปเสนอต่อที่ประชุมสภามนตรีสมาพันธ์สมาคมครูแห่งประเทศไทย จากนั้น จะได้นำเรื่องทั้งหมดไปเสนอต่อ รมว.ศึกษาธิการ เพื่อขอให้นำข้อเรียกร้องของครูศรีสะเกษไปพิจารณาต่อไป