เปิด ปิด การใช้งานคุกกี้ของ ทรูฮิต (Truehits Cookies)



ยังไม่จบ "หมวดจรูญ" ขึ้นศาลอีก หลังนายแผนฟ้องสวนกลับ ทนายตั้มงง ครูปรีชาพบคลิป ???


2 ก.ย. 2562, 17:50



ยังไม่จบ "หมวดจรูญ" ขึ้นศาลอีก หลังนายแผนฟ้องสวนกลับ ทนายตั้มงง ครูปรีชาพบคลิป ???




จากกรณี นายปรีชา ใคร่ครวญ หรือ ครูปรีชา เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง ร.ต.ท.จรูญ วิมูล อดีตข้าราชการตำรวจ สภ.บ่อพลอย อ.บ่อพลอย จ.กาญจนบุรี ในคดีอาญา หมายเลขดำ ที่ อ.1863/61 ข้อหายักยอกทรัพย์ รับของโจร เนื่องจากทั้งคู่ต่างอ้างว่าเป็นเจ้าของสลากกินแบ่งรัฐบาล รางวัลที่ 1 งวดประจำวันที่ 1 พ.ย.60 เลข 533726 จำนวน 1 ชุด 5 ใบ เป็นเงินจำนวน 30 ล้านบาท

 

โดยก่อนหน้านี้ครูปรีชา ใคร่ครวญ ได้ฟ้องแพ่งต่อหมวดจรูญ เป็นเงินจำนวน 30 ล้านบาท ซึ่งศาลได้ประทับรับฟ้องเป็นคดีเลขดำที่ พ.1230/60 แต่ศาลได้จำหน่ายคดีแพ่งออกไปก่อนเพื่อรอฟังผลคำพิพากษาของคดีหลัก คือคดีอาญา หมายเลขดำ ที่ อ.1863/61 การต่อสู้คดีดังกล่าวใช้เวลานานกว่า 1 ปี สุดท้ายแล้ว ศาลได้มีคำพิพากษายกฟ้อง ร.ต.ท.จรูญ วิมูล เมื่อวันที่ 4 มิ.ย.ที่ผ่านมา

 

 

ส่วนกรณีเงินของหมวดจรูญ ที่ถูกอายัดเอาไว้ จำนวน 24,350,000 บาท ศาลได้มีคำสั่งเพิกถอนคำสั่งอายัดเมื่อวันที่ 22 ส.ค.ที่ผ่านมา จากนั้นวันที่ 26 ส.ค.ร.ต.ท.จรูญ วิมูล จึงได้เดินทางไปปิดบัญชีที่ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน)เลขที่ 320/5 ถ.แสงชูโต ต.ท่ามะขาม อ.เมืองกาญจนบุรี

 

แต่อย่างไรก็ตาม คดีดังกล่าวฝ่ายครูปรีชา รวมทั้งพยานของครูปรีชา ได้มีการฟ้องฝ่ายของหมวดจรูญเป็นคดีปลีกย่อยอีกหลายคดี ซึ่งคดีส่วนใหญ่ศาลได้มีคำพิพากษายกฟ้อง




แต่คดีที่ยังต้องขึ้นศาลอยู่ก็คือคดีที่ นางรัตนาพร สุภาทิพย์ หรือเจ๊บ้าบิ่น ฟ้องนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม ในข้อหาให้การเท็จกับพนักงานสอบสวน คดีนี้อยู่ระหว่างรอฟังคำสั่งหรือคำพิพากษา  และคดีเจ๊บ้าบิ่นฟ้องหมวดจรูญ ในข้อหาให้การเท็จกับพนักงานสอบสวน คดีนี้อยู่ระหว่างรอการไต่สวนมูลฟ้องในนัดต่อไป

 

และอีก 1 คดีก็คือการที่นายฐนุกร เหลืองใหม่เอี่ยม หรือแผน ฟ้องหมวดจรูญ สืบเนื่องมาจาก เมื่อวันที่ 14 มี.ค.61 หมวดจรูญได้ไปแจ้งความดำเนินคดีกับแผนในข้อหา แจ้งให้เจ้าพนักงานจดข้อความอันเป็นเท็จ ในฐานะพยาน จากการที่นายแผน ไปให้ถ้อยคำในฐานะพยานที่เป็นพยานให้กับครูปรีชา ในคดีหวย 30 ล้าน

 

 

โดยการให้ปากคำกับตำรวจ สภ.เมืองกาญจนบุรี และตำรวจภูธรภาค 7 ทางหมวดจรูญจึงได้ไปดำเนินการแจ้งความดำเนินคดีกับนายแผน ว่าให้การเท็จ ซึ่งตำรวจกองปราบมีความเห็นสั่งฟ้องไปยังอัยการ แต่พนักงานอัยการมีคำสั่งให้คืนสำนวนให้กองปราบ

 

ดังนั้นนายแผน จึงนำคดีมาฟ้อง หมวดจรูญ ต่อศาลจังหวัดกาญจนบุรี เมื่อวันที่ 5 ก.ค.62 ในข้อหาฐานความผิด แจ้งความเท็จ และแจ้งข้อความอันเป็นเท็จต่อเจ้าพนักงาน ศาลจังหวัดกาญจนบุรี ประทับรับฟ้องเป็นคดีอาญาหมายเลขดำที่ 1611/2562 ซึ่งศาลจังหวัดกาญจนบุรี ได้นัดไต่สวนมูลฟ้องวันนี้ (2 ก.ย.)เวลา 13.30 น.

 

ล่าสุดเมื่อเวลา 13.10 น.วันนี้ 2 ก.ย.62 ผู้สื่อข่าวราย ONB news งานว่า นายฐนุกร เหลืองใหม่เอี่ยม หรือแผน (โจทก์) พร้อมด้วยนายวชิระ ทานท่า ทนายความส่วนตัว ได้เดินทางมาถึงศาล โดยมีนางรัตนาพร สุภาทิพย์ หรือเจ๊บ้าบิ่น น.ส.พัชริดา พรมตา หรือเจ๊พัช 2 พยานปากสำคัญของครูปรีชา เดินทางมาให้กำลังใจต่อนายแผนด้วย

 

เวลาไล่เลี่ยกัน ร.ต.ท.จรูญ วิมูล หรือหมวดจรูญ จำเลย พร้อมด้วยนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ ทนายความส่วนตัวหมวดจรูญ ได้เดินทางมาถึงตามที่ศาลนัดเอาไว้เช่นกัน โดยมีนางลาวัลย์ วิมูล หรือป้าลาวัลย์ ภรรยา ร.ต.ท.จรูญ รวมทั้งนายอาคม คงสวัสดิ์ ทนายความ เดินทางมาให้กำลังใจ หมวดจรูญ ด้วยเช่นกัน

 

 

ทั้งนี้นายวชิระ ทานท่า ทนายความ กล่าวว่า ประเด็นที่มาในวันนี้ก็คือประเด็นที่นายแผนได้ดำเนินการฟ้องหมวดจรูญ ในข้อหาแจ้งความเท็จ ต่อเจ้าพนักงาน และให้การเท็จต่อเจ้าพนักงานเพื่อกลั่นแกล้งให้นายแผนได้รับโทษทางอาญา

 

สำหรับที่มาของการฟ้องร้องในครั้งนี้ เนื่องมาจากการที่คุณแผนไปให้ปากคำในฐานะพยานคนหนึ่งที่รู้เหตุการณ์ตามความเป็นจริง และเขาได้ไปให้ปากคำไปตามความเป็นจริงที่เขาเห็น แต่ทางด้านของร.ต.ท.จรูญ กลับนำไปแจ้งความเพื่อดำเนินคดีว่าทางคุณแผน ไปให้การในฐานะพยานเท็จ ซึ่งขณะนั้นหมวดจรูญได้ไปแจ้งความคุณแผน ที่กองปราบ ในขณะที่คุณแผน ไปให้ปากคำที่ภาค 7 เกี่ยวกับเหตุการณ์เรื่องของคดีหวย 30 ล้านบาท


นายวชิระ เปิดเผยว่า สำหรับคดีของนายแผน ในเบื้องต้นเราเตรียมพยานเอาไว้ทั้งหมด 10 ปาก มีทั้งผู้ที่รู้เห็นเหตุการณ์ในวันที่ 31 ตุลาคม รวมทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบ ตำรวจภาค 7 ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการทำคดีนี้ แต่สำหรับในวันนี้เราได้เตรียมพยานมาเพียงแค่ปากเดียว คือปากของนายแผน ที่เป็นโจทก์ ส่วนทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ เราจะต้องรอส่งหมายเรียกไป เพื่อที่จะเชิญให้เขามาเป็นพยานให้เรา

 

 สำหรับพยานที่เป็นแม่ค้าส่วนใหญ่จะเป็นพยานที่เห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงในวันนั้น จะได้แสดงให้ศาลเห็นว่าสิ่งที่ทางนายแผนได้พูด มันเป็นความจริงที่เขาได้รู้เห็นมาจริงๆ โดยไม่ได้มีการสร้างเรื่องหรือมะโนขึ้นมา

 

 ด้านนายธนุกร เหลืองใหม่เอี่ยม หรือนายแผน ให้สัมภาษณ์ว่าตนไม่เคยพูดว่าเห็นหมวดจรูญก้มเก็บหวย และไม่เคยมีอยู่ในสำนวนทั้งในกองปราบ และภาค 7 ตนไม่ทราบว่าหมวดจรูญ ไปแจ้งว่าผมเห็นคนก้มเก็บหวยได้อย่างไร ผมไม่เข้าใจ

 

 และผมก็เป็นเพียงพยานคนหนึ่ง ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจตามหาผม ซึ่งผมก็ออกไปเปิดเผยข้อเท็จจริง แต่ทำไมผมต้องกลับมาเป็นจำเลย แล้วต่อไปจะมีใครกล้ามาเป็นพยาน เพราะว่าเราเห็นอย่างไรเราก็พูดไปอย่างนั้น แต่เราต้องกลับมารับโทษตรงนี้

 

 ซึ่งผมก็ต้องมาใช้สิทธิ์ของผม เพราะผมต้องตกเป็นจำเลยของสังคมด้วย และเป็นจำเลยในคดีด้วย และประชาชนก็ด่าผมไปทั่วทั้งประเทศ ทั้งๆที่ผมไม่ได้รู้จักกับใครเลย แต่เพิ่งมารู้จักตอนถูกดำเนินคดีนี่เอง ซึ่งข้อเท็จจริงเป็นอย่างไรผมก็พูดไปตามนั้น

 

 และผมก็ไม่เคยเสนอตัวเข้ามาเป็นพยาน แต่เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ มาเชิญผมและเตรียมจะออกหมายเรียกแล้ว ดังนั้นตนก็เลยจำเป็นต้องออกมา แต่เมื่อออกมาแล้วผมต้องมาโดนอย่างนี้ ให้ข้อเท็จจริงตรงนี้ ยังมีคนเห็นอีกเยอะแต่เขาไม่กล้าออกมา เพราะทุกคนกลัวว่าต้องมาตกเป็นจำเลยแบบผม แต่ก็บอกให้รอดูก่อนว่ามันจะเป็นอย่างไร ผมถึงต้องมาขอใช้สิทธิ์ตรงนี้บ้าง

 

ด้านนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม เปิดเผยว่า วันนี้มาในคดีที่นายแผน ฟ้องคุณลุงจรูญ ซึ่งก่อนตอนนี้คุณลุงจรูญได้ดำเนินคดีกับนายแผนที่กองปราบ ในการให้การเท็จ และครั้งนี้นายแผน ก็ร้องว่าคุณลุงจรูญ แจ้งความเท็จ กลั่นแกล้งให้นายแผน ต้องรับโทษทางอาญา ซึ่งวันนี้ศาลได้มีการกำหนดไต่สวนมูลฟ้องตอน .

 

ผู้สื่อข่าวถามว่า ที่ผ่านมาในแผนบอกว่าไม่เคยรู้จักคุณลุงจรูญ รวมทั้งฝ่ายครูปรีชา และแม่ค้า รวมทั้งไม่เคยให้การว่า เห็นคนก้มเก็บหวยมาก่อน แต่เขาต้องมาตกเป็นจำเลย เรื่องนี้ทนายตั้มมองอย่างไร” ทนายตั้ม ตอบว่า ดูการให้สัมภาษณ์ของเขาที่ออกสื่อก่อนที่จะมีการสืบพยาน แล้วก็จากการที่เขาไปให้การกับ ภาค 7 และที่นายแผนได้มาให้การในชั้นศาล ซึ่งเราเห็นข้อแตกต่างเดี๋ยวเราคงจะนำเสนอส่วนนี้ให้กับศาลท่านพิจารณาว่าใครกันแน่ที่ให้การไม่เคยตรงกันเลย

 

ผู้สื่อข่าวถามว่า จากการที่มีข่าวปรากฏตามสื่อว่า ทนายความของครูปรีชาพบหลักฐานใหม่ เป็นคลิปวีดีโอจากกล้องวงจรปิด ที่ชี้ชัดว่าครูปรีชาอยู่ในตลาดเรดซิตี้ในวันที่ 31 ต.ค.60 และจะฟ้องเพิ่มอีก 1 คดี ตรงนี้ทนายตั้มมองว่าอย่างไร”ทนายตั้มตอบว่า ผมก็ยังงงอยู่ว่า จะยื่นหลักฐานใหม่ได้อย่างไร เพราะการอุทธรณ์ต้องใช้พยานหลักฐานที่ว่ากล่าวมาแล้วตั้งแต่ศาลชั้นต้น ส่วนหากจะมีการฟ้องเป็นคดีใหม่ ในประเด็นที่โต้เถียงกันเรื่องกรรมสิทธิ์ในลอตเตอรี่ ก็จะเป็นการฟ้องซ้อน ศาลท่านก็ไม่รับพิจารณาอยู่แล้ว

 

หากมีกล้องวงจรปิดที่สามารถยืนยันว่าครูปรีชาอยู่ตลาดเรดซิตี้ ในวันที่ 31 ตุลาคม 2560 ทำไมถึงเก็บเอาไว้จนศาลมีคำพิพากษาไปแล้ว จึงนำออกมา ซึ่งก่อนหน้านี้ทั้งผมและกองปราบก็ยืนยันมาตลอดว่าครูปรีชาไม่ได้ไปตลาดเรดซิตี้ ในวันที่ 31 ต.ค.60 ทำไมไม่เอาบันทึกกล้องวงจรปิดออกมาเพื่อหักล้างหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ของตำรวจกองปราบ

 

อยากฝากครูปรีชาว่า อีกไม่กี่วันกองปราบอาจจะสรุปสำนวนมีความเห็นสั่งฟ้องคดีที่ครูปรีชากับพวกโดนแจ้งข้อกล่าวหาให้การเท็จแล้ว ควรจะนำบันทึกกล้องวงจรปิดซึ่งเป็นหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่กล่าวอ้าง ไปให้ตำรวจกองปราบเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตัวเองด้วย

 

 ผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีที่นายแผนฟ้องหมวดจรูญในครั้งนี้ ทนายความแจ้งว่ามีพยานมากถึง 10 ปาก คิดว่าคดีนี้จะยืดเยื้อออกไปหรือไม่” ทนายตั้มตอบว่า ไม่ยืดเยื้อเดี๋ยวศาลท่านคงจะไต่สวนมูลฟ้องดูว่ามีมูลหรือไม่มีมูล แต่ทางเราก็ค่อนข้างจะมั่นใจว่าน่าจะตีตกไปตั้งแต่ตอนนี้

 

 เพราะการที่คุณลุงไปแจ้งความ คุณลุงไปแจ้งความตามสิทธิ์ ซึ่งก็ได้ไปเล่าถึงพฤติการณ์ของนายแผนว่า นายแผนมีพฤติกรรมอย่างไร ส่วนการจะปรับเข้ากับข้อกฎหมายว่านายแผนมีความผิดหรือไม่ มันเป็นหน้าที่ของพนักงานสอบสวน ไม่ใช่หน้าที่ของคุณลุงจรูญ

 

 ผู้สื่อข่าวถามว่า คดีของอดีต ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี ที่กองปราบมีความคืบหน้าไปถึงไหนแล้ว” ทนายตั้มตอบว่า คดีนี้ทราบว่ากองปราบยังไม่มีความเห็น ยังไม่รู้ว่าจะออกไปในแนวทางไหน ถ้าเกิดทางกองปราบมีความเห็นสั่งไม่ฟ้อง ทางเราก็คงจะเสียใจเหมือนกัน./






Recommend News





MOST POPULAR


























©2018 ONBNEWS. All rights reserved.