ไม่อยู่แล้ว ! พระรุ่นพี่ "พระอาจารย์สุนิตร" เจ้าของสำนักสร้างโลงแก้วเตรียมละสังขาร หลังโดนทวงที่ดินคืน
10 พ.ย. 2564, 11:08
วันนี้ (9 พ.ย.64) เวลา 17.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่สวนป่าสามัคคีธรรม บ้านวังแข้ ต.โนนทองอินทร์ อ.กู่แก้ว จ.อุดรธานี เกิดเรื่องวุ่นๆ เกิดขึ้น เมื่อชาวบ้านที่บ้านวังแข้ ต.โนนทองอินทร์ ได้นำรถปิคอัพ รถอีแต๋น เข้าไปที่สวนป่าสามัคคีธรรม เพื่อขนย้ายอิฐ หิน ต้นไม้ พระพุทธรูปและสิ่งของอีกหลายอย่าง ออกจากสวนธรรมดังกล่าว หลังจากเมื่อเช้าตรู่วันนี้พระปรกกโมภิกขุ หรือพระติ่ง พระภิกษุที่จำพรรษาที่สวนป่าสามัคคีธรรมแห่งนี้ได้ขอย้ายออกจากสวนธรรมกลับไปที่อ.หนองเรือ จ.ขอนแก่นบ้านเกิด แต่ขณะที่ที่ชาวบ้านกำลังขนสิ่งของออกจากสวนธรรมแห่งนี้ ปรากฏว่าเจอเจ้าของที่ดินขวาง คือนายประสิทธิ์ อายุ 60 ปี โยมพ่อของพระอาจารย์สุนิตรเจ้าของสำนักสร้างโลงแก้วเพื่อเตรียมละสังขาร แจ้งตร.มาตรวจสอบ จนชาวบ้านไม่กล้าขนย้ายสิ่งของออกจากสวนธรรมแห่งนี้
ต่อมาตร.สภ.กู่แก้วได้เข้าไปพูดคุยกับชาวบ้าน แต่ยังไม่ได้ข้อยุติ กลัวเจ้าของที่ดินหักหลังแจ้งความดำเนินคดีจึงแจ้งให้ผู้สื่อข่าวไปเป็นสักขีพยานด้วย นายประสิทธิ์ พ่อของพระอาจารย์สุนิตรและชาวบ้านได้พูดคุยกัน โดยนายประสิทธิ์ แจ้งกับชาวบ้านว่า ที่แจ้งตร.มาเพื่อมาเป็นพยาน หากมีคนอื่นมาร้องเรียนตนเองว่าซื้อสิ่งของมาทานวัดแต่ทำไมให้ชาวบ้านไป จึงต้องเรียกตร.มาเป็นพยาน ไม่ได้มาให้ ตร.มาคุกคามหรือจะแจ้งความดำเนินคดีแต่อย่างใด แต่ชาวบ้านบอกว่าไม่มั่นใจกลัวนายประสิทธิ์หักหลังและไปแจ้งความว่าพวกตนเองมาบุกรุกเอาสิ่งของที่สวนธรรมแห่งนี้
นางเดือนฉาย อายุ 53 ปีชาวบ้าน เปิดเผยว่า วันนี้พวกตนเองได้นำรถมาขนย้ายหินปูนทรายออกจากสวนธรรมแห่งนี้เพราะพระติ่ง ท่านไม่อยู่แล้ว กลับไปที่วัดในอ.หนองเรือ จ.ขอนแก่น เมื่อพระที่พวกเรา เคารพนับถือไม่อยู่ สิ่งของที่พวกตนมาเอาวันนี้เพื่อมาเอาหิน ทราย ต้นไม้ที่ร่วมบริจาคทำบุญเพื่อจะสร้างห้องน้ำและบูรณะสวนธรรม เตรียมไว้สวดมนต์ปฏิบัติธรรมในวันปีใหม่ ซึ่งถือเป็นทรัพย์สินที่พวกตนบริจาคมา ในเมื่อพระติ่งไม่อยู่พวกตนก็จะนำไปถวายที่วัดในหมุ่บ้าน แต่พอพวกตนจะขนออกจากที่แห่งนี้ ปรากฏว่า เจ้าของที่ดินได้โทรแจ้งตร.สภ.กู่แก้วเข้ามา และบอกพวกตนว่า หยุดๆ ห้ามขนอะไรออกจากที่ตรงนี้ ไปไม่ได้มีความผิด ทำให้พวกตนเองกลัว
นางเดือนฉาย บอกอีกว่า พระติ่งไม่มีความผิดอะไรเลยที่ถูกไล่ออกจากสวนธรรมแห่งนี้ แต่พระติ่งออกจากสวนธรรมแห่งนี้เพราะท่านรู้สึกไม่ปลอดภัยหากอยู่ที่สวนธรรมแห่งนี้ต่อไป รู้อยู่ว่าพระติ่งกับพระสุนิตรเป็นพระรุ่นพี่รุ่นน้องกัน แต่สาเหตุจริงๆ ที่ถูกไล่ออกจากสวนธรรมแห่งนี้รู้มาว่าเพราะพ่อประสิทธิ์ พ่อของพระอาจารย์สุนิตรอยากได้ที่ดินตรงนี้คืนไว้ให้ลูก หลังจากพระสุนิตรมีเรื่องมีราวการสร้างโลงแก้วเพื่อละสังขาร และพระติ่งโดนร้องเรียนจากพระอีกวัด ว่าเปิดเพลงธรรมเสียงดัง วันนี้พวกเราตกใจมากเห็นตร.มาบอกให้หยุดๆ ห้ามขนย้าย และอยากให้นักข่าวมาเป็นสักขีพยานไม่ได้บุกรุกแน่นอน หากพระอาจาย์สุนิตรมาอยู่ที่นี่กลัวมีเรื่องราวสร้างโลงแก้วอีกจะต่อต้านทันที
แต่ก่อนรู้มาว่าพระติ่งกับพระอาจารย์สุนิตรเคยอยู่ที่สวนธรรมแห่งนี้ด้วยกัน เมื่อ 8 เดือนที่แล้วผิดใจกันพระสุนิตรก็ย้ายไปที่สำนักสงฆ์ซำป่าหันจนมีเรื่องสร้างโลงแก้วละสังขาร ส่วนสาเหตุที่พระสองรูปแยกกันอยู่รู้มาว่าพระติ่งเตือนสติเรื่องที่พระสุนิตรใกล้ชิดกับสีกาบ่อยทำให้พระสุนิตรไม่พอใจขอย้ายไปที่อื่น ชาวบ้านกล่าวตอนท้าย
ทางด้านนายประสิทธิ์ อายุ 60 ปี พ่อของพระอาจารย์สุนิตรและอ้างเป็นเจ้าของที่ดินสปก.ผืนนี้กว่า 30 ไร่ เปิดเผยว่า พระติ่งเป็นพระอาจารย์ของพระลูกชาย ถือว่าสนิทกันมาก เมื่อ 1 ปีที่แล้วพระลูกชายชวนพระติ่งจากอ.หนองเรือมาอยู่ที่ตรงนี้ ซึ่งเป็นที่ดินของตนเองและร่วมสร้างสวนปฏิบัติธรรม แต่มาระยะหลังปรากฏว่าไม่ถูกคอกัน พระอาจารย์สุนิตรก็ไปจำพรรษาที่พักสงฆ์ซำป่าหันจนมีเรื่องสร้างโลงแก้วละสังขาร ส่วนพระติ่งยังอยู่ที่สวนธรรมแห่งนี้ และได้รับการร้องเรียนว่าเปิดเพลงเสียงธรรม และมีเจ้าคณะอำเภอมาพูดคุยด้วยสุดท้ายท่านก็ตัดสินใจไปที่วัดอ.หนองเรือ จ.ขอนแก่น
จริงๆ แล้วที่ดินตรงนี้เป็นที่ตนเอง ก็อยากเอาไว้ให้พระลูกชาย หลังจากเกิดเรื่องสร้างโลงแก้วตอนนี้พระอาจารย์สุนิตรไปอยู่ที่วัดอนาญโยภูค้อ อ.วังสามหมอ ตนเองตั้งใจจะนิมนต์พระลูกชายมาอยู่ที่ดินตรงนี้เพราะเป็นที่อยากยกให้พระลูกชาย แต่จะกับพระลูกชายห้ามมีเรื่องสร้างโลงแก้วละสังขารหรือลัทธิความเชื่อที่ผิดแผกจากพระพุทธศาสนาอีกก ตอนนี้ทราบจากเจ้าอาวาสฯ ที่อ.วังสามหมอ ท่านไปอยู่ที่นั่นนิ่ง ปกติดีทุกอย่าง อยากให้พระลูกชายมาอยู่ที่ตรงนี้เพราะตอนนี้มีลูกชายคนเดียวและจะไม่ให้ไปยุ่งเกี่ยวกับลัทธิสร้างโลงแก้วละสังขารอีกแน่นอน นายประสิทธิ์กล่าวตอนท้าย