อุทยานฯ ปลูกป่า หลังรื้อถอนบ้านพักหรู เตรียมรื้อ รีสอร์ท 30 ล้าน ริมอ่างเก็บน้ำเขื่อนศรีนครินทร์
11 พ.ย. 2564, 15:42
ตามนโยบาย ทส.ยกกำลังเอกซ์ ของ นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวง นายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานฯ ให้ดำเนินการปราบปรามขั้นเด็ดขาดกับนายทุนผู้บุกรุกป่า แล้วยึดคืนมาฟื้นฟูเป็นป่าธรรมชาติดังเดิม
วันนี้ 11 พ.ย.64 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า นายนิพนธ์ จำนงสิริศักดิ์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) นางคณิสรา เชฐบัณฑิตย์ ผู้อำนวยการส่วนอุทยานแห่งชาติ นายยุทธพงค์ ดำศรีสุข หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ และเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ พร้อมปลัดอาวุโส อำเภอศรีสวัสดิ์ และผู้นำชุมชน ได้เข้าดำเนินการปลูกป่า จำนวน 2 ไร่ ในพื้นที่รื้อถอนบ้านพักตากอากาศหรูคู่แฝดจำนวน 2 หลัง มูลค่า 5 ล้านบาท ของ นายเชิดชู ทองชีวงค์ กับพวกรวม10 คน ที่ได้ปลูกสร้างคร่อมลำธาร บุกรุก ยึดถือครอบครอง ในเขตอุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์โดยไม่ได้รับอนุญาต บริเวณป่าบ้านแม่กว้า หมู่ที่ 1 ตำบลแม่กระบุง อำเภอศรีสวัสดิ์ จังหวัดกาญจนบุรี
ต่อมาหัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ ได้แจ้งความส่งดำเนินคดีต่อพนักงานสอบสวน สภ.ศรีสวัสดิ์ และได้มีคำสั่งให้รื้อถอนบ้านพักตากอากาศหรูดังกล่าว นายเชิดชู ทองชีวงศ์ กับพวกรวม 10 คน ก็ได้ยินยอมรื้อถอนด้วยตนเอง โดยได้นำคนงาน และเครื่องจักรเข้ามาทุบรื้อถอนตัวอาคาร และใช้รถแบคโฮ ตักซากอาคาร ใส่รถสิบล้อขนออกจากนอกพื้นที่ไปจนหมดตั้งแต่วันที่ 8 ต.ค.-8 พ.ย.64 ซึ่งใช้เวลารื้อถอนบ้านพักตากอากาศหรูคู่แฝดหรูภายใน 1 เดือน วันนี้คณะเจ้าหน้าที่จึงได้นำพื้นที่ดังกล่าว ที่ยึดคืนมาได้นำมาปลูกป่า ภายใต้โครงการปลูกป่าเพื่อการอนุรักษ์ฟื้นฟูป่าต้นน้ำ ป่าชายเลน และป้องกันไฟป่า โดยการปลูกไม้ป่า อันได้แก่ มะค่าโมง ประดู่ป่า ยางนา ตะแบก จำนวน 200 กล้า เพื่อฟื้นฟูสภาพป่าให้เป็นแหล่งต้นน้ำที่อุดมสมบูรณ์ของประชาชนทุกคน
หลังจากนั้น นายนิพนธ์ จำนงสิริศักดิ์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) นายคณิสรา เชษฐบัณฑิตย์ ผู้อำนวยการส่วนอุทยานแห่งชาติ นายยุทธพงศ์ ดำศรีสุข หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ และเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ ได้เดินทางไปตรวจสอบ "สวนพิศตะวันรีสอร์ท" ซึ่งเป็นรีสอร์หรูขนาดใหญ่ ราคา 30 ล้านบาท เพื่อเตรียมรื้อถอน ทุบทิ้ง ให้พ้นจากเขตอุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์
สำหรับสาเหตุของการรื้อถอน ทุบทิ้ง รีสอร์ทดังกล่าว สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 2557 คณะเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมกันออกปราบปรามการกระทำผิดกฎหมายว่าด้วยการป่าไม้ ภายในเขตอุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ในเขตท้องที่ป่าท่าแพขนานยนต์ หมู่ที่ 6 ตำบลด่านแม่แฉลบ อำเภอศรีสวัสดิ์ พบบ้านพักตากอากาศชื่อ พิศตะวันรีสอร์ท อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์
โดยมี นายสมภพ มีชูเวท เป็นผู้ครอบครอง เจ้าหน้าที่ตรวจวัดพื้นที่รอบแปลงด้วย GPS คำนวณเนื้อที่ได้ 20 ไร่ พบสิ่งปลูกสร้างลักษณะรีสอร์ทขนาดใหญ่ จำนวน 17 รายการ ราคา 30 ล้านบาท อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ จึงได้แจ้งความ นายสมภพ มีชูเวศ เจ้าของรีสอร์ท มีความผิดฐาน บุกรุก ยึดถือครอบครองที่ดินในเขตอุทยานแห่งชาติโดยมิได้รับอนุญาต ต่อพนักงานสอบสวน สภ.ด่านแม่แฉลบ
ต่อมาคดีอาญาอัยการจังหวัดกาญจนบุรีมีคำสั่งไม่ฟ้องผู้ต้องหา เพราะขาดเจตนา กรมอุทยานฯได้ฟ้องแพ่งเรียกค่าเสียหาย 954,307 บาท ต่อมา นายสมภพ มีชูเวท ถึงแก่ความตาย และได้มี นางพิศมัย มีชูเวท เป็นผู้จัดการมรดกแทน โดยพนักงานอัยการจังหวัดกาญจนบุรี ได้ยื่นฟ้อง นางพิศมัย มีชูเวท ผู้จัดการมรดก เป็นคดีความแพ่ง คดีหมายเลขดำที่ 96/2561 เมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2561ในระหว่างการพิจารณาของศาล นางพิศมัย ได้ขอเจรจาไกล่เกลี่ยชดใช้ค่าเสียหายในการบุกรุกป่าให้กรมอุทยานฯ เป็นเงิน 600,000 บาท และผ่อนชำระเดือนละ 10,000 บาท เป็นเวลา 5 ปี ตามคำพิพากษาในคดีหมายเลขแดงที่ 960/2561 ลงวันที่ 21 สิงหาคม 2561
สำหรับคดีทางปกครอง หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ ได้ออกคำสั่งที่ 71/2557 ลงวันที่ 10 ตุลาคม 2557 ให้ผู้กระทำผิดทำลายหรือสิ่งปลูกสร้าง พืชผลอาสิน หรือสิ่งอื่นใดที่ผิดไปจากสภาพเดิมออกไปให้พ้นอุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ หรือทำให้สิ่งนั้นกลับสู่สภาพเดิมแล้วแต่กรณี ภายในวันที่ 17 พฤศจิกายน 2557 ตามความมาตรา 22 แห่งพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ.2504 และมีหนังสือแจ้งเตือนให้ผู้กระทำผิดรื้อถอน ฉบับลงวันที่ 10 ตุลาคม 2557 ต่อมาผู้กระทำผิดได้ยื่นฟ้องศาลปกครองกลาง โดยมีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เป็นผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 และหัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2 ในคดีหมายเลขดำที่ ส.14/2558 โดยศาลปกครองกลางได้มีคำพิพากษา ลงวันที่ 23 กันยายน 2564 ในคดีหมายเลขแดงที่ 154/2560 โดยศาลปกครองมีคำพิพากษา ให้รื้อถอนรีสอร์ทดังกล่าวได้ โดย นางพิศมัย มีชูเวท ผู้จัดการมรดก ไม่ได้อุทธรณ์ คดีปกครองถึงที่สุด
คณะเจ้าหน้าที่ จึงได้เดินทางมาดูรีสอร์ทขนาดใหญ่สุดหรูดังกล่าว เพื่อเตรียมรื้อถอน ทุบทิ้ง รีสอร์ทดังกล่าว และนำพื้นที่ที่ได้ยึดคืนมา จำนวน 20 ไร่ มาฟื้นฟูสภาพป่าเพื่อเป็นมรดกของลูกหลานชาวไทยเพื่อส่วนรวมต่อไป