"2แม่ลูก" โร่แจ้งความ หลังถูกแฮกเฟซบุ๊ก - ขู่กรรโชกทรัพย์
13 พ.ย. 2564, 13:31
จากกรณีที่ผู้ใช้เฟชบุ๊กชื่อ นิตยา น้อยล้ำ ได้โพสต์ข้อความลงใน กลุ่มสื่อสระบุรี โดยมีข้อความว่า ไอ้เ_ณหาแ_กกันแบบนี้ ขอแจ้งนะคะ เฟสชมพู่ ได้โดนแฮกเฟซบุ๊ก และได้ทักไปขอยืมเงิน โดยใช้ชื่อบัญชี นาย ก ธ.กสิกรไทย เลขบัญชี xxxxxxxxxx # ได้เข้าแจ้งความและลงบนทึกประจำวันไว้แล้ว #จังไรจิงๆคนแบบนี้ #น่าจะเกิดมาเป็นตัวเหี้_ ไม่น่าเกิดมาเป็นคน
วันที่ 13 พ.ย.64 ผู้สื่อข่าวได้เดินทางมาพบ นางนิตยา อายุ 47 ปี และนางสาวชมพู่ (นามสมมติ) อายุ 17 ปี 2 แม่ลูกซึ่งเดินทางมาแจ้งความกับ ร.ต.อ.โชติสว่าง สิงห์สีโว พนักงานสอบสวน สภ.แก่งคอย อ.แก่งคอย จ.สระบุรี เพื่อดำเนินคดีกับ นาย ก ผู้แฮกข้อมูลเฟซบุ๊ก โดยนางสาวชมพู่ เล่าว่า เฟสบุ๊ก ของตนได้ถูกปิดไปแล้วประมาณ 1 เดือนที่ผ่านมา เนื่องจากว่าตนเองทำผิดกฎของผู้ใช้เฟสบุ๊ก จากนั้นเฟซบุ๊กของตนที่ถูกปิดได้ ซึ่งตนเองได้พยายามกู้ขึ้นมา แต่ไม่สามารถกู้ขึ้นมาได้ จากนั้นโปรไฟล์ของตนที่ถูกปิดได้เด้งขึ้นมาในกลุ่มเพื่อนๆ ทั้งที่ยังถูกปิดอยู่ ตนจึงทราบว่าเฟซบุ๊กของตนถูกแฮก จากนั้นได้นำเครื่องของแม่ตนขึ้นมาทักหา ผู้ใช้เฟซบุ๊กดังกล่าวได้ตอบกลับมา และกลับบล๊อกทั้งหมดเลย ตนจึงได้เปลี่ยนมาชื่อของลุงกลับไปอีกครั้ง กับเฟซบุ๊กเดิมของตนเอง โดยพูดว่าขอแลกรหัส ได้ไหม จะเรียกเงินเท่าไรว่ามา ตนได้รับคำตอบกลับมาว่า ถ้าอยากได้รหัส ต้องจ่ายเงิน 5,000 บาท ตนจึงบอกขอเลขบัญชี เพื่อที่จะได้โอนเงินเข้าไปให้ จากนั้นผู้แฮกเฟซบุ๊ก ก็ได้ส่งเลขบัญชีมาให้ พร้อมชื่อในการโอน โดยเป็นเลขบัญชี ธนาคารกสิกรไทย ชื่อนาย ก ซึ่งตนได้ขอต่อรองเหลือ 3,000 บาทได้ไหม ซึ่งปลายทางได้ตอบกลับมาว่าอย่ามาไร้สาระ มาลองดูกันก็ได้ว่าใครจะเจ๋งกว่ากัน ซึ่งตนก็ยังไม่ได้โอนเงินไปให้ และเกรงว่าจะถูกนำเฟสของตนไปยืมเงินใครบ้างหรือเปล่า เกรงว่าจะได้รับความเสียหาย ซึ่งทางผู้แฮกเฟสบุ๊กยังขู่กลับมาว่าถ้าไม่โอนเงินไปให้ จะทำให้ของมูลของตนเสียหายทั้งหมด จึงได้ชวนแม่พามาแจ้งความไว้เป็นหลักฐาน
ทางด้านนางนิตยา ผู้เป็นแม่ของนางสาวชมพู่ เผยว่า ตนเองไม่เข้าใจว่า ทำไมผู้แฮกเฟซบุ๊กไป ต้องมาขู่กรรโชกเด็กด้วย เนื่องจากลูกสาวตนเองอายุยังน้อยอยู่ เกรงว่าจะทำให้เสื่อมเสีย แถมยังมีการท้าทายกลับมาว่า ดูกันว่าใครจะเจ๋งกว่ากัน ซึ่งตนเกรงว่าลูกสาวจะไม่ปลอดภัย ซึ่งเฟสของลูกสาวตนมีเพื่อเยอะ กลัวว่าจะไปหลอกยืมเงินเพื่อนๆ ทำให้เสียชื่อเสียง และเสียหายได้ ซึ่งตนเองต้องการเจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งดำเนินคดี และจับกุมตัวผู้แฮกเฟซ ให้โดยเร็ว เนื่องจากในพื้นที่ อำเภอแก่งคอย มีคนถูกแฮกข้อมูลไปหลายรายแล้ว โดยเรียกเงิน เพื่อแลกกับรหัส เป็นจำนวนมาก บางคนโดนเรียกถึง 10,000 บาท ซึ่งตนมองดูแล้วเป็นภัยต่อสังคมอย่างมาก จึงอยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจบตัวมาดำเนินคดีโดยเร็ว แต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกลับตอบกลับมาว่า ไม่น่าจะจับได้ เนื่องจากเป็นข้อมูลที่มีการส่งต่อๆกันมา แต่ถ้าลูกของตนถูกคุกคามตามที่ถูกขู่เอาไว้ ตนเองก็ไม่รู้จะทำอย่างไร เพราะว่ามองดูแล้วพึ่งใครไม่ได้เลยตอนนี้ ตนจึงได้มาร้องสื่อ เพื่อนำเสนอข่าว เกรงว่าจะเป็นภัยต่อสังคม