โฆษกรัฐบาล เผย นายกฯพอใจฉีดวัคซีนนักเรียนแล้วเกือบ 90% รับเปิดเทอม 15 พ.ย.นี้
14 พ.ย. 2564, 16:50
วันที่ ( 14 พ.ย.64 ) นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผย ความคืบหน้าของเด็กนักเรียนที่ฉีดวัคซีนในประเทศในขณะนี้ พบว่า มีนักเรียนที่ประสงค์ฉีดวัคซีน จำนวน 3,917,736 คน ฉีดวัคซีนเข็มที่ 1 แล้ว 3,423,581 คน คิดเป็น 87.39% และฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 แล้ว 640,731 คน คิดเป็นร้อยละ 16.35% โดยจำนวนนักเรียนที่ฉีดวัคซีนครบ 2 เข็มแล้ว จำแนกตามรายภาค ได้แก่ ภาคอีสานฉีดได้ 242,920 คน ภาคกลาง 161,657 คน ภาคใต้ 99,424 คน ภาคตะวันออก 50,094 คน ภาคเหนือ 49,280 คน และภาคตะวันตก 37,338 คน สำหรับความคืบหน้าการฉีดวัคซีนให้ครูและบุคลากรทางการศึกษา ฉีดวัคซีนเข็มที่ 1 แล้ว 837,392 ราย ฉีดเข็มที่ 2 แล้ว 594,893 ราย และยังไม่ได้ฉีด 56,995 ราย
นายธนกร ยังชี้แจงว่า ยอดเปอร์เซ็นต์การฉีดวัคซีนของนักเรียนที่ทยอยปรับตัวสูงขึ้นทั้งที่มีการดำเนินการฉีดวัคซีนอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากมีจำนวนนักเรียนแจ้งความประสงค์ที่จะฉีดวัคซีนเพิ่มทุกวันในช่วงท้ายนี้ เพิ่มมากขึ้น ราว 50,000 คน หากดำเนินการฉีดวัคซีนได้ด้วยความเร็วเช่นนี้ต่อไป มั่นใจว่า ภายในวันที่ 15 พฤศจิกายนนี้ ตัวเลขนักเรียนที่ฉีดวัคซีนแล้ว น่าจะแตะเกือบ 90%
นายธนกร กล่าวต่อว่า ปัจจัยสำคัญที่ทำให้เปิดการเรียนการสอนได้ คือ 1. การฉีดวัคซีน ซึ่งเปรียบเสมือนเป็นการเสริมเกราะป้องกันตัว และ 2. การตรวจด้วย Antigen Test Kit (ATK) ที่ทำให้ลดการแพร่เชื้อสู่ผู้อื่นได้ด้วยการตรวจหาเชื้อที่รวดเร็ว ล่าสุด รัฐบาลโดยสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) มอบชุดตรวจ ATK สำหรับตรวจคัดกรองโควิด-19 จำนวนกว่า 46,000 ชุดแล้ว แก่โรงเรียนสังกัด กทม. จำนวน 437 แห่ง ที่มีความพร้อมในการเปิดการเรียนการสอนแบบ On-Site ในวันที่ 15 พ.ย. นี้ ยืนยัน หากคัดกรองแล้วพบผลเป็นบวก ระบบสาธารณสุขของเรามีความพร้อมในการรักษาให้หายได้อย่างแน่นอน
“รัฐบาลได้ดำเนินการเป็นอย่างดีในการเพิ่มความพร้อม ความมั่นใจให้กับนักเรียน ผู้ปกครอง และบุคลากรทางการศึกษาในการเปิดการเรียนการสอนที่จะถึงนี้ เพื่อให้สอดคล้องนโยบายของรัฐบาลที่กำลังเดินหน้าไปด้วยดี ทั้งการเปิดประเทศ ผ่อนคลายให้ธุรกิจ กิจการ กลับมาเปิดเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม ท่านนายกรัฐมนตรียังย้ำให้สถานประกอบการ ผู้ประกอบการ และประชาชน ยังต้อง ‘ตั้งการ์ดสูง’ เข้มงวดมาตรการป้องกันโรค สวมหน้ากาก เว้นระยะห่าง เข้ารับการฉีดวัคซีนด้วยความสมัครใจ ก็ยังคงเป็นหัวใจสำคัญที่สุด ซึ่งจะช่วยลดการติดเชื้อและแพร่เชื้อได้” นายธนกร กล่าว