จากกรณีกลุ่มผู้ชุมนุม ได้มีการนัดหมายชุมนุมใหญ่ ในช่วงบ่าย 15.00 น.ของวันที่ (14 พ.ย.)  ที่บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ถนนราชดำเนิน และจะมีการเคลื่อนขบวนไปยังบริเวณท้องสนามหลวง เพื่อชุมนุมเรียกร้อง และคัดค้านคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญเมื่อวันที่ 10 พ.ย. ว่าไม่ใช่การล้มล้างการปกครอง ซึ่งช่วงบ่ายก่อนผู้ชุมนุมได้เดินทางไปรวมตัวพบว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ปิดการจราจรที่แยกสะพานผ่านฟ้าฯ  ทางผู้ชุมนุมจึงนัดหมายรวมตัวกันที่แยกปทุมวัน

 

ต่อมาเมื่อช่วงเวลา 16.50 น. ผู้ชุมนุมได้ประกาศเคลื่อนขบวนจากแยกปทุมวันไปยังสถานทูตเยอรมนี โดยท้ายขบวนยังอยู่ที่แยกปทุมวัน  จนกระทั่งเวลาประมาณ 18.15 น. กลุ่มผู้ชุมนุมได้เดินทางมา ถึงบริเวณหน้าสถานเอกอัครราชทูตเยอรมนี ประจำประเทศไทย และมีการส่งตัวแทนเข้าไปยื่นหนังสือต่อสถานทูตฯ เพื่อแสดงความไม่เห็นด้วยต่อการวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ในคดีล้มล้างการปกครอง เมื่อวันที่ 10 พ.ย.ที่ผ่านมา โดยได้ส่งตัวแทนเข้าไปยื่นหนังสือภายในสถานทูตเป็นเวลาประมาณ 30 นาที

หลังจากนั้นตัวแทนได้กลับออกมาในเวลา 18.45 น.และประกาศว่าทางทูตเยอรมนีรับเรื่องไว้แล้ว ซึ่งแกนนำได้ขอให้ผู้ชุมนุมแยกย้ายกลับ เพื่อความปลอดภัย และได้ประกาศยุติการชุมนุมในเวลา 18.50 น.เนื่องจากมีผู้ชุมนุมได้รับบาดเจ็บจากการถูกยิงในระหว่างการเคลื่อนขบวนมายังสถานทูตฯ