นางชมภู บุญชู อายุ 39 ปี และหลานสาวที่ดูแล ผู้ป่วย นายทวนไทย  บอกกับผู้สื่อข่าวว่า หลังจากโรงพยาบาลจอมพระ ได้ให้น้าชาย กลับมารักษาตัวที่บ้านก็ประสบกับปัญหายากลำบากเนื่องจากฐานะทางบ้านยากจน ไม่มีเครื่องที่จะใช้ดูดเสมหะที่คอ ต้องใช้ไซริ่งค์แบบลูกบอลดูดเสมหะ แต่ดูดไม่ค่อยจะออก ประกอบกับต้องเปลี่ยนสายยางที่ใช้สำหรับให้อาหารเหลว ก็ต้องพาไปเปลี่ยนที่โรงพยาบาลจอมพระ ประสบปัญหาความลำบากเป็นอย่างมากไหนต้องชื้อนม ซื้ออุปกรณ์ดูดเสมหะ ครอบครัวของตนเองก็ลำบากสามีก็ไม่มีงานทำตนเองก็ไม่มีงานทำต้องมาดูแลผู้ป่วยทั้งสองคน ทั้งน้า และแม่ตนเองที่ป่วยด้วยโรคมะเร็งที่มดลูก ตนเองและอยากได้เครื่องดูดเสมหะ เพราะเสมหะเยอะ ผู้ป่วยหายใจไม่สะดวก เพราะตอนอยู่โรงพยาบาลเขามีเครื่องดูดเสมหะ และไซริ่งค์บอล ตัวดูดที่ซื้อมา ดูดเสมหะไม่ค่อยออก

ขณะที่ นางอรนุช อายุ 59 ปี อยู่ติดกับบ้านนายทวนไทย และมีศักดิ์เป็นพี่สาวของนายทวนไทย นางอรนุช ป่วย เป็นโรคมะเร็งมดลูกระยะสุดท้าย นอนซมอยู่ที่แค่ร์ไม้ผไผ่หน้าบ้าน นางอรนุช บอกว่าตนเองป่วยปวดท้อง ไปหาแพทย์ แพทย์ บอกว่ามีก้อนเนื้อ ไปทับท่อปัสสาวะแตก ต้องเจาะท้องด้านข้างเอาปัสสาวะออก ก็หายปวด การขับถ่ายก็ค่อนข้างปกติ แต่หลังจากนั้นช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา ไปตรวจอีกครั้งแพทย์ตรวจพบเป็นมะเร็งที่มดลูก ไปหาหมอก็กลับมานอนรักษาตัวที่บ้านได้ไม่กี่วัน ก็มีน้องชาย ป่วยเป็นมะเร็งกลับจาก จ.กระบี่ มานอนรักษาตัวอยู่บ้านติดกัน ตนเองมีลูกสาวสองคน คอยดูแลตนเอง กับน้องชาย ส่วนสามีไปบวชอยู่ จ.นครนายก บวชหลายปีแล้ว ตนเองลำบากทุกวันนี้ก็นอนรักษาตัว ลูกเป็นผู้ดูแลก็เดือดร้อนค่าครองชีพ ค่าแพมเพิส ใช้ประมาณ 4-5 ผืนต่อวัน และอาหารเหลว ทิชชู่ นางอรนุช เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังด้วยสภาพร่างกายที่อิดโรย