แม่ร่ำไห้แทบขาดใจ ! "ลูกชายวัย 31 ปี" คิดถึงเมียหนักจนป่วยทางจิต ถอดพระเครื่อง-ตะกรุด ก่อนดับคาบ้านพัก
16 พ.ย. 2564, 11:14
วันที่ 15 พ.ย. 64 พ.ต.ท.ศิริชัย โพธิจักร สว.สอบสวน สภ.ห้วยหลวง อ.เมืองอุดรธานี รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ 191 ภ.จ.อุดรธานี ว่ามีเหตุชายอายุ 31 ปี ผูกคอเสียชีวิตในบ้านเลขที่ 306 ม.9 บ.เชียงพิณ ต.เชียงพิณ บ้านหลังดังกล่าวจะอยู่ใกล้กับ รพ.สต.เชียงพิณ หลังจากรถกู้ชีพ รพ.ศูนย์อุดรธานี พยายามปั๊มหัวใจช่วยเหลือชีวิตแต่ก็ไม่ทันการ จึงประสานแพทย์เวร รพ.ศูนย์อุดรธานี อาสากู้ภัยมูลนิธิเมธาธรรมสถาน รุดตรวจสอบที่เกิดเหตุ เป็นบ้านปูนชั้นเดียว พบชาวบ้านและญาติมุงดูอยู่ที่หน้าบ้าน
เมื่อเจ้าหน้าไปถึงบ้านหลังเกิดเหตุพบศพ นายอนุวัฒน์ หรือเต้ย อายุ 31 ปี ลูกชายเจ้าของบ้าน นอนหงายเสียชีวิตอยู่ที่พื้นกลางห้องโถงกลางบ้านพัก ที่ขื่อหลังคาบ้านพบเชือกไนล่อนสีแดงถูกตัด และที่บริเวณลำคอผู้ตาย พบรอยเชือกรัดแน่น ตรวจสอบตามร่างกายและรอบบริเวณไม่พบบาดแผลและการต่อสู้แต่อย่างใด เสียชีวิตจากขาดอากาศหายใจด้วยการผูกคอเสียชีวิตมาประมาณ 30 นาที และที่พื้นบ้านพบก้านธูป 2 ดอกปักอยู่บนฐานพลาสติกสีชมพู ข้างกันพบสร้อยแขวนพระเครื่องและตะกรุดของผู้ตายวางอยู่ข้างกัน คาดว่าก่อนผู้ตายผูกคอตัวเอง น่าจะถอดพระเครื่องที่ห้อยคอวางไว้ และจุดธูปขออโหสิกรรม ก่อนจบชีวิตของตัวเอง ขณะแม่ออกไปซื้อบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปมาไว้ให้ลูกชายกินในยามหิว ทางญาติไม่ติดใจในสาเหตุ จึงมอบศพให้ไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณีต่อไป
น.ส.รุ่ง ชั้นงาม อายุ 50 ปี แม่ผู้ตายเปิดเผยว่า ลูกชายคนนี้เป็นคนรักลูกเมียมาก และเป็นลูกชายคนโตมีอาชีพเป็นช่างเชื่อมเหล็กโครงหลังคาบ้าน กับญาติๆที่เป็นผู้รับเหมา แต่มาระยะหลังตนและลุกสะใภ้จับได้ว่าติดเสพยาบ้า แม่และภรรยาจึงส่งตัวไปรักษาที่ รพ.จิตเวชเลยราชนครินทร์ เนื่องจากมีอาการซึมเศร้า และในบางครั้งชอบขู่บังคับภรรยา เพื่อขอเงินไปซื้อยาบ้ามาเสพ แต่ไม่อาละวาดทำลายข้าวของ และอาการก็เริ่มหนักขึ้น แต่สำหรับแม่และน้องสาว ผู้ตายจะไม่กล้าต่อว่าหรือดุด่าแต่อย่างใด จะมีก็แต่กับภรรยาที่เป็นชาว กทม. และมีลูกสาววัย 9 ขวบด้วยกัน 1 คน เมื่อตนและลูกสะใภ้เห็นพฤติกรรมของผู้ตาย เกรงว่าหากไม่นำตัวไปบำบัดรักษา ต่อไปคงจะมีเหตุไม่คาดคิดเกิดขึ้นกับครอบครัว และคนในหมู่บ้านอย่างแน่นอน
เมื่อประมาณ 2 เดือนที่ผ่านมา ได้นำตัวลูกชายส่งรักษาบำบัดอาการ 2 สัปดาห์ ทางโรงพยาบาลฯให้กลับมารักษาตัวที่บ้าน เนื่องจากอาการยังไม่หนัก และให้ยามากินรักษาอาการ 3 เดือน แต่ลูกชายไม่ค่อยจะยอมกินยา ซ้ำยังหลบไปซื้อยาบ้ามาเสพ ตนและลูกสะใภ้จับได้ในวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา จึงโทรศัพท์ไปขอคำปรึกษากับตำรวจ สภ.ห้วยหลวง ก่อนนำตัวผู้ตายไปให้ตำรวจว่ากล่าวตักเตือน ในพฤติกรรมที่ชอบขู่ขอเงินกับภรรยาไปซื้อยาบ้ามาเสพ และลูกชายให้สัญญาว่าจะเลิกเสพยาบ้าต่อหน้าตำรวจ เพราะหากไม่เลิกเสพและไม่กินยารักษาอาการทางจิตเวช ภรรยาจะหนีออกจากบ้านไปกับลูก”
แม่นายเต้ยเปิดเผยต่อว่า ลูกสะใภ้แกล้งหอบลูกหนีออกจากบ้านก็เพื่อให้สามีสำนึกผิดและเลิกเสพยาบ้า หันมากินยาบำบัดรักษาอาการต่อเนื่อง 3 เดือน ตามที่แพทย์สั่ง แต่ก็ยังลักลอบไปเสพยาบ้าอีกทั้งที่ให้สัญญาต่อหน้าตำรวจแล้ว ทำให้ภรรยาแกล้งหอบหลบหนี กระทั่งวันนี้ช่วงสายตนซักผ้าอยู่ที่บ้าน ลูกชายก็ยังพูดจากับตนดี และบอกว่าคิดถึงเมียและลูกมาก ซึ่งเมียก็ได้โทรศัพท์มาพูดคุยกับลูกชาย เพื่อให้กำลังใจทุกวัน แต่ตกช่วงบ่าย ตนออกจากบ้านไปซื้อบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป มาไว้ให้ลูกชายได้กินเมื่อยามหิว แต่พอกับมาถึงบ้าน พบว่าลูกชายผูกคอกับขื่อกลางบ้าน จึงโทรศัพท์แจ้งรถกู้ชีพมาให้การช่วยเหลือแต่ก็สายเกินไป
ด้านนายประจบ อุดหลุน อายุ 67 ปี เพื่อนบ้านที่อยู่ติดกันและมีศักดิ์เป็นตาของผู้ตาย เปิดเผยว่า เมื่อก่อนผู้ตายเป็นคนนิสัยดี พูดจาดี และไม่เคยมีเรื่องราวกับใคร และเมื่อ 3-4 วันที่ผ่านมา มีฝูงอีกาบินวนและส่งเสียงมาร้องรอบๆหมู่บ้าน บางครั้งก็มา 2-3 ตัว แต่มาร้องติดต่อกันก่อนผู้ตายจะมาผูกคอตัวเองเสียชีวิต และมีความเชื่อในเรื่องนี้ เพราะที่ผ่านมาหากมีฝูงอีกาหรืออีกามาร้องในหมู่บ้าน จะต้องมีคนเสียชีวิตล้มหายตายจากอย่างแน่นอน และไม่คิดส่าจะเป็นหลายชายของตนเอง