"รองผู้ว่าฯสุราษฎร์" ตั้งคณะทำงานตรวจสอบข้อเท็จจริงการบุกรุกลักลอบตัดโค่นต้นไม้ - แผ้วถางป่าต้นน้ำ
3 ก.ย. 2562, 14:09
เมื่อวันที่ 3 กันยายน 2562 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ห้องประชุมชั้น 3 ที่ว่าการอำเภอเกาะสมุย นายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้มอบหมายและสั่งการให้ นายประเวศ ไทยประยูร รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นประธานการประชุม แต่งตั้งคณะทำงานตรวจสอบข้อเท็จจริงการบุกรุกแผ้วถางพื้นที่ป่าท้องที่อำเภอเกาะสมุย โดยมี ว่าที่ร้อยตรี กิตติภพ รอดดอน นายอำเภอเกาะสมุย ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรป่าไม้ที่ 11 จังหวัดสุราษฎร์ธานี ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 4 จังหวัดสุราษฎร์ธานี เจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดสุราษฎร์ธานี (สาขาอำเอภเกาะสมุย) เจ้าหน้าที่หน้าชุดปฎิบัติการ กอ รมน ภาค 4 อำเภอเกาะสมุย เป็นคณะประจำชุดในการทำงาน
ซึ่งการประชุม ในการตแต่งตั้งคณะทำงาน เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงและติดตามการทำงาน จากกรณี ที่ทาง ร.ท.อดุลย์ พรหมบุตร หัวหน้าชุดปฎิบัติการ กอ รมน ภาค 4 อำเภอเกาะสมุย ได้รับการร้องเรียน จากประชาชนว่า พบเห็นการบุกรุกแผ้วถาง และตัดโค่นต้นไม้ขนาดใหญ่ ในพื้นที่ป่าต้นน้ำ เป็นพื้นที่บริเวณกว้า บนภูเขาตำบลแม่น้ำ หมู่ 3 ตำบลแม่น้ำ อำเภอเกาะสมุย พร้อมนำกำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง และ หัวหน้าหน่วยจัดการต้นน้ำเกาะสมุย พร้อมตำรวจ และ คณะกรรมการชุมชนตำบลแม่น้ำ ขึ้นไปตรวจสอบ พร้อมตรวจยึดเลื่อยยนต์ และแผ่นไม้กระดานที่แปรรูปไว้กว่า 100 แผ่น และได้แจ้งรายงานให้ นายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดทราบ และลงพื้นที่ตรวจสอบ และพบว่าในพื้นที่ดังกล่าว มีการบุกรุกแผ้วถางบุกโค่นล้มต้นไม้ขนาดใหญ่จริง จึงได้ทำการแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง กันขึ้นมา
พร้อมมอบหมายให้ นายประเวศ ไทยประยูร รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นประธาน คณะทำงาน และเรียกประชุมคณะทำงาน เพื่อติดตามผลการดำเนินการ ซึ่งทางประธานคณะทำงาน ได้เชิญผุ้ที่เกี่ยวข้อง พร้อมเรียกเจ้าของที่ดินมาให้ปากคำบันทึกคำให้การ
ต่อมา ภายหลังจากที่เสร็จการประชุม ทางคณะที่นำโดยรองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้เดินทางขึ้นไปยังภูเขาแม่น้ำ เพื่อตรวจสอบแนวเขต ที่ดินแต่ยังไม่สามารถชี้แนวเขตได้เนื่องจากหลักหมุด หายไปบางส่วน ต้องทำการรังวัดใหม่ อีกครั้ง ซึ่งจากการตรวจสอบ ทางนายประเวศ ไทยประยูร รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ ที่เกี่ยวข้อง เร่งติดตามทำงานให้มีความคืบหน้ามากกว่านี้ เพื่อให้ได้ข้อสรุปโดยเร็ว พร้อมเอาผิดกับผู้ที่เกี่ยวข้อง และหากพบว่ามีหน่วยงานรัฐเข้าไปมีเอี่ยวและเกี่ยวข้อง หรือเอื้ออำนวยประโยชน์ใดๆให้กับผู้บุกรุก จะดำเนินการตามกฎหมายโดยไม่มีข้อยกเว้น
ขณะที่ชาวบ้าน ที่อยู่ด้านล่างภูเขา ได้ร้องเรียนไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี บริเวณพื้นที่บุกรุกดังกล่าว มีการเปิดหน้าดินและหิน พร้อมล้มต้นไม้ขนาดใหญ่ จึงเกรงงว่า หากมีฝนตกหนัก ลงมา หวั่นเกรงว่า จะเป็นอันตรายกับประชาชนที่อยู่ด้านล่าง เหมือนกับ เหตุภูเขาถล่มที่อำเภอพิปูน ในจังหวัดนครศรีธรรมราช จึงอยากให้ทางผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี เร่งดำเนินการ และแก้ไขให้เร็วที่สุด ขณะเดียวกันทางคดีก็ยังไม่มีความคืบหน้า แต่อย่างใด