วันที่ 3 ก.ย. 62 เวลา 13.00 น. ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า สาวโพสต์เฟสบุ๊คเตือนภัยร้านค้า หลังถูกชาย 3 คน อ้างตัวเป็นคนเสนอขายสินค้าตามหมู่บ้าน โดยอ้างว่าเป็นสินค้าราคาส่งถูกกว่าท้องตลาด ตัดสินใจสั่งซื้อก่อนพบได้สินค้าไม่ถึงราคาที่จ่าย สูญเงินหลายพันบาท โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 2 กันยายน ที่ผ่านมา โดยระบุข้อความว่า " เตือนภัยร้านค้าไว้นะคะ มีรถมาเสนอขายสินค้าให้ร้านค้าตามหมู่บ้าน บอกว่าส่งราคาถูกกว่าที่อื่น เป็นราคาธงฟ้า ลงของให้ 4,500 บาท ไม่สามารถเลือกของเองได้ แต่เช็คของแล้วแค่ พันกว่าบาท มีเปลี่ยนราคาของในใบส่งสินค้า แล้วราคาที่บอกก็ไม่ตรงกับราคาในใบ (สบู่สมุนไพร) บอกว่ามาจากหนองปลิง นครสวรรค์ รถยี่ห้ออีซูซุ ดีแม็กสีเทา มีหลังคาแครี่บอย ลงแม็กสีน้ำตาล ป้ายทะเบียน บฉ 6953 นครสวรรค์ ผู้ชาย 3 คน คนที่ 1 ผู้ชายรูปร่างท้วม ผิวขาว ผมหยิก อายุประมาณ 30-35 ปี ใส่เสื้อเชิ้ต คนที่ 2 ผู้ชายรูปร่างผอม สูง ผิวคล้ำ ผมสีทอง มีหนวด อายุประมาณ 25-29 ปี แขวนป้ายชื่อคลังสินค้า ชื่อเบลใส่เสื้อเชิ้ตแขนยาว คนที่ 3 ผู้ชายผิวคล้ำ หัวล้าน อายุประมาณ 50-60 ปี ใส่เสื้อแขนยาวสีครีมออกน้ำตาล ใครพบเบาะแสแจ้งตำรวจได้เลยค่ะ ตอนนี้ตำรวจกำลังสกัดจับ " โดยพบว่าร้านที่เสียหายนั้น เป็นร้านขายสินค้าโชห่วยในหมู่บ้าน หมู่ที่ 7 บ้านน้ำวิ่ง ตำบลทุ่งนางาม อำเภอลานสัก จังหวัดอุทัยธานี และภายหลังจากที่ได้มีการแชร์โพสต์ดังกล่าวกันออกไปแล้วนั้น ยังพบว่ามีผู้เข้ามาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเหตุการณ์ในครั้งนี้ โดยเฉพาะบรรดาร้านโชห่วยด้วยกันที่ต่างเคยถูกหลอกขายสินค้าในลักษณะเดียวกันนี้ ซึ่งบางรายจ่ายเงินไปมากถึง 7,000 บาท

 

 

โดยช่วงเช้าวันนี้ ได้ลงพื้นที่ยังร้านดังกล่าว พบ นางบุญญช่วย สิทธิการนา อายุ 56 ปี ซึ่งเป็นเจ้าของร้าน ได้เล่าให้ฟังว่า เมื่อช่วงเวลาประมาณ 13.00 น. ของวันที่ 2 กันยายน ที่ผ่านมา มีชาย 3 คน ขับรถกระบะมาที่ร้าน โดยมาเสนอขายสินค้าเหมือนรถส่งของตามปกติ แต่ได้กล่าวกับตนเองว่า สินค้าที่นำมาขายนั้นเป็นราคาธงฟ้าถูกกว่าร้านส่งที่อื่นอย่างแน่นอน โดยยกตัวอย่างเช่น สปอนต์เซอร์ 1 แพ็ค ราคาส่งปกติจะอยู่ที่ 205 บาท แต่ทางกลุ่มมิจฉาชีพนั้นยื่นเสนอขายให้ในราคาแพ็คละ 180 บาท ซึ่งตอนแรกตนเองนั้นก็ยืนยันว่าไม่เอาไม่รับ ไม่มีเงิน แต่ทางสามีของตนเองบอกว่าน่าสนใจลองดูรายละเอียดก็ได้ หลังจากนั้นทั้ง 3 คน ก็พากันยกของลงมา 3-4 ลัง พร้อมบิลแจ้งรายการสินค้า ซึ่งทางคนร้ายได้เป็นคนเช็คบิลรายการเองทั้งหมดว่าสินค้าราคา 4,500 บาท นี้มีอะไรบ้าง พร้อมทั้งชวนให้ลงเหล้าเบียร์ด้วยแต่ตนเองบอกปัดไป หลังจากนั้นก็ได้ทำการตกลงจ่ายเงินกันไป

พอผู้เป็นสามีเดิมมาดูของที่ได้แล้วถามกับตนเองว่า 4,500 บาท ได้ของเท่านี้เองหรอ จากนั้นตนก็มาแกะเช็คของกับหลาน โดยทำการบวกราคาสินค้าทั้งหมดที่ได้ ซึ่งขนมห่อละ 5 บาท 8 แพ็ค น้ำส้มขวดละ 3 บาท 2 แพ็ค  น้ำปลา 3 ขวด น้ำยาปรับผ้านุ่ม 1 แพ็ค น้ำส้มดีโด้ 5 บาท 1 แพ็ค ผ่าอนามัย 1 แพ็ค น้ำตาลทราย 5 กิโล สบู่ 1 แพ็ค ครีมทาผิว 1 แพ็ค เจเล่ 1 แพ็ค น้ำแดงขวด 5 บาท 1 แพ็ค คาราบาว 1 แพ็ค น้ำเปล่า 2 แพ็ค น้ำผลไม้ 2 แพ็ค และมาม่าอีก 1 แพ็ค ซึ่งรวมมูลค่าสินค้าตามจริงแล้วนั้นเป็นเงินประมาณแค่ 1,200 บาท เท่านั้น พอรู้ตัวว่าได้ของไม่ครบตามราคาเงินที่จ่าย จึงได้โทรกลับไปหากลุ่มมิจฉาชีพดังกล่าว ซึ่ง 3 ครั้งแรกยังรับสายและบอกว่ากำลังกลับ แต่พอโทรไปอีกครั้งก็โทรไม่ติดอีกเลย จึงมั่นใจว่าโดนหลอกอย่างแน่นอน จึงได้โทรหาผู้ใหญ่บ้านให้ช่วยแจ้งตำรวจให้ช่วยจับคนร้ายให้ดังกล่าว แต่ก็ไม่สามารถจับได้ นางบุญช่วย กล่าว

ด้าน นางสาวพิชญา หัสแดง ผู้โพสต์เฟสบุ๊คเหตุการณ์ดังกล่าว เล่าว่า ช่วงเวลาเกิดเหตุประมาณ 13.00 น. ตนเองนั้นได้นั่งอยู่ที่ร้านค้าแห่งนี้ ซึ่งมีกลุ่มมิจฉาชีพดังกล่าวเข้ามาพูดคุยกับป้าเจ้าของร้าน โดยมีการโน้มน้าวชวนให้ป้านั้นลงของกับตนเอง ซึ่งระบุว่ามีราคาส่งที่ถูกกว่าร้านส่งทั่วไป พร้อมทั้งมีการแจกแถมทั้งเสื้อ และป้ายหน้าร้าน โดยกล่าวว่าจะเอาของแถมเข้ามาให้ในวันที่ 5 กันยายน นี้ โดยช่วงเวลาที่กลุ่มมิจฉาชีพทั้ง 3 คน นั้นเข้ามาพูดคุย ตนเองได้สังเกตดูป้ายชื่อที่คล้องคอ 2 ใน 3 คน พบว่าชื่อ บอล และ เบลว แต่กลับพบว่าไม่มีชื่อบริษัทเหมือนรถที่มาส่งของทั่วไป ตนเองจึงสอบถามว่ามาจากที่ไหน และจำป้ายทะเบียนรถไว้ เพราะรู้สึกไม่ค่อยไว้ใจกลุ่มคนดังกล่าว จนสุดท้ายพบว่าร้านป้าโดนหลอกจริงๆ จึงให้ป้ารีบโทรแจ้งผู้ใหญ่บ้านและประสานไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ช่วยสกัดจับแต่ไม่สำเร็จ โดยเช้าวันนี้ทางผู้ใหญ่บ้านก็ได้นำเอกสารรายการสินค้าซึ่งเป็นหลักฐานที่มีเข้าไปแจ้งความดำเนินคดีไว้ที่ สภ.ลานสัก แล้ว นางสาวพิชญา กล่าว