วันที่ 17 พ.ย. 64 นายสุรพล พงษ์พา อายุ 36 ปี เจ้าของร้านกลึง ตกใจเจองูเห่าอยู่ในห้องน้ำ  รีบโร่แจ้งเจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่าง ให้มาช่วยจับงูเห่าที่ซ่อนตัวอยู่ในห้องน้ำให้หน่อย เจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่าง พร้อมอุปกรณ์การจับงู ได้เดินทางไปช่วยเหลือประชาชนที่บ้านหลังดังกล่าว 

เมื่อไปถึงเป็นบ้านตึก 2 ชั้น ชั้นล่างเป็นโรงกลึง พบนายสุรพล นั่งรออยู่หน้าบ้าน ได้นำเจ้าหน้าที่ไปดูในห้องน้ำที่มีงูหลบซ่อนอยู่หลังแทงค์น้ำ เจ้าหน้าที่จึงได้ใช้ไฟฉายส่องไปหลังแทงค์น้ำ พบ งูเห่านอนขดตัวอยู่ จึงได้ใช้ไม้ตะขอเหล็กเกี่ยวตัว  แต่งูได้ดิ้นต่อสู้แพร่แม่เบี้ยพ้นพิษใส่เจ้าหน้าที่ และเลื้อยหนีไปมาอยู่ภายในห้องน้ำ โดยที่ไม่ยอมให้เจ้าหน้าที่จับง่ายๆ  ระหว่างนั้นเจ้างูได้หยุดอยู่นิ่งๆ จึงได้ใช้ไม้ตะขอเหล็กกดไปที่ลำตัวงู แต่งูก็ยังแพร่แม่เบี้ยพ้นพิษสู้อีก  จึงได้ค่อยๆลากตัวงูออกมา ใช้มือจับหางงู และใช้ไม้ตะขอเหล็กคล้องลำตัวไว้ และจึงได้นำงูมาใส่ถุง เป็นงูเห่าพ้นพิษ ยาวประมาณ 1 เมตร 20 ใช้เวลาในการจับประมาณ 10 นาที จากนั้นจะได้นำงูไปปล่อยคืนสู่ธรรมชาติต่อไป 

นายสุรพล พงษ์พา เล่าว่า ตนเองเดินออกมารับพระจากพนักงานส่งของเจแอนด์ที  เป็น พระสมเด็จวัดระฆัง  ที่เช่ามาจากเขตอนุรักษ์อนุสรณ์สมเด็จโต เช่ามาในราคาองค์ละพันกว่าบาท รับพระเสร็จแล้ว ได้เดินไปล้างห้องน้ำ กำลังจะล้างถังน้ำ ดึงถังออกมาเจองู ตนจึงได้รีบกระโดดออกมา และรีบโทรแจ้งเจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างให้มาจับ ช่วงนั้นงูอยู่ใกล้ๆขาตน ด้วยความตกใจ ตนจึงได้รีบหนีออกมา สาเหตุที่งูไม่กัดตน หลวงพ่อคงจะให้ตนแคล้วคลาด พอแกมาถึงบ้าน ตนก็ไปเจอพอดี แต่ถ้าผมยังไม่รับแก ตนจะเป็นยังไงก็ไม่รู้ อาจจะแคล้วคลาดจากหลวงพ่อช่วยไว้ ถ้าไม่อย่างนั้นงูเห่าคงกัดตนแล้ว เพราะเจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างบอกตนว่า เป็นงูเห่าพ้นพิษ และมีพิษร้ายแรงด้วย กัดแล้วถึงขั้นเสียชีวิตได้เลย บ้านหลังนี้อยู่ด้วยกัน 5 คน มี พ่อ แม่  ตน แฟนของตน และลูกชาย วัย 8 ขวบ ถ้าตนไม่เจองูก่อน ตนก็ไม่รู้ว่างูจะกัดลูกชายของตนหรือเปล่า ดีที่เจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างมาช่วยจับให้ ต้องขอขอบคุณด้วย