"ชาวบ้าน" โวยลั่น! โรงสีใหญ่ปล่อยฝุ่นละอองถล่มหมู่บ้านนานหลายปี สุดทน! ประกาศขายบ้านเตรียมย้ายครอบครัว
18 พ.ย. 2564, 13:53
เมื่อวันที่ 18 พ.ย. 64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายจำเนียร ไชยภักดี กำนัน ต.ท่าคล้อ พร้อมด้วย แกนนำชาวบ้านประกอบด้วย นายวันชนะ สายตา อายุ 54 ปี นายสมบัติ กิ่งคำ อายุ 50 ปี จำนวนกว่า 10 คน ได้เข้าร้องทุกข์กับผู้สื่อข่าวประจำ จ.ศรีสะเกษว่า ขณะนี้หมู่บ้านของพวกตนได้รับความเดือดร้อน เนื่องจากมีฝุ่นละอองจำนวนมากจากโรงสีขนาดใหญ่ที่อยู่ใกล้กับหมู่บ้านได้ปล่อยฝุ่นละอองจากการประกอบการลอยเข้ามาถล่มหมู่บ้านของพวกตนมานานหลายปีแล้ว เคยร้องเรียนไปยังหลายส่วนราชการที่เกี่ยวข้องแต่ว่าเรื่องเงียบหายไป ไม่มีการแก้ไขปัญหาช่วยเหลือชาวบ้านแต่อย่างใด ทำให้ชาวบ้านป่วยเป็นโรคทางเดินลมหายใจ โรคผิวหนัง ทรัพย์สินต่าง ๆภายในบ้านทั้งเสื้อผ้า เครื่องใช้ รถยนต์โดนฝุ่นละอองปกคลุม ผู้ใหญ่และเด็กแรกเกิดต้องป่วยเป็นโรคผิวหนังคันตลอดเวลา ทำให้ชาวบ้านเดือดร้อนมาก โดยกำนัน ต.ท่าคล้อ ร่วมกับชาวบ้านได้นำผู้สื่อข่าวไปตรวจสอบบริเวณใกล้กับโรงสีพบว่ามีฝุ่นละอองลอยมาปกคลุมทั่วบริเวณ ไร่นาต้นกล้วย สระน้ำก็มีฝุ่นละอองลอยมาปกคลุมติดอยู่ตามสถานที่ต่าง ๆ จำนวนมาก ซึ่งชาวบ้านได้พากันร้องตะโกนขับไล่โรงสีให้ย้ายไปอยู่ที่อื่น และร้องตะโกนไปถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีขอให้ช่วยเหลือชาวบ้านโดยด่วนด้วย
นายวันชนะ สายตา อายุ 54 ปี กล่าวว่า ตนกับชาวบ้านโนนสำเริงเหนือทุกคนได้รับความเดือดร้อนจากโรงสีไฟขนาดใหญ่ที่มาประกอบการรับซื้อข้าวแล้วปล่อยฝุ่นละอองมาถล่มหมู่บ้านของพวกตนมานานหลายปีแล้ว ทำให้พวกตนป่วยเป็นโรคทางเดินหายใจ ผิวหนังเป็นผื่นคัน ดวงตาละคายเคืองเพราะโดนฝุ่นละออง เสื้อผ้ามีแต่ฝุ่นละอองจากโรงสี ลูกหลานพวกตนไปโรงเรียนเสื้อผ้าก็มีแต่ฝุ่นละออง เคยร้องเรียนไปยังส่วนราชการที่เกี่ยวข้องรวมทั้งศูนย์ดำรงธรรมอำเภอหลายครั้งแล้ว แต่เรื่องเงียบหายไม่มีการแก้ไขปัญหาช่วยเหลือชาวบ้านแต่อย่างใด ตนขอกราบร้องเรียนไปยัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ขอได้โปรดพิจารณาสั่งการให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องลงมาให้การช่วยเหลือชาวบ้านด้วย ไร่นาของตนที่อยู่ติดกับโรงสีไม่สามารถที่จะเก็บเกี่ยวข้าวได้เนื่องจากว่า เมื่อว่าจ้างรถมาเกี่ยวข้าว ฝุ่นละอองได้เข้าไปในเครื่องยนต์รถเกี่ยวข้าวทำให้รถไม่สามารถเกี่ยวข้าวได้ ตนจึงได้ประกาศขายที่นา จำนวน 10 ไร่ เพื่อที่จะได้ไปหาซื้อนาที่อื่นไม่ต้องมาทำนาใกล้กับโรงสีแห่งนี้อีกต่อไป
นายจำเนียร ไชยภักดี กำนัน ต.ท่าคล้อ กล่าวว่า เป็นเรื่องของฝุ่นละอองที่ฟุ้งกระจายมาจากการประกอบกิจการของโรงสีหิรัณย์เจริญ ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนจึงได้มาร้องทุกข์กับศูนย์ดำรงธรรมของชุมชนของหมู่บ้าน ตนจึงได้ส่งเรื่องไปให้กับอำเภอเบญจลักษณ์และทราบว่าทางท่านนายอำเภอและปลัดอำเภอศูนย์ดำรงธรรม ได้เรียบเรียงเอกสารแล้วส่งไปยังส่วนราชการที่เกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็นทางอุตสาหกรรมจังหวัดและท่านผู้ว่าราชการจังหวัดเพื่อให้รับทราบเป็นเบื้องต้น โดยตนได้ยื่นเรื่องไปตั้งแต่ปี 2563 โดยมีการเข้ามาตรวจสอบแล้วโดยทางศูนย์ดำรงธรรมและอำเภอเบญจลักษณ์ลงมาให้คำแนะนำและได้แนะนำให้โรงสีแก้ไขความเดือดร้อนให้กับชาวบ้านในเรื่องของฝุ่นละออง แต่พอมาถึงปีนี้ก็ยังเหมือนเดิมยังไม่ได้รับการแก้ไขให้ดีขึ้น ตอนนี้ชาวบ้านเดือดร้อนมากได้มาร้องที่ศูนย์ดำรงธรรมของหมู่บ้านซึ่งตนก็ได้มีการดำเนินการไปตามระบบของทางราชการแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานต่อไปว่า ต่อมา นายจำเนียร ไชยภักดี กำนัน ต.ท่าคล้อ พร้อมด้วยแกนนำชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อน ได้นำผู้สื่อข่าวไปที่ บริษัท โรงสีหิรัณย์เจริญ จำกัด ตั้งอยู่เลขที่ 168 หมู่ 10 ต.ท่าคล้อ อ.เบญจลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ได้พบกับชายคนหนึ่งแจ้งว่าเป็นเจ้าของโรงสีทราบชื่อภายหลังว่า คือ นายสกล หิรัญ หรือเสี่ยเล็ก เป็นกรรมการผู้จัดการบริษัท โรงสีหิรัณย์เจริญ จำกัด ซึ่งได้นำกำนัน ต.ท่าคล้อและผู้สื่อข่าวไปตรวจสอบบริเวณที่มีฝุ่นละอองฟุ้งกระจายออกไป พบว่า เป็นโกดังเก็บข้าวขนาดใหญ่มีฝุ่นกระจายคลุ้งทั่วบริเวณ รถยนต์ที่จอดอยู่ในโกดังต้องเปิดไฟหน้ารถ เพราะว่า ฝุ่นในโกดังกระจายหนามากจนแทบมองไม่เห็นรอบบริเวณ และฝุ่นละอองได้กระจายออกไปนอกบริเวณโกดังลอยเข้าไปในหมู่บ้าน
ทางด้าน นายสกล หิรัญ กรรมการผู้จัดการ บริษัท โรงสีหิรัณย์เจริญ จำกัด กล่าวว่า ตอนนี้ตนก็พยายามแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองอยู่แล้ว โดยปีหน้าตนจะทำโกดังเก็บฝุ่นให้ดีขึ้นโดยจะต่อผนังให้สูงขึ้นเพื่อเก็บให้ฝุ่นอยู่เฉพาะด้านในโกดัง ตอนนี้ฝุ่นจะกระจายออกตามด้านข้างโกดัง ซึ่งขณะนี้ตนก็ได้ก่อผนังโกดังให้สูงขึ้นแล้ว แต่ก็ยังมีฝุ่นออกมาอีก ซึ่งตนจะแก้ปัญหาด้วยการก่อผนังโกดังให้สูงขึ้นไปอีก และตนได้แก้ไขปัญหาเรื่องฝุ่นเบื้องต้นโดยตนได้นำเอาวัสดุมาปิดด้านข้างโกดังเพื่อป้องกันไม่ให้ฝุ่นคลุ้งกระจายออกไปแล้ว แต่ก็ยังมีฝุ่นลอยออกไปนอกโกดังอยู่