"ลุงพิการ" เซ็งไว้ใจเพื่อนบ้าน ทำทุกอย่างแทน สุดท้ายฉกเอทีเอ็มกดเงินหนี
21 พ.ย. 2564, 09:15
วันที่ 20 พ.ย.64 ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้าน ต.หินโคน อ.ลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์ ว่าถูกเพื่อนบ้านที่ไว้ใจกันขโมยบัตร ATM เอาไปกดเงินสด 200,000 บาท แล้วหนีลอยนวล อยากจะให้โลกโชเซียล ช่วยติดตามหาตัวอีกทางหนึ่ง
ตรวจสอบพบ นายเกษม บ อายุ 63 ปี ชาว จ.บุรีรัมย์ พิการอัมพฤกษ์ซีกขวา เล่าเหตุการณ์ทั้งหมดว่า ตนพิการอัมพฤกษ์ มาได้ 16 ปี ครอบครัวอยู่ด้วยกัน 3 คน คือภรรยาและลูกสาวซึ่งทำงานเป็นครูอัตราจ้าง ส่วนภรรยามีอาชีพขายผักตลาดสด เท่ากับวันปกติจะอยู่บ้านคนเดียว แต่ตนพิการใช้ชีวิตลำบาก เมื่อประมาณ 1 ปีที่ผ่านมา นายไชยัน อายุ 30 ปี คนในหมู่บ้านมาคุยเล่นด้วยเป็นประจำ จากนั้นได้วานให้นายฟาง ไปส่งไปตลาด หาซื้อกับข้าวมากินด้วยกัน
เวลาตนจะไปกดเงินเบี้ยคนพิการ จะให้นายฟาง ลงไปกดเงินให้เพราะตนเดินเหินลำบาก นายฟาง จะรู้ทุกอย่างภายในบ้าน แม้กระทั่งรหัสบัตร ATM เพราะเคยให้ไปกดเงินเป็นประจำ ถือว่าเป็นคนที่ไว้ใจมากที่สุดนอกจากภรรยากับลูกสาว
ต่อมาตนได้ประกาศขายที่ดินจำนวน 13 ไร่ มีคนสนใจไปดูที่นาตนก็ให้นางฟาง พาไป จนกระทั่งตกลงซื้อขายกันในราคา 1,600,000 บาท นายฟาง รู้ทุกขั้นตอนของการเจรจาการซื้อขาย โดยคนซื้อที่ดินนัดจะโอนเงินมัดจำตามที่ตกลงกันคือ 700,000 บาท ให้ในวันที่ 12 พ.ย.ที่ผ่านมา นายฟางก็รู้เช่นกัน
ส่วนนายฟาง เข้าออกบ้านของตนตามปกติเหมือนที่เคยทำมาก่อน ตอนเย็นวันที่ 12 พ.ย. หลังจากลูกสาวกลับจากทำงานเวลาประมาณ 15.00 น. จึงจะให้ลูกสาวพาไปเช็คเงินที่ตู้ ATM แต่หาบัตร ATM ไม่เจอ จึงรีบไปขอดูยอดเงินที่ธนาคารสาขาลำปลายมาศ ว่าคนซื้อที่โอนค่ามัดจำจำนวนเงิน 700,000 บาท มาจริงหรือไม่
ได้รับคำตอบจากพนักงานธนาคารว่า เงินเข้าแล้ว 700,000 บาท แต่มีการถอนจากตู้ ATM ไปแล้ว 200,000 ก่อนที่ตนจะมาถึงไม่นาน จึงรู้ทันทีว่า บัตร ATM ที่หายไป คนขโมยคือนายฟาง จึงไปแจ้งความให้ตำรวจอายัดบัญชีไว้ก่อน
จากนั้นได้ติดต่อกับนายฟาง ซึ่งนายฟาง รับยอมรับว่าได้กดเงินไปจริง เพราะเอาเงินไปใช้หนี้อีกทางหนึ่ง ตนจึงขู่ว่าจะแจ้งความดำเนินคดี นายฟาง จึงโอนเงินกลับคืนมาให้ในบัญชีลูกสาวจำนวนเงิน 50,000 บาท และสัญญาว่าจะโอนกลับมาอีก
สุดท้ายนายฟาง บล็อกเบอร์โทรศัพท์และบล็อกเฟชบุ๊กไปหมด ไม่สามารถติดต่อได้อีก จึงเข้าไปแจ้งความไว้ที่ สภ.ลำปลายมาศ อีกครั้ง แต่มีชาวบ้านเห็นนายฟาง ขับรถจักรยานยนต์คันใหม่ พร้อมใส่สร้อยคอทองคำ
ลูกสาวจึงไปสืบ พบว่านายฟาง ซื้อรถจักรยานยนต์ ใน อ.ลำปลายมาศ เป็นเงิน 70,000 บาท ซื้อสร้องคอทองคำน้ำหนัก 1 บาทอีก 1 เส้น ส่วนนายฟาง จนถึงตอนนี้ ไม่มีใครติดต่อได้ คาดว่าน่าจะขี่รถจักรยานยนต์ไปหาแฟนที่ จังหวัดเชียงราย ยอมรับว่าเสียใจ เพราะเงินที่ตนจะได้มา เป็นเงินขายที่ดิน หวังเอามารักษาตัวเอง จึงอยากจะฝากถึงนายฟาง ว่าถ้าคิดได้ให้กลับมาพูดคุยกัน เรื่องทั้งหมดมีทางออก แต่ถ้ายังไม่กลับมายืนยันจะดำเนินคดีถึงที่สุด