วันที่ 21 พ.ย.64 พันตำรวจเอก เสมอ อยู่สำราญ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่า ได้นำเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสายตรวจรถยนต์ พร้อมด้วยพันตำรวจโท ชุมพล บางจันทร์ทึก รองผู้กำกับปราบปราม สภ.เมืองประจวบ ร่วมกับ ทหารหน่วยเฉพาะกิจจงอางศึก เจ้าหน้าที่ตำรวจ ตม.ด่านสิงขร เจ้าหน้าที่ตำรวจ ตชด.146 เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอเมืองประจวบ เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองจังหวัดประจวบฯ ผู้ใหญ่บ้าน และ เจ้าหน้าที่ อปพร.ประจำหมู่บ้านมะขามโพรง ร่วมกันจับกุมตัวบุคคลต่างด้าวชาวเมียนมาร์จำนวน 12 คน อายุระหว่าง 18-35 ปี ได้ที่บริเวณช่องทางธรรมชาติช่องหุบตาลี หมู่ที่ 9 บ้านมะขามโพรง ตำบลเกาะหลัก อำเภอเมือง จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ แบ่งเป็นชาย 7 คนหญิง 5 คน โดยมีผู้นำพาเป็นชาย 3 คน เมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมา

จากการสอบถามเบื้องต้นทราบว่าแรงงานเมียนมาทั้งหมดได้หนีความยากลำบากและความอดยากจากปัญหาความไม่สงบในประเทศพม่า แล้วมาพักรอที่บริเวณบ้านมูด่องจากนั้นจึงพากันเดินเท้ามาจากจุดที่พักคอยบริเวณหมู่บ้านมูด่องฝั่งประเทศเมียนมาร์แล้วเดินข้ามชายแดนไทยมาตามแนวเทือกเขาตะนาวศรีผ่านช่องทางธรรมชาติช่องหุบตาหลี โดยจ่ายค่าจ้างให้คนนำทางข้ามแดนคนละ 2000 บาท เพื่อรอนายหน้ามารับ ซึ่งส่วนใหญ่จะไปทำงานที่ตำบลมหาชัย จังหวัดสมุทรสาคร และที่อำเภอปราณบุรี จ.ประจวบฯ 1 คน และจังหวัดนครปฐม 2 คน โดยเสียค่าใช้จ่ายให้กับนายหน้าเมื่อถึงปลายทางแล้วคนละประมาณ 18,000 ถึง 20,000 บาท

ทั้งนี้สืบเนื่องจากตามนโยบายของ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ฝ่ายความมั่นคงให้หน่วยงานความมั่นคง เพิ่มความเข้มในการเฝ้าระวังพื้นที่ตามแนวชายแดนและพื้นที่ตอนในเพื่อสกัดกั้นแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฏหมาย ดังนั้นสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผบช.ภ.7 พล.ต.ต.วันชัย ธารณธรรม ผบก.ภ.จว.ประจวบคีรีขันธ์ ได้กำชับให้ ตร.ทุกหน่วยที่มีพื้นที่เขตรับผิดชอบติดกับชายแดน ให้ดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาลในการเข้มงวดพื้นที่ตามแนวชายแดนและพื้นที่ตอนในเขตความรับผิดชอบอย่างเคร่งครัด