เปิด ปิด การใช้งานคุกกี้ของ ทรูฮิต (Truehits Cookies)



"มูลนิธิสืบนาคะเสถียร" สรุปย้อนหลังบทลงโทษคดีเสือดำ ก่อนจะมีคำพิพากษาศาลฎีกา 8 ธ.ค.64 นี้


25 พ.ย. 2564, 09:05



"มูลนิธิสืบนาคะเสถียร" สรุปย้อนหลังบทลงโทษคดีเสือดำ ก่อนจะมีคำพิพากษาศาลฎีกา 8 ธ.ค.64 นี้




วันนี้ 24 พ.ย.64 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า มูลนิธิสืบนาคะเสถียร ได้เขียนบทความเพื่อเป็นการทบทวนความคืบหน้าคดีล่าเสือดำ 2564 ก่อนวันอ่านคำพิพากษาศาลฎีกา ระบุว่า อีก 14 วันนับจากนี้ ศาลจังหวัดทองผาภูมิเตรียมนัดอ่านคำพิพากษาศาลฎีกาคดีเสือดำ ใกล้จะถึงบทสรุปของคดีล่าสัตว์ป่า (เสือดำ)ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันตก ในวันที่ 8 ธันวาคม 2564 นี้

ชวนอ่านสรุปย้อนหลังบทลงโทษคดีดังกล่าว จากจุดเริ่มต้นจนถึงวันที่จะมีคำพิพากษาศาลฎีกา

คดีล่าเสือดำ ศาลชั้นต้น

จำเลยทั้ง 4 ได้ตกเป็นจำเลยคดีอาญาหมายเลขดำที่ 219/2561 ดังต่อไปนี้

นายเปรมชัย กรรณสูต 6 ข้อหา ได้แก่

1. ร่วมกันพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะ โดยไม่ได้รับอนุญาต

2. ร่วมกันล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโดยไม่ได้รับอนุญาต

3. ร่วมกันล่าสัตว์ป่าคุ้มครองโดยไม่ได้รับอนุญาต

4. ร่วมกันครอบครองซากสัตว์ป่าคุ้มครองโดยไม่ได้รับอนุญาต

5. ร่วมกันซ่อนเร้น พาเอาไปเสีย หรือรับไว้ ซึ่งซากสัตว์ป่าที่ได้จากการกระทำความผิด

6. ร่วมกันเก็บหาของป่าในเขตป่าสงวนแห่งชาติโดยไม่ได้รับอนุญาต

นายยงค์ โดดเครือ 7 ข้อหา ได้แก่

1. ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต

2. ร่วมกันพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะ โดยไม่ได้รับใบอนุญาตฯ

3. ร่วมกันล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า โดยไม่ได้รับอนุญาตฯ

4. ร่วมกันล่าสัตว์ป่าคุ้มครองโดยไม่ได้รับอนุญาตฯ

5. ร่วมกันมีไว้ในครอบครองซึ่งซากสัตว์ป่าฯ

6. ร่วมกันซ่อนเร้น พาเอาไปเสีย หรือรับไว้ ซึ่งซากของสัตว์ป่า

7. ร่วมกันเก็บหาของป่าในเขตป่าสงวนแห่งชาติโดยไม่ได้รับอนุญาตฯ

นางนที เรียมแสน 5 ข้อหา ได้แก่

1. ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต

2. ร่วมกันพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะ โดยไม่ได้รับอนุญาต

3. ร่วมกันมีไว้ในครอบครองซึ่งซากสัตว์ป่าฯ

4. ร่วมกันซ่อนเร้น พาเอาไปเสีย หรือรับไว้ด้วยประการใดๆ ซึ่งซากของสัตว์ป่าอันได้มาโดยกระทำผิดกฎหมาย

5. ร่วมกันเก็บหาของป่าในเขตป่าสงวนแห่งชาติโดยไม่ได้รับอนุญาตฯ

นายธานี ทุมมาศ 8 ข้อหา ได้แก่

1. ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต

2. ร่วมกันพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะ โดยไม่ได้รับใบอนุญาตฯ

3. ร่วมกันล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโดยไม่ได้รับอนุญาตฯ

4. ร่วมกันล่าสัตว์ป่าคุ้มครองโดยไม่ได้รับอนุญาตฯ

5. ร่วมกันมีไว้ในครอบครองซึ่งซากสัตว์ป่าฯ

6. ร่วมกันช่วยซ่อนเร้น พาเอาไปเสีย หรือรับไว้ ซึ่งซากของสัตว์ป่าอันได้มาโดยกระทำผิดกฎหมาย

7. ร่วมกันเก็บหาของป่าในเขตป่าสงวนแห่งชาติโดยไม่ได้รับอนุญาตฯ

8. พยายามล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโดยไม่ได้รับอนุญาตฯ

คำพิพากษาศาลชั้นต้น

วันที่ 19 มีนาคม 2562 ศาลจังหวัดทองผาภูมิพิพากษาคดีล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันตก ดังนี้

จำเลยที่ 1 เปรมชัย กรรณสูต : รวมจำคุก 16 เดือน ยกฟ้อง 1 ข้อหา

ถูกลงโทษข้อหาร่วมกันพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต จำคุก 6 เดือน

ข้อหาล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า กับข้อหาร่วมกันล่าสัตว์ป่าคุ้มครองโดยไม่ได้รับอนุญาตฯ (กรรมเดียวเป็นความผิดกฎหมายหลายบท) จำคุก 8 เดือน

ข้อหาร่วมกันมีซากสัตว์ป่าคุ้มครองไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต กับ ข้อหาร่วมกันซ่อนเร้นซึ่งซากสัตว์ป่าอันได้มาโดยกระทำความผิดกฎหมาย (กรรมเดียวเป็นความผิดกฎหมายหลายบท) จำคุก 2 เดือน

จำเลยที่ 2 นายยงค์ โดดเครือ : รวมจำคุก 13 เดือน ยกฟ้อง 3 ข้อหา

ถูกลงโทษข้อหาร่วมกันมีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับใบอนุญาต จำคุก 3 เดือน

ข้อหาร่วมกันพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะ โดยไม่ได้รับใบอนุญาต จำคุก 6 เดือน

ข้อหาร่วมกันมีซากสัตว์ป่าคุ้มครองไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต กับ ข้อหาร่วมกันซ่อนเร้นซึ่งซากสัตว์ป่าอันได้มาโดยกระทำความผิดกฎหมาย (กรรมเดียวเป็นความผิดกฎหมายหลายบท) จำคุก 8 เดือน จำคุก 2 เดือน

จำเลยที่ 3 นที เรียมเเสม : จำคุก 4 เดือน และปรับ 10,000 บาท โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้ มีกำหนด 2 ปี ยกฟ้อง 3 ข้อหา

ถูกลงโทษข้อหาร่วมกันมีซากสัตว์ป่าคุ้มครอง ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต กับ ข้อหาร่วมกันซ่อนเร้นซึ่งซากสัตว์ป่าอันได้มาโดยกระทำความผิดกฎหมาย (กรรมเดียวเป็นความผิดกฎหมายหลายบท)

จำเลยที่ 4 นายธานี ทุมมาศ : รวมจำคุก 2 ปี 17 เดือน (ไม่มีข้อหาใดยกฟ้อง)

ถูกลงโทษข้อหาร่วมกันมีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับใบอนุญาต จำคุก 3 เดือน

ข้อหาร่วมกันพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะ โดยไม่ได้รับใบอนุญาต จำคุก 6 เดือน

ข้อหาล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า กับข้อหาร่วมกันล่าสัตว์ป่าคุ้มครองโดยไม่ได้รับอนุญาตฯ (กรรมเดียวเป็นความผิดกฎหมายหลายบท) จำคุก 1 ปี

ข้อหาร่วมกันมีซากสัตว์ป่าคุ้มครองไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต กับ ข้อหาร่วมกันซ่อนเร้นซึ่งซากสัตว์ป่าอันได้มาโดยกระทำความผิดกฎหมาย (กรรมเดียวเป็นความผิดกฎหมายหลายบท) จำคุก 4 เดือน

ข้อหาพยายามล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโดยไม่ได้รับอนุญาตฯ จำคุก 4 เดือน

ข้อหาร่วมกันเก็บหาของป่าในเขตป่าสงวนแห่งชาติโดยไม่ได้รับอนุญาตฯ จำคุก 1 ปี

คำพิพากษาศาลอุทธรณ์

วันที่ 12 ธ.ค.62 ศาลจังหวัดทองผาภูมินัดอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ดังนี้

เพิ่มโทษนายเปรมชัย กรรณสูต จำคุก 2 ปี 14 เดือน (ไม่รอลงอาญา)

นายยงค์ โดดเครือ จำคุก 2 ปี 17 เดือน (ไม่รอลงอาญา)

นางนที เรียมแสน จำคุก 1 ปี 8 เดือน ปรับเงิน 40,000 บาท แต่ให้รอลงอาญา 2 ปี และ

นายธานี ทุมมาศ จำคุก 2 ปี 21 เดือน (ไม่รอลงอาญา)

นายเปรมชัย กับพวกรวม 4 คน ได้ประกันตัวคนละ 1 ล้านบาท พร้อมการติดกำไลข้อเท้า EM และเงื่อนไขห้ามเดินทางออกนอกประเทศระหว่างการยื่นฎีกา

กระบวนการชั้นฎีกา

– วันที่ 11 มี.ค. 63 นายเปรมชัย พร้อมพวก ได้ยื่นคำร้องต่อศาลจังหวัดทองผาภูมิ เพื่อขอขยายระยะเวลายื่นฎีกา เป็นครั้งที่ 3 และศาลพิจารณาให้ขยายเวลาได้ถึงวันที่ 10 เม.ย. 63  ต่อมาในวันที่ 12  มี.ค. 63 ซึ่งเป็นวันครบกำหนดการขอขยายระยะเวลายื่นฎีกาของอัยการโจทก์ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุดได้รายงานถึงความคืบหน้าการพิจารณาการยื่นฎีกาคดีร่วมกันล่าเสือดำ ที่ศาลอุทธรณ์ภาค 7 พิพากษาแก้เพิ่มโทษจำคุกโดยไม่รอลงอาญา นายเปรมชัย กรรณสูต และพวกรวม 4 คน ว่าพนักงานอัยการจังหวัดทองผาภูมิ โจทก์ ได้เดินทางไปยืนยันต่อศาลจังหวัดทองผาภูมิ ว่าไม่ขอฎีกา เนื่องจากได้มีการตรวจสอบ พิจารณาประเด็นและเหตุผล รวมทั้งบทลงโทษที่ศาลอุทธรณ์ภาค 7 มีคำพิพากษาแล้ว เห็นว่าครบถ้วนตามที่อัยการโจทก์ได้ฟ้องไป จึงมีความเห็นไม่ยื่นฎีกาอีก ซึ่งตามขั้นตอนก็ได้ส่งความเห็นนี้ไปยังผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 (ผบช.ภ.7) เพื่อพิจารณาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา145/1 เมื่อช่วงต้นเดือน ก.พ. ที่ผ่านมา โดย ผบช.ภ.7 ได้ส่งความเห็นกลับมาแล้วว่า เห็นตรงตามอัยการ ดังนั้น ความเห็นจึงเป็นที่ยุติแล้วว่าไม่ฎีกาเกี่ยวกับผลคดีดังกล่าวอีกต่อไป  เมื่อเข้าสู่ขั้นตอนการยื่นฎีกาของจำเลย อัยการโจทก์จะพิจารณาแก้ประเด็นฎีกาของจำเลย

– วันที่ 1 เม.ย. 63 นายเปรมชัย จำเลยที่ 1 จำเลยที่ 2 และจำเลยที่ 4 ยื่นคำร้องขอฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง โดยผู้พิพากษาได้รับรองอนุญาตให้จำเลยที่ 1, 2 และ 4 ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงได้ ส่วนแม่ครัว จำเลยที่ 3 คดียุติตามคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ภาค 7 เนื่องจากอัยการโจทก์และจำเลยที่  3  ไม่ติดใจยื่นฎีกา

– วันที่ 16  เม.ย. 63 มูลนิธิสืบนาคะเสถียร ได้สอบถามความคืบหน้าการยื่นฎีกาของจำเลยที่ 1,  2 และ 4 ยังศาลจังหวัดทองผาภูมิ ได้ความว่า นายเปรมชัย และพวก ได้ทำการยื่นฎีกา เพื่อต่อสู้คดีเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

– วันที่ 8 ธันวาคม 2564 เวลา 09.00 น. ศาลจังหวัดทองผาภูมินัดอ่านคำพิพากษาศาลฎีกาคดีล่าสัตว์ป่า

หมายเหตุ : ตามหลักกฎหมาย หากศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษาแก้โทษ แต่จำคุกไม่เกิน 5 ปี ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218 ห้ามมิให้คู่ความฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง

แต่หากผู้พิพากษาคนใดซึ่งพิจารณาหรือลงชื่อในคำพิพากษา หรือทำความเห็นแย้งในศาลชั้นต้นหรือศาลอุทธรณ์ พิเคราะห์แล้วเห็นว่าข้อความที่ตัดสินนั้นเป็นปัญหาสำคัญอันควรสู่ศาลสูงสุด (ฎีกา) และอนุญาตให้ฎีกา ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 221 แล้วสามารถให้รับฎีกาไว้พิจารณาต่อไปได้









Recommend News






MOST POPULAR


























©2018 ONBNEWS. All rights reserved.